Rechercher dans ce blog

Tuesday, October 31, 2023

ไข่ขาว ทำอะไรได้บ้าง แยกไข่ออกแล้วอย่าทิ้ง ประโยชน์เพียบ! - TrueID Food

       ไข่ขาว ทำอะไรได้บ้าง? เมื่อไข่ขาวถูกแยกออกจากไข่แดงแล้ว จะทิ้งก็เสียดาย จะเก็บไว้ก็ไม่รู้จะทำอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ บอกเลยว่า ประโยชน์ของไข่ขาว มีอยู่แน่ฟองเลยทีเดียว! เหลือจากการแยกไข่แดงออกไปดอง หรือทำเบเกอรี่ ขนมหวานต่างๆ ใครที่ยังไม่รู้จะเอาไปทำอะไร รู้สึกเสียดายน้องคนนี้ ตามเรามาดูไอเดียกันได้เลยค่า

ไข่ขาว ที่เหลือ ทำอะไรได้บ้าง

 1. ทำขนม เบเกอรี่

        ไอเดียแรกที่เป็นที่รู้กันเลยก็คือ นำไข่ขาวไปทำขนมได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น เมอแรงก์ มาการอง เค้ก ซูเฟล่ โสมนัส และอีกหลากหลายเมนูของหวาน ที่บอกเลยว่าไข่ขาว มีดีไม่แพ้ไข่แดงแน่นอน เพราะไข่ขาวมีคุณสมบัติพิเศษคือการทำให้ขนมฟูและมีเนื้อที่เนียนละมุน

2. ทำอาหาร

นอกจากไข่ขาวจะนำไปทำเมนูขนมเอาใจสายหวานได้แล้ว ยังสามารถนำมาทำของคาวได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเมนูพื้นฐานคือ ไข่ดาว ไข่เจียว แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นยังสามารถนำไข่ขาวไปผสมกับเมนูอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น การนำไปหมักกับ กุ้งสับ หมูสับ จะทำให้เนื้อเนียนนุ่มเด้ง อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก

3. ทำเส้น หรือแผ่นแป้งได้

รู้หรือไม่ ไข่ขาวก็ทำเส้นได้! บอกเลยว่าไข่ขาวมีดีมากกว่าการต้องถูกทิ้งแน่นอน เพราะสามารถทำเป็นเส้นเนื้อดีได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นใหญ่ เส้นบะหมี่่คีโต รวมถึงสามารถนำไปทำเป็นแป้งเครปได้อีกด้วยน้า

4. ทำเมนูอาหารคลีน

เนื่องจากไข่ขาวมีแคลอรี่ต่ำ แต่มีโปรตีนสูง ทำให้เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบหลักของเมนูคลีนๆ เพื่อสุขภาพ สามารถทำได้หลากหลายเมนู เช่น โจ๊กไข่ขาว ไข่ขาวกระทะ ยำไข่ขาว เครปไข่ขาว 


คุณค่าทางโภชนาการ ไข่ขาว 

ไข่ขาว 1 ฟอง พลังงาน 17 กิโลแคลอรี

  • โปรตีน 4 กรัม
  • โซเดียม 55 มิลลิกรัม
  • โฟเลต 1.3 ไมโครกรัม 
  • ซีลีเนียม 6.6 ไมโครกรัม 
  • แคลเซียม 2.3 มิลลิกรัม 
  • แมกนีเซียม 3.6 มิลลิกรัม 
  • ฟอสฟอรัส4.9 มิลลิกรัมและ 
  • โพแทสเซียม 53.8 มิลลิกรัม
  • ไขมัน 0

ใครที่กำลังมองหาที่เลือกวัตถุดิบคุณภาพดี ในการทำเมนูอร่อย บอกเลยว่าครบ จบได้ในที่ แม็คโคร Makro แถมยังได้ส่วนลด สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทรูด้วย ส่วนลด แม็คโคร Makro ดีๆ แบบนี้ ต้องห้ามพลาดแล้วน้า ตามไปกดรับสิทธิ์ได้เลย!

คลิกแลกทรูพอยท์ เพื่อรับส่วนลดที่ แม็คโคร ได้ที่นี่

บทความที่คุณอาจสนใจ

Adblock test (Why?)


ไข่ขาว ทำอะไรได้บ้าง แยกไข่ออกแล้วอย่าทิ้ง ประโยชน์เพียบ! - TrueID Food
Read More

ไม่อายทำกิน "ดีเจเอกกี้" เผยเงินเก็บจากไลฟ์ขายของ เห็นแล้วปรบมือให้เลย - Sanook

ดีเจเอกกี้ เล่าที่มาของเงินปึกใหญ่จากการขายของ นำไปจ่ายค่าต่างๆ แบบไม่รบกวนเงินเก็บ แฟนๆ ปรบมือรัวๆ 

เป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าชื่นมากๆ ของ ดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ นอกจากรับงานพิธีกรและรับงานแสดงต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งงานที่เจ้าตัวทำอย่างมีความสุขมากนั่นคือการได้ไลฟ์ขายสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ซึ่งหากใครติดตามการไลฟ์ของ ดีเจเอกกี้ จะเห็นว่ามีฐานลูกค้าอย่างเหนียวแน่นมากๆ การันตีเรื่องคุณภาพนั่นเอง  

ล่าสุด ดีเจเอกกี้ ได้บอกเล่าที่มาของเงินเก็บส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ใช้เลยในระยะเวลา 3 เดือนจากการไลฟ์ขายของ จนกลายเป็นเงินปึกใหญ่ที่สามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยไม่ต้องรบกวนเงินเก็บแต่อย่างใด

โดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า "เอาไปจ่ายค่านิติ, ค่าประกันสุขภาพ, ค่าประกันรถ ค่าโน่นนี่ โดยไม่ใช้เงินเก็บค่ะ สู้ๆ นะทุกคน" และสุดท้ายเจ้าตัวบอกอย่างขำๆ ว่า "โจรไม่ต้องมานะ จ่ายไปหมดเเล้ว" 

หลายคนได้เห็นและได้ฟังการบอกเล่าของ ดีเจเอกกี้ ต่างชื่นชมในความขยันหมั่นเพียรและแนวคิดการวางแผนต่างๆ ที่ดีเยี่ยมมากๆ

Adblock test (Why?)


ไม่อายทำกิน "ดีเจเอกกี้" เผยเงินเก็บจากไลฟ์ขายของ เห็นแล้วปรบมือให้เลย - Sanook
Read More

ศิลปินสาวโคราชทำวุ้นแฟนซีสุดเก๋ แต่งหน้าตาเป็นเมนูอาหารต่างๆ สมจริงจนคนติดใจ - ไทยรัฐ

จากวุ้นมะพร้าวธรรมดา ถูกสร้างสรรค์จากไอเดียสุดเก๋เป็นวุ้นแฟนซี หน้าขนมจีนน้ำยาไก่ วุ้นกะเพราไข่ดาว วุ้นส้มตำ ที่แสนสวยงามสมจริง ฝีมือของศิลปินหญิงชาวโคราช เจ้าของเพจ เรื่องวุ้นวุ้นของตุ๊ก

ผู้สื่อข่าวพาไปชมการทำวุ้นไอเดียสุดเก๋ จำลองเมนูอาหารชนิดต่างๆ ที่ทำขึ้นจากวุ้นมะพร้าวแสนอร่อย โดย นางทิพวรรณณ์ ลีรัชดานนท์ หรือพี่ตุ๊ก อายุ 54 ปี ชาวบ้านย่านถนนราชนิกูล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าของเพจเรื่องวุ้นวุ้นของตุ๊ก ผู้ผุดไอเดียอันน่าทึ่งโดยการทำวุ้นที่สวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร เช่น วุ้นเมนูขนมจีนน้ำยาไก่ วุ้นกะเพราหมูไข่ดาว และวุ้นส้มตำ ที่ทั้งน่ารับประทานและดูสมจริงเป็นอย่างมาก

พี่ตุ๊ก เจ้าของเพจ เรื่องวุ้นวุ้นของตุ๊ก เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นคนชอบงานศิลปะและเรียนจบทางด้านศิลปกรรม จากวิทยาลัยครูนครราชสีมา (มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา) และได้สนใจในการทำวุ้นมะพร้าว โดยเริ่มศึกษาวิธีการทำวุ้นด้วยตนเองจากยูทูบ เริ่มจากลองทำวุ้นมะพร้าวรูปลูกเป็ดเป็นครั้งแรก โดยเพื่อนสั่งเหมาถวายที่วัด ก่อนจะพัฒนาลองผิดลองถูก และปรับปรุงสูตรวุ้นจนลงตัว ต่อมาจึงเริ่มทำเป็นวุ้นในรูปแบบต่างๆ ทั้งรูปสัตว์ต่างๆ ต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณ จากนั้นนำมาโพสต์ขายในเพจได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ต่อมาลูกชายของตนได้แนะนำให้ลองทำวุ้นเป็นรูปแบบของอาหารตามสั่ง ตนจึงเริ่มลองทำตามคำแนะนำทำวุ้นออกมาเป็นเมนูอาหารชนิดต่างๆ โดยใช้ทักษะในด้านศิลปะที่เคยร่ำเรียนมา และตั้งใจทำวุ้นออกมาให้สมจริงมากที่สุด โดยเริ่มทำวุ้นกะเพราไข่ดาว และวุ้นเมนูส้มตำ เป็นเมนูแรกๆ โดยการดูจากรูปภาพอาหารแล้ววิเคราะห์รายละเอียดด้วยตัวเอง หาวิธีการเลียนแบบและเลือกใช้สีผสมอาหารบรรจงแต่งส่วนประกอบแต่ละชิ้นให้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด นอกจากนี้ยังรับทำเมนูอื่นๆ อีกมากมายตามใจของลูกค้า 

สำหรับสูตรวุ้นของพี่ตุ๊กจะเป็นสูตรหวานน้อย รสชาติกลมกล่อม เริ่มขั้นตอนการทำ คือ การหาวัตถุดิบอย่างน้ำมะพร้าว และเนื้อมะพร้าวนำมาผสมใส่ผงวุ้นก่อนที่นำไปตั้งไฟ เคี่ยวให้สุก เนื่องจากถ้าหากไม่สุกผงวุ้นจะคายน้ำ จากนั้นเริ่มขึ้นรูปโดยนำวุ้นมาเทใส่แม่พิมพ์ โดยแม่พิมพ์หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุแม่พิมพ์อาหารทั่วไป ซึ่งบางอย่างจะผสมสีในวุ้นเลยแต่บางอย่างก็นำมาเพิ่มสีทีหลัง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นประมาณครึ่งชั่วโมง ต่อมาก็เริ่มแกะผลงานออกจากแม่พิมพ์ ก่อนที่จะนำมาประกอบตกแต่งจนกลายมาเป็นวุ้นแฟนซีอย่างที่เห็น

รวมขั้นตอนการทำวุ้นทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง โดยในวันนี้พี่ตุ๊กได้สาธิตการทำวุ้นมะพร้าว เป็นเมนูขนมจีนน้ำยาไก่ แม้แต่ชามขนมจีนก็เป็นวุ้นสามารถรับประทานได้ ประกอบกันทั้งเส้นขนมจีนผักชนิดต่างๆ ขาไก่ เลือดไก่ และน้ำยาขนมจีน ซึ่งทำมาจากวุ้นที่มีสีสันสวยงามและสมจริง น่ารับประทานเป็นอย่างมาก

พี่ตุ๊ก ฝากไปถึงคนที่กำลังมองหาอาชีพ หรืออยากมีรายได้เสริมว่า ขอเพียงแค่ให้ตั้งใจและทำในสิ่งที่รัก เปลี่ยนความคิด เปิดใจ บอกตัวเองว่าในเมื่อคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ หาสิ่งที่สนุกสิ่งที่ทำได้เรื่อยๆ ทำในสิ่งที่ชอบแล้วเราจะทำได้ดีและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ เมื่อลูกค้าได้ไปรับประทานแล้วเราได้รับคำชมกลับมาก็ยิ่งทำให้เรามีความสุขยิ่งขึ้น

สำหรับราคาของวุ้นในทุกๆ รูปแบบ ขายในราคาปอนด์ละ 350 บาท ท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเรื่องวุ้นวุ้นของตุ๊กหรือเบอร์โทรศัพท์ 085-630-9720 โดยต้องสั่งล่วงหน้า 3 วัน เนื่องจากมีลูกค้าให้ความสนใจสั่งทำเป็นจำนวนมาก.

Adblock test (Why?)


ศิลปินสาวโคราชทำวุ้นแฟนซีสุดเก๋ แต่งหน้าตาเป็นเมนูอาหารต่างๆ สมจริงจนคนติดใจ - ไทยรัฐ
Read More

เอ็นดูเชฟตัวน้อย 2 ขวบ โชว์ตอกไข่ทำเมนูผัก เคล็ดลับอารมณ์ดี สร้างกล้ามเนื้อให้ลูก (คลิป) - ไทยรัฐ

“เอวา” หนูน้อยวัย 2 ขวบ สอนทำอาหารในโลกโซเชียล มีผู้ติดตามกว่า 4 หมื่นคน ได้รับเสียงชื่นชมถึงความน่ารัก โดยเฉพาะสกิลการตอกไข่ ทำให้เห็นถึงความแข็งแรง โดยคุณแม่เผยว่า ให้น้องได้ลองเข้าครัวตั้งแต่ 1 ขวบ เป็นการสร้างพัฒนาการจดจำ และให้ลูกได้ทานอาหารที่หลากหลาย

กลายเป็นคลิปทำอาหารที่ได้รับความนิยมใน TikTok โดยผู้ใช้ชื่อว่า khun_avalyn ได้อัดคลิปลูกสาววัย 2 ขวบ สอนการทำอาหาร มีเมนูหลากหลาย เช่น สุกี้น้ำ ใบเหลียงผัดไข่ ผัดถั่วลันเตา สปาเกตตี ผัดหอยลายราดน้ำ และผู้ที่มาดูต่างชื่นชมในความน่ารัก โดยเฉพาะการตอกไข่ ที่น้องมีความชำนาญ แถมยังทานทุกเมนูที่ได้ทำโชว์ จนบางคลิปมีคนกดไลค์หลายหมื่นคน

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังคุณแม่น้องเอวา หนูน้อยวัย 2 ขวบ เจ้าของคลิปเล่าว่า ตอนแรกที่เริ่มทำคลิปสอนทำอาการ เพราะน้องเริ่มเข้าครัวดูคุณแม่ทำอาหารตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ตอนนั้นให้น้องได้ลองเด็ดผัก หรือหยิบจับวัตถุดิบในการทำอาหารที่ง่ายๆ และค่อยสอนน้องว่าสิ่งที่ทำอยู่คืออะไร เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ไปด้วย

จากนั้นพอน้องเอวา เริ่มเข้า 2 ขวบ น้องอยากทำอาหารเอง คุณแม่จึงไปหามีดหั่นสำหรับเด็ก และหม้อไฟฟ้า ที่ป้องกันไม่ให้น้องถูกความร้อน และเริ่มจากเมนูทำกินเองที่บ้าน แม่จะเป็นคนเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดไว้ให้

ด้วยความที่คุณแม่ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แต่พอมีลูกคนแรกคือ น้องเอวา เลยพยายามศึกษา และให้น้องช่วยเหลือตัวเอง เช่น กินข้าวเองตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้น้องมีกล้ามเนื้อมือและแขนที่แข็งแรง เทคนิคการตอกไข่ กว่าจะออกมาสวยงามเหมือนในคลิป ต้องให้ลูกได้ตอกไข่เอง แม้ผิดพลาดก็อย่าไปตำหนิ ไม่เช่นนั้น ลูกจะไม่กล้าทำอีก

ช่วงแรกที่เริ่มให้ลูกทำกับข้าวด้วยกัน จะเลอะเทอะเป็นธรรมดา แต่แม่อยากให้เขามีพัฒนาการ และลูกเองก็อยากทำ การจะอัดคลิปทำอาหารแต่ละครั้ง แม่จะถามก่อนว่า อยากทำหรือเปล่า ถ้าลูกไม่อยากทำก็จะไม่บังคับ แต่ถ้าลูกอยากทำจะค่อยๆ สอน จนช่วงหลังลูกเริ่มมีความชำนาญในการหั่นผัก เริ่มเรียนรู้ชื่อผัก และวัตถุดิบในการทำอาหาร เช่น กระเทียม ที่นำมาทำในหลายเมนู พอใส่ลงไปในผัด เขาจะจำได้

ในเวลาทำอาหาร แม่จะคอยดูแลและระวังในส่วนที่อาจเป็นอันตราย และจะทำให้ในบางขั้นตอนที่ยากสำหรับเด็ก ซึ่งด้วยความที่ให้ลูกกินอาหารหลากหลายตั้งแต่เล็ก ทำให้น้องสามารถกินผักได้ เช่น คลิปที่ทำใบเหลียงผัดไข่ ในการทำหลังจากเสร็จแล้ว ต้องใช้กรรไกรตัดให้ใบเหลียงมีขนาดเล็กลง เพื่อให้เด็กวัย 2 ขวบ สามารถทานได้

การเข้าครัวของน้องเอวา นอกจากเป็นการทำกิจกรรมภายในครอบครัวแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูก เพราะมีผลวิจัยบอกว่า การที่ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อมือที่เหมาะสม จะส่งผลต่อพัฒนาการสมองที่ดีขึ้น สำหรับคุณแม่ที่อยากพาลูกเข้าครัว อยากให้หาเครื่องครัวสำหรับเด็ก และค่อยๆ สอนลูก ซึ่งช่วงระยะแรก เขาอาจไม่อยู่กับที่ แต่พอเห็นแม่ทำบ่อยเข้า ก็เริ่มอยากจะมาเรียนรู้การทำ

อยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูคลิปน้องเอวา และทุกเสียงที่ชื่นชม สำหรับพ่อแม่ที่อยากสร้างพัฒนาการให้ลูกด้วยการพาเข้าครัว สามารถทำได้ทันที โดยต้องเปิดใจกว้าง ไม่กลัวว่าลูกจะเลอะเทอะ แต่แม่ต้องพยายามเรียนรู้ไปกับลูกด้วย.

Adblock test (Why?)


เอ็นดูเชฟตัวน้อย 2 ขวบ โชว์ตอกไข่ทำเมนูผัก เคล็ดลับอารมณ์ดี สร้างกล้ามเนื้อให้ลูก (คลิป) - ไทยรัฐ
Read More

ชะตา 6 ราศี ดวงการเงินค้าขายขึ้น ฉุดไม่อยู่ ทำอะไรก็จะรุ่ง แก้ปัญหาได้ - ข่าวสด - ข่าวสด

หมอเค้ก Magic stone เปิดชะตา 6 ราศี ดวงการเงินค้าขายขึ้น ทำอะไรก็จะรุ่ง จากร่วงโรย การลงทุนจนถึงสิ้นปีก็จะราบรื่น ไม่ว่าจะเจอวิกฤตก็สามารถแก้ไขปัญหาได้

ราศีมีการเปลี่ยนแปลง โดยอาจเปลี่ยนแปลงทั้งในทางที่ดีและเปลี่ยนแปลงในทาง ที่ต้องระมัดระวังช่วงนี้ดวงของแต่ละคน

หมอเค้ก Magic stone เผย ชะตา 6 ราศี ดวงการค้าขึ้น ฉุดไม่อยู่ ช่วงนี้ให้ระวังอารมณ์ให้มาก อย่าใจร้อนมิเช่นนั้นจะพัง ประกอบด้วย ราศีกุมภ์ ราศีกรกฎ ราศีกันย์ ราศีธนู ราศีมีน และ ราศีตุลย์

โดยทั้ง 6 ราศีนี้ ดวงการเงินค้าขายขึ้น ไม่ว่าจะเจอวิกฤตก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ในช่วงนี้ให้ระวังอารมณ์ให้มาก อย่าใจร้อนมิเช่นนั้นจะพัง ทำอะไรก็จะรุ่ง จากร่วงโรย การลงทุนจนถึงสิ้นปีก็จะราบรื่น

หมอเค้ก Magic stone เปิดชะตา 6 ราศี ดวงการเงินค้าขายขึ้น ทำอะไรก็จะรุ่ง จากร่วงโรย การลงทุนจนถึงสิ้นปีก็จะราบรื่น

หมอเค้ก Magic stone เปิดชะตา 6 ราศี ดวงการเงินค้าขายขึ้น ทำอะไรก็จะรุ่ง จากร่วงโรย การลงทุนจนถึงสิ้นปีก็จะราบรื่น

Adblock test (Why?)


ชะตา 6 ราศี ดวงการเงินค้าขายขึ้น ฉุดไม่อยู่ ทำอะไรก็จะรุ่ง แก้ปัญหาได้ - ข่าวสด - ข่าวสด
Read More

Monday, October 30, 2023

หนุนเกษตรชัยนาทปลูกหญ้า ทำอาหารหมักอัดก้อนสำหรับโคกระบือ ไว้ขายเป็นรายได้เสริม - ไทยรัฐ

รมช.อนุชา เยี่ยมศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ชัยนาท ชมเทคโนโลยีการผลิตพืชอาหารสัตว์หมักด้วยเครื่องห่อก้อนพลาสติก หนุนเกษตรกรปลูกหญ้าอาหารสัตว์เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ชี้ปลูกง่าย ปลูกได้ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ชัยนาท ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โอกาสนี้ รมช.อนุชา ได้เยี่ยมชมการสาธิตการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีการผลิตพืชอาหารสัตว์หมักด้วยเครื่องห่อก้อนพลาสติก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ได้ส่งเสริมให้เกษตรกร ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เหมาะสมสำหรับเกษตรกรรายย่อยนำไปใช้ได้ง่าย และอายุการเก็บรักษาได้นานกว่า  

สำหรับเครื่องห่อก้อนพืชอาหารสัตว์ขนาดเล็ก มีกำลังการผลิตก้อนพืชอาหารสัตว์หมัก ผลิตได้ 300 ก้อน หรือ 15 ตัน ต่อวัน ซึ่งสามารถผลิตอาหารหยาบคุณภาพดี ให้เพียงพอตลอดทั้งปี ยังสามารถรับรองยุทธศาสตร์จังหวัดชัยนาท ในการส่งเสริมการเลี้ยงโคต้นน้ำ “ชัยนาทบรีฟ” ตามนโยบายของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกด้วย ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาเกษตรกรให้ความสนใจในการผลิตใช้เลี้ยงสัตว์ของตนเอง และพัฒนาเป็นอาชีพ จัดตั้งกลุ่มอาชีพเพื่อการจำหน่าย ทั้งในประเทศและส่งออก 

รมช.อนุชา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันการทำเกษตรเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการสร้างรายได้ จึงได้สนับสนุนให้เกษตรกรมีอาชีพเสริม ซึ่งการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ก็เป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจ ปลูกง่าย ปลูกได้ต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการเพาะปลูก ยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม.

Adblock test (Why?)


หนุนเกษตรชัยนาทปลูกหญ้า ทำอาหารหมักอัดก้อนสำหรับโคกระบือ ไว้ขายเป็นรายได้เสริม - ไทยรัฐ
Read More

ประโยชน์ของประกันผู้สูงอายุดีอย่างไร อายุเยอะสามารถทำประกันได้หรือไม่ - ไทยรัฐ

ประกันของผู้สูงอายุสำคัญหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร นอกจากนี้ผู้สูงอายุต้องมีอายุเท่าไร จึงสามารถทำประกันได้ อายุเยอะแล้วสามารถจะทำได้หรือไม่

เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายท่าน ให้ความสนใจในการทำประกันมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากผ่านพ้นช่วงโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ยิ่งต้องตระหนักถึงการทำประกันมากยิ่งขึ้น เพื่อผลตอบแทนของชีวิตในบั้นปลาย และการแบ่งเบาภาระของค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ เพื่อความมั่นคงในชีวิตให้แก่ตัวเอง ครอบครัว และคนที่รัก

ถึงแม้ว่าประกันผู้สูงอายุจะเป็นที่สนใจ แต่ก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นก่อนการทำประกันอยู่มากจากผู้สูงอายุ เช่น ประกันผู้สูงอายุต้องตรวจสุขภาพหรือไม่ อายุเยอะแล้วยังสามารถทำประกันได้อยู่หรือเปล่า รายละเอียด และ เงื่อนไขที่มีทำให้ในบางครั้งผู้สูงอายุจึงไม่กล้าตัดสินใจในการซื้อประกันจากที่ต่างๆ มากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามวันนี้เรามีประโยชน์ของประกันผู้สูงอายุ มาแนะนำ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการตัดสินใจซื้อเพิ่มมากขึ้น

ประโยชน์ของประกันผู้สูงอายุ

  • ลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคต

ประโยชน์หลักในการทำประกัน คือ ตัวช่วยที่ทำให้เรารับผลกระทบต่อความเสี่ยงต่างๆ ให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรคต่างๆ สุขภาพ และอุบัติเหตุ ที่มีความไม่แน่นอน หากทำประกันเอาไว้ ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยง ทำให้ไม่ต้องรับภาระทางการเงินมากจนเกินไป

  • มีเงินใช้ตอนเกษียณอายุ

การทำประกันชีวิตเอาไว้ เปรียบเสมือนการลงทุน และตัวช่วยในการออมเงินเอาไว้ที่จะทำให้มีเงินเก็บใช้หลังเกษียณได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าในช่วงบั้นปลายชีวิตจะไม่มีเงินพอใช้ เพราะประกันชีวิตจะช่วยให้คุณมีเงินออมจากผลตอบแทนตามที่กรมธรรม์กำหนดไว้

  • สร้างความมั่นใจทางการเงินให้ตนเอง และครอบครัว

ประกันผู้สูงอายุทำให้มีเงินใช้ในช่วงบั้นปลายแล้ว การมีประกันยังช่วยเป็นฐานการเงินที่มั่งคงให้แก่ครอบครัวได้ โดยจะได้ผลตอบแทนตามกรมธรรม์ ตามเงื่อนไขในช่วงวัยเกษียณ ไม่ต้องใช้เงินครอบครัว ลูก และหลาน 

  • ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับคนรอบข้าง

การเจ็บป่วย หรือพบโรคต่างๆ ในช่วงสูงวัยมีสิทธิ และโอกาสเกิดขึ้นได้มาก การทำประกันเป็นหนึ่งในหนทางในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ตนเอง และครอบครัวในอนาคต ซึ่งจะไม่เป็นภาระของลูกหลาน ในด้านของค่ารักษาพยาบาล รวมถึงยังทำให้คนในครอบครัววางแผนการเงิน และการรักษาได้อย่างชัดเจนเวลาที่ป่วย ตามเงื่อนไขของประกัน 

อายุเยอะสามารถทำประกันได้หรือไม่

ปัจจุบันประกันผู้สูงอายุมีอยู่หลากหลายประเภทมากมาย โดยส่วนใหญ่จะเริ่มทำได้ในช่วงอายุ 50 ไปจนถึง 70 ปี และจะคุ้มครองในช่วงอายุ 80-90 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประกันที่รองรับอายุที่เยอะกว่าตัวเลขข้างต้นในบางรายการ แต่อาจจะมีเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบตามมาด้วย เช่น การตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน หรือเบี้ยประกันที่สูงขึ้น

การตรวจสุขภาพก่อนทำประกันจำเป็นหรือไม่

การตรวจสุขภาพก่อนทำประกันนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของประกันในแต่ละบริษัท โดยมีบางรายการที่อาจไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ

1. ศึกษารายละเอียด และเงื่อนไข 

2. เลือกประกันตามแบบที่ต้องการ 

3. ระยะเวลาของการคุ้มครอง

4. เลือกเบี้ยประกันที่จ่ายไหว 

ภาพ : istock

Adblock test (Why?)


ประโยชน์ของประกันผู้สูงอายุดีอย่างไร อายุเยอะสามารถทำประกันได้หรือไม่ - ไทยรัฐ
Read More

"ธรรมนัส" ลุยนโยบายที่ดินทำกิน มอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี - ไทยรัฐ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลุยนโยบายที่ดินทำกินให้ชุมชน ลงพื้นที่ คทช. ต.สิงห์ จ.กาญจนบุรี มอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก.

วันที่ 29 ต.ค. 66 ที่ จ.กาญจนบุรี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมนายวุฒิพงศ์ เนียมหอม, นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ ส.ป.ก., ผู้ตรวจราชการกรม และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลสิงห์ และโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ต.สิงห์ จ.กาญจนบุรี พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ ขณะที่ เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวรายงานผลการดำเนินงานในพื้นที่ ในงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน" ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.กาญจนบุรี

สำหรับพื้นที่ดำเนินการของ จ.กาญจนบุรี ได้ประกาศเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน จำนวน 1,282,414 ไร่ พื้นที่ 12 อำเภอ 41 ตำบล เนื้อที่ดำเนินการหลังกันพื้นที่สาธารณูปโภค และหนังสือสำคัญออกแล้ว จำนวน 788,822 ไร่ ดำเนินการแล้ว 11 อำเภอ 40 ตำบล เกษตรกรได้รับการอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว จำนวน 41,115 ราย 51,907 แปลง 737,207 ไร่ มีเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่จะรับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) จำนวนทั้งสิ้น 100 ราย

โดยที่ผ่านมา จ.กาญจนบุรี ได้ขับเคลื่อนงานจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในเขตปฏิรูปที่ดินท้องที่จังหวัดกาญจนบุรีประกอบด้วยพื้นที่เป้าหมาย ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จำนวน 3 แปลง ได้แก่ 1) แปลงที่ดินหมายเลข No.14 เนื้อที่ 1,223-0-65 ไร่ 2) แปลงที่ดินหมายเลข No.15 เนื้อที่ 808-1-36 ไร่ และแปลงที่ดินหมายเลข AL8 เนื้อที่ 946-3-60 ไร่ รวมเนื้อที่ 2,978-1-61 ไร่

หลังจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน โดยเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานในพื้นที่จากหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ นิทรรศการการจัดที่ดินชุมชนให้กับเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล โดย ส.ป.ก. นิทรรศการการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงแพะ โดย กรมปศุสัตว์ นิทรรศการการบริหารจัดการน้ำ โดย กรมชลประทาน นิทรรศการแผนการก่อสร้างสระน้ำพร้อมโรงสูบน้ำ โดย กรมทรัพยากรน้ำนิทรรศการการบริหารจัดการสหกรณ์ในพื้นที่ คทช. นิทรรศการการปรับปรุงบำรุงดิน โดย กรมพัฒนาที่ดิน และพบปะเกษตรกร.

Adblock test (Why?)


"ธรรมนัส" ลุยนโยบายที่ดินทำกิน มอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี - ไทยรัฐ
Read More

Sunday, October 29, 2023

ธี่หยด ขึ้นแท่นหนังไทยเปิดตัววันแรก 'ทำเงินทั่วประเทศสูงสุด' และกวาดรายได้เกิน 100 ล้านเร็วที่สุดในปีนี้ - thestandard.co

ธี่หยด ภาพยนตร์สยองขวัญจากช่อง 3 และ M STUDIO ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของภาพยนตร์ไทยทำเงินวันแรกทั่วประเทศสูงสุดประจำปี 2566 ด้วยรายได้จำนวน 39 ล้านบาท แซง แมนสรวง ที่เข้าฉายเมื่อเดือนสิงหาคม และทำเงินวันแรกอยู่ที่ 11 ล้านบาท

และยังกลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่สามารถกวาดรายได้รวมเกิน 100 ล้านบาทได้เร็วที่สุดในปีนี้แทนที่เรื่อง สัปเหร่อ โดยใช้เวลาเพียง 3 วันหลังจากเข้าฉายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

ธี่หยด

ธี่หยด เป็นฝีมือกำกับของ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้กำกับละครและภาพยนตร์ เช่น ขุนกระบี่, อสุจ๊าก, ทองสุก 13 ฯลฯ แสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, มิ้ม-รัตนวดี วงศ์ทอง, เดนิส-เจลีลชา คัปปุน, จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี, เฟรนด์-พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน, เฟรช-อริศรา วงษ์ชาลี และ ปลาย-ปรเมศร์ น้อยอ่ำ

ธี่หยด

ภาพยนตร์สร้างมาจากเรื่องเล่าชื่อดังในกระทู้เว็บไซต์ Pantip ก่อนจะต่อยอดเป็นฉบับนิยายโดย กิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ผู้เป็นลูกเจ้าของเรื่อง สำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์เขียนบทโดย กอล์ฟ-สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ และ ก้อย-ธรรมณันน์ จุฬาบริรักษ์ พาย้อนไปหาปริศนาสุดสะพรึงขวัญในปี 2515 เมื่อเด็กสาวในหมู่บ้านห่างไกลแถบจังหวัดกาญจนบุรีเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองจนข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน หลังจาก ยักษ์ ปลดประจำการ เขาจึงกลับมาช่วยงานที่บ้านตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อ และ หยาด น้องสาวของยักษ์ก็สัมผัสได้ถึงภัยเร้นลับที่คืบคลานเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อ แย้ม น้องสาวของเธอเริ่มมีอาการแปลกๆ หลังจากเจอหญิงชุดดำลึกลับระหว่างกลับจากโรงเรียนที่มาพร้อมกับเสียง ‘ธี่หยด’ ยักษ์จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แย้มหายจากอาการประหลาด และทำให้ครอบครัวมีชีวิตรอดไปจากเสียงเพรียกสยองยามค่ำคืน

ตัวอย่างภาพยนตร์ 

ภาพ: M Pictures

อ้างอิง:

Adblock test (Why?)


ธี่หยด ขึ้นแท่นหนังไทยเปิดตัววันแรก 'ทำเงินทั่วประเทศสูงสุด' และกวาดรายได้เกิน 100 ล้านเร็วที่สุดในปีนี้ - thestandard.co
Read More

เปิดวาร์ปบอดี้การ์ดจำเป็น "พิธา" ที่นิวยอร์ก ทำคนหลุดโฟกัส ที่แท้เป็นพระเอกดัง - Sanook

ทำเอาหลุดโฟกัสกันใหญ่ แก๊งบอดี้การ์ดจำเป็นของ "พิธา" ขณะเดินทางไปพบปะพี่น้องชาวไทยที่นิวยอร์ก 1 ในนั้นคือพระเอกดัง

จากกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางไปร่วมงานกาลาดินเนอร์ TIME 100 Next ประจำปี 2023 ในโอกาสที่ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันพุธ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นายพิธา ได้เดินทางไปพบปะพี่น้องคนไทยในย่าน Little Thailand Way ในเขตควีนส์ ก่อนจะเดินเท้าต่อไปยังวัดพุทธไทยถาวรวนาราม โดยมีประชาชนมายืนรอต้อนรับอย่างหนาแน่น

ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ก็มีการแชร์คลิปบอดี้การ์ดจำเป็นของนายพิธา ที่ทำเอาหลายคนถึงกับหลุดโฟกัส ซึ่งที่แท้เจ้าตัวคือ ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย พระเอกหนุ่มชื่อดัง ซึ่งบินไปเรียนต่อ จนสำเร็จการศึกษา ป.โท จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกานั่นเอง

ซึ่ง ตุลย์ ภากร ก็ได้โพสต์ทั้งภาพคู่นายพิธา พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อวานนี้ ผมได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นั่งพูดคุยกับ ทิม พิธา ผู้มีอิทธิพลในการฟื้นฟูศรัทธาและความหวังของผมและคนรุ่นใหม่ในไทยที่มีต่อประเทศ

ขอบคุณที่ให้ผมเป็นตัวแทนของนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และได้พูดคุยสั้น ๆ กับคุณ แม้ว่าเราจะมีเวลาสั้น ๆ เนื่องจากตารางงานที่แน่น คุณทำให้เราประทับใจด้วยมุมมองที่ลึกซึ้ง ภูมิปัญญา และความเรียบง่ายของคุณ ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสหน้า

บทสนทนาของเขาไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่เกี่ยวกับความก้าวหน้า ความหวัง และอนาคตของประเทศไทย นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันเพื่ออนาคตที่สดใสและครอบคลุมยิ่งขึ้น

นิวยอร์กซิตี้ทำหน้าที่เป็นฉากหลังของการแลกเปลี่ยนอันกระจ่างแจ้งนี้ เตือนเราว่าความฝันของเราในการทำให้ประเทศไทยดีขึ้นนั้นไร้ขอบเขต!! ผู้ลงคะแนนเสียงอย่างพวกเราจะสนับสนุนพรรคก้าวไกลต่อไปอย่างแน่นอน แม้จะอยู่ในฝ่ายค้านของรัฐสภาก็ตาม เรามุ่งมั่นเพื่อประเทศไทยที่ทุกเสียงจะถูกรับฟังและตระหนักถึงศักยภาพของพลเมืองทุกคน ไปกันเลยยย"

นอกจากนี้ ตุลย์ ภากร ยังทิ้งท้ายว่า ในส่วนของหน้าที่บอดี้การ์ดจำเป็นนั้น ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่คาดคิดมาก่อน แต่ก็ยินดีมากที่ได้ทำ

Adblock test (Why?)


เปิดวาร์ปบอดี้การ์ดจำเป็น "พิธา" ที่นิวยอร์ก ทำคนหลุดโฟกัส ที่แท้เป็นพระเอกดัง - Sanook
Read More

ธี่หยด รายได้ทะลุ 200 ล้าน ทุบสถิติหนังไทยทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านเร็วสุดของปี - ประชาชาติธุรกิจ

ธี่หยด
ภาพจากเพจ Major Group

“ธี่หยด” กวาดรายได้ทั่วประเทศทะลุ 200 ล้านบาท ขึ้นแท่นหนังไทยทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านเร็วที่สุดของปี 2566 หลังเข้าฉายเพียง 3 วัน

วันที่ 29 ตุลาคม 2566 เรียกได้ว่ากระแสยังคงแรงอย่างต่อเนื่องและสร้างความหลอนแบบหยุดไม่อยู่ กับภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง “ธี่หยด” จากฝีมือกำกับของ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา, มิ้ม รัตนวดี และดำเนินการสร้างโดย ช่อง 3 และ M STUDIO (เอ็ม สตูดิโอ)

หลังจากเข้าฉายเพียง 3 วัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมเป็นวันแรก ล่าสุด เมเจอร์ กรุ๊ป ประกาศว่าภาพยนตร์ ธี่หยด เฮี้ยนไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ กวาดรายได้สู่ 200 ล้านบาททั่วประเทศ พร้อมทำสถิติขี้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านเร็วที่สุดของปี 2566 ด้วย นับเป็นหนังผีไทยที่มาแรงที่สุดในรอบปี

สำหรับเรื่องย่อ ธี่หยด เกิดขึ้นราวปี 2515 หรือเมื่อ 50 ปีที่เเล้ว ในหมู่บ้านห่างไกลของจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อมีเด็กสาวในหมู่บ้านเสียชีวิตลงอย่างปริศนา และข่าวเด็กสาวที่เสียชีวิตอย่างน่าสะพรึงก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเรื่องเหนือธรรมชาติก็เกิดกับครอบครัวหนึ่ง “แย้ม” ซึ่งเป็นน้องสาวในบ้านเริ่มมีอาการแปลก ๆ หลังจากเจอหญิงชุดดำลึกลับ ระหว่างกลับจากโรงเรียน อาการของแย้มทรุดลงเรื่อย ๆ พร้อมท่าทีประหลาดอย่างหาคำตอบไม่ได้

เหตุการณ์แปลกประหลาดปนสยองขวัญที่เกิดขึ้นคือเสียงปริศนา ฟังคล้ายบทสวดมนต์ หรือคำพูดไม่เป็นภาษา ดังว่า “ธี่หยด… ธี่หยด…” แว่วมาในยามราตรี

ภาพจาก เพจ Major Group
ภาพจากเพจ Major Group

Adblock test (Why?)


ธี่หยด รายได้ทะลุ 200 ล้าน ทุบสถิติหนังไทยทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านเร็วสุดของปี - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Saturday, October 28, 2023

ผู้นำอิสราเอลไม่สนใจชาวโลก ประกาศเดินหน้าทำสงคราม - Sanook

ผู้นำอิสราเอล ไม่สนใจชาวโลก ประกาศ สงครามเข้าสู่ระยะที่สอง ยกเป็นสงครามอิสรภาพครั้งที่สอง จะสู้และชนะ ทำลายศัตรูทั้งบนดินและใต้ดิน

 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลประกาศว่า กองกำลังอิสราเอล ได้เข้าสู่ระยะที่สอง ของการทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายฮามาส โดยเรียกการต่อสู้ครั้งนี้ว่าเป็น สงครามอิสรภาพครั้งที่สอง

“สงครามในฉนวนกาซาจะยาวนานและยากลำบาก เราเตรียมพร้อมสำหรับมัน นี่คือสงครามอิสรภาพครั้งที่สองของเรา เราจะต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิด เราจะสู้และไม่ถอย เราจะสู้ทั้งบนบก ในทะเล และทางอากาศเราจะทำลายศัตรูทั้งบนดินและใต้ดิน เราจะสู้และชนะ” นายเนทันยาฮู กล่าวระหว่างแถลงข่าวในช่วงเย็นตามเวลาท้องถิ่น โดยย้ำว่าสงครามครั้งนี้เป็น ภารกิจของชีวิตผม

นายเนทันยาฮู กล่าวต่อว่า ในขณะที่ผู้นำโลกบางคนเรียกร้องให้มีการหยุดยิง หรือหยุดยิงด้านมนุษยธรรม สหประชาชาติลงมติหลายญัตติ และผ่านหนึ่งญัตติเรียกร้องให้หยุดยิง ซึ่งอิสราเอลปฏิเสธโดยสิ้นเชิง และประณามว่า “น่ารังเกียจ”

ความตึงเครียดยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่อิสราเอลยังคงรุกล้ำเข้าไปในฉนวนกาซา ก่อนการรุกรานภาคพื้นดินที่คาดหวังไว้ มีรายงานว่าพันธมิตรเรียกร้องให้อิสราเอลชะลอการโจมตี ในขณะที่การเจรจาเรื่องตัวประกัน 220 คนลากยาว ซึ่งทำให้ผู้นำอิสราเอลผิดหวังที่กล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสใช้การเจรจาเพื่อชะลอเวลา และจัดทัพใหม่

ผู้นำอสราเอลทิ้งท้ายว่า สงครามระยะที่ 2 มีเป้าหมายชัดเจน การทำลายขีดความสามารถทางการทหารและรัฐบาลของฮามาส การส่งตัวประกันกลับบ้าน เราตัดสินใจที่จะขยายการปฏิบัติการภาคพื้นดินอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้งในคณะรัฐมนตรีสงคราม และคณะรัฐมนตรีความมั่นคงทางการเมือง เราทำเช่นนั้นด้วยความรอบคอบและรอบรู้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะประกันชะตากรรมของรัฐและรับรองความปลอดภัยของทหาร

Adblock test (Why?)


ผู้นำอิสราเอลไม่สนใจชาวโลก ประกาศเดินหน้าทำสงคราม - Sanook
Read More

ลุงฝรั่งหัวใจเกษตร ปลูกผักทำฟาร์มออร์แกนิก ต่อยอดความสุขคืนกำไรให้ธรรมชาติ - ไทยรัฐ

ลุงฝรั่งชาวอังกฤษหัวใจเกษตร เปิดเพจ “Udon Organic Farm” ถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักทำฟาร์มออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นความสุขได้ต่อยอดความฝันวัยเด็ก คืนกำไรกลับสู่ระบบนิเวศให้ธรรมชาติ

เรื่องราวสุดประทับใจของนักวิชาการด้านประมงชาวอังกฤษวัย 63 ปี มีความฝันอยากเป็นเกษตรกร อยากมีพื้นที่ทำไร่ ทำสวนและเลี้ยงสัตว์ วันนี้สร้างครอบครัวกับสาวชาวไทย มีลูกด้วยกัน 2 คน อาศัยอยู่ที่ จ.อุดรธานี สร้างบ้านและเปิดฟาร์มเล็กๆ ในพื้นที่ 8 ไร่ และต่อยอดความสุขตามความฝันที่มีมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการใช้พื้นที่กว่า 100 ไร่ ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์แบบออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ และยังไม่ลืมคืนกำไรกับคืนสู่ธรรมชาติ สร้างพื้นที่สีเขียว ปลูกป่าในพื้นที่ ใช้หลักการคืนระบบนิเวศทั้งพืชและสัตว์ ทั้งหมดเป็นที่มาของ “Udon Organic Farm” ที่พร้อมนำความสุขส่งต่อพลังบวกและองค์ความรู้ไปยังผู้ที่สนใจ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ “Udon Organic Farm” เลขที่ 74 ม.3 บ้านโนนคาม ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ไปพบกับนายนิโคลัส อินเนส เทเลอร์ อายุ 63 ปี ชาวอังกฤษ นางสาวแสงมรี อินพักทัน อายุ 55 ปี ภรรยา และนางสาวเจนนิเฟอร์ อินเนส เทเลอร์ อายุ 24 ปี ลูกสาว ที่กำลังต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือนฟาร์มแห่งนี้ ตั้งแต่การพูดคุยให้องค์ความรู้ของการทำเกษตรแบบออร์แกนิก ก่อนที่จะพาเยี่ยมชมบริเวณต่างๆ ภายในพื้นที่ 8 ไร่ของฟาร์ม และปิดท้ายด้วยการเดินชมฟาร์มขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ ที่ บ้านนาแอง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ห่างออกไปอีกประมาณ 6 กม.

นายนิโคลัส กล่าวถึงที่มาของฟาร์มแห่งนี้ว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ด้านเกษตรโดยเฉพาะจากอังกฤษ พอจบมาก็เป็นอาสาสมัครจากรัฐบาลอังกฤษ มาให้ความรู้ด้านการเกษตรในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยสอนอยู่วิทยาลัยเกษตรศรีสะเกษ 3 ปี แล้วกลับไปเรียนปริญญาโท ด้านประมง ชีวิตวนเวียนเป็นอาสาอยู่ ไทย ลาว เขมร และเมียนมา อยู่นานที่สุดก็คือไทย 30 ปี ลาว 10 ปี ส่วนใหญ่เป็นที่ปรึกษาโครงการการเลี้ยงปลาพื้นบ้าน ที่เลือกมาอยู่ที่อุดรฯ เพราะที่นี่มาความหลากหลายของพันธุ์ปลา นั่นคือที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนห้วยหลวง และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก

“เมื่อเริ่มมีครอบครัว ตนเองแต่งงานกับภรรยามาประมาณ 30 ปี ทำงานเก็บเงินซื้อที่ดินที่ บ้านโนนคาม ไว้ 8 ไร่ ตอนแรกสร้างบ้านหลังเล็กๆ ทิ้งไว้ แต่ต้องเดินทางไปทำงานหลายที่ ยังไม่มีเวลามาดูแล กระทั้งเมื่อ 13 ปีก่อน เริ่มมีแนวคิดอยากทำตามความฝันในวัยเด็ก อยากมีพื้นที่ทำการเกษตร จึงเก็บเงินซื้อที่ดิน บ้านนาแอง อีก 100 ไร่ เมื่อเกษียณตัวเองแล้ว ก็ได้มาใช้ชีวิตตามความฝัน ปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์แบบออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ถือว่ามีความสุขแล้ว เพียงพอแล้ว แต่ก็ยังสนุกกับการทำงานในฟาร์มเสมอ ยังสนุกกับการแก้ปัญหา สนุกกับการให้องค์ความรู้ไปยังผู้อื่น ชีวิตเหมือนเล่นหมากรุกกับธรรมชาติ” เจ้าของฟาร์ม Udon Organic Farm กล่าว

ด้าน น.ส.แสงมรี ภรรยาลุงชาวอังกฤษ กล่าวว่า พื้นเพตัวเองเป็นชาว จ.สิงห์บุรี ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่สนามบินดอนเมือง พบรักกับสามีที่นั่น มีโอกาสตามสามีไปทำงานยังที่ต่างๆ มันก็ซึมซับความเป็นเกษตรกรมาตลอด จนกลายเป็นรักความชอบไปแล้ว พื้นที่ 8 ไร่ของฟาร์ม ใช้วิธีการแบบเกษตรผสมผสาน แบ่งพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย 10% ปลูกพืช 30% เลี้ยงสัตว์ 30% และขุดบ่อเลี้ยงปลา 30% ส่วนที่ดิน 100 ไร่ เราไม่ได้กำหนดหรือมีแบบแผนตายตัว สามีจะคิดและปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ เลี้ยงวัว เลี้ยงหมู เลี้ยงห่าน อยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรไว้ เลี้ยงแบบธรรมชาติ ปล่อยให้เขาได้วิ่ง ได้ใช้ชีวิตแบบธรรมชาติจริงๆ ทุกๆ อย่างในพื้นที่ เราจะให้เขาดูแลกันเอง ตั้งพืชไร่ ต้นไม้ สัตว์ คืนระบบนิเวศให้ธรรมชาติ

"ย้อนกลับมาที่ฟาร์ม 8 ไร่ ที่นี่เริ่มจากการปลูกผักและเลี้ยงหมู ไก่ วัว เป็นรูปแบบออร์แกนิก ไม่ใช้อาหารหรือปุ๋ยที่มีสารเคมี ปลูกข้าว เราปลูกแบบไม่ไถพรวน ตอนแรกเราก็ปลูกพออยู่พอกินภายในครอบครัว เหลือเราก็เอาไปให้เพื่อน จนเพื่อนๆ บอกว่าทำขายเถอะ ให้มาเยอะแล้ว เราจึงเริ่มทำกันแบบจริงจัง สามีเป็นกำลังหลักในทำเกษตรทุกขั้นตอน เราเองก็จะมาดูแลเรื่องต้อนรับลูกค้า ทำอาหารไว้รับรองคนที่มาเยี่ยมชม ส่วนลูกสาวก็จะดูเรื่องการการตลาด ดูเรื่องการขาย เพราะเราขายแบบจัดส่งเดลิเวอรีโดยใช้บริษัทเอกชน ซึ่งจะต้องมีการออเดอร์อยู่ตลอด เราทำเพื่อความสุขของเรา และส่งต่อความสุขให้ผู้คนอื่นๆ ต่อไป" ภรรยาลุงชาวอังกฤษ กล่าว 

ส่วน น.ส.เจนนิเฟอร์ หรือน้องเจน กล่าวว่า ตัวเองถูกเลี้ยงดูกับการเกษตรมาตั้งแต่เด็ก อยากได้อะไรก็ทำงานในฟาร์มเป็นการแลกเปลี่ยน จบมัธยมก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนวิศวกรรมชีวการแพทย์ 2 ปี และไปต่อที่สกอตแลนด์อีก 2 ปี สุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่บ้าน มาต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ผสมผสานกับองค์ความรู้ของคุณพ่อ ช่วงแรกเราจะนำพืชผักในฟาร์มจัดจำหน่ายเป็นชุด มีชุดผักรวม ชุดผักรวมหมู ชุดผักรวมไก่ เราจัดจำหน่ายด้วยออเดอร์ผ่านช่องทางโซเชียล รวมทั้งมีออเดอร์จากร้านอาหารในเมือง แบ่งการขายเป็นแบบ 50-50 เพื่อรักษาฐานลูกค้าทั้งหมด

“ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียสำคัญมาก เราจึงต้องพัฒนาตามเทคโนโลยีให้ทัน ไม่จำเป็นต้องเป็นการขายเหมือนเดิม ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ต่อมาเราได้โพสต์กิจกรรมภายในฟาร์ม ก็มีลูกค้าที่สนใจ ติดต่อขอเข้ามาดูงานที่ฟาร์ม เราก็เริ่มเปิดรับผู้คนเข้ามาที่นี่ ปรับเปลี่ยนจากที่เคยให้มาฟรี เราก็เพิ่มกิจกรรมให้มากขึ้น มีการให้องค์รู้ นำวัตถุดิบในฟาร์มมาทำอาหารต้อนรับผู้ที่มาเยือน เป็นลูตการท่องเที่ยวด้านเกษตรออร์แกนิก เริ่มทำเป็นระบบได้ประมาณ 1 ปี เริ่มมีคนสนใจเข้ามาพอสมควร” ลูกสาวของเจ้าของฟาร์ม กล่าว 

น้องเจน กล่าวด้วยว่า ที่สุดแล้วครอบครัวก็ได้มีการวางแผนร่วมกัน ไม่ได้อยากหวังเงินหรือกำไรให้มากนัก ให้ทุกอย่างมันดูแลหมุนเวียนอยู่ในฟาร์ม ปัจจุบันปลูกข้าวหอมมะลิ ปลูกผักหลากหลายชนิด เลี้ยงวัวนม 2 ตัว วัวเนื้อ 46 ตัว ไก่เนื้อ 100 ตัว ไก่ไข่ 20 ตัว หมู 20 ตัว และ ห่าน 24 ตัว เริ่มแรกอาจจะยากหน่อย ใครที่มาดูก็บอกว่ามันจะสำเร็จหรือ ทำไมไม่ทำแบบนั้น แบบนี้ แต่พ่อก็ลองผิดลองถูก ใช้ความเป็นระบบนิเวศคืนสู่ธรรมชาติ ให้พวกเขาดูแลกันเอง ให้พวกเขามีความสุข ตอนนี้พื้นที่ทั้ง 8 ไร่ 100 ไร่ เป็นพืชที่สีเขียว ทำให้ธรรมชาติกลับคืนมาให้มากที่สุด หากสนใจก็เข้าไปที่เพจ “Udon Organic Farm” หรือช่องทางโซเชียลทุกช่องทาง.

Adblock test (Why?)


ลุงฝรั่งหัวใจเกษตร ปลูกผักทำฟาร์มออร์แกนิก ต่อยอดความสุขคืนกำไรให้ธรรมชาติ - ไทยรัฐ
Read More

'ปิยบุตร' ตั้งฉายาการจัดทำรธน.ฉบับใหม่ 'วิตกกังวลไปล่วงหน้า' เวลาเปลี่ยนจุดยืนเปลี่ยน - ไทยโพสต์

28 ต.ค.2566 - นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ให้ฉายาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับ "วิตกกังวล" เวลาเปลี่ยน จุดยืนเปลี่ยน

เมื่อ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติที่ สส. พรรคก้าวไกล เข้าชื่อกันเสนอเพื่อขอให้รัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา มีมติเห็นด้วยกับการทำประชามติว่าประเทศไทยจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่

ผลปรากฏมติที่ประชุมเห็นด้วยกับญัตติ 162 เสียง ไม่เห็นด้วย 261 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง เป็นอันว่าช่องทางในการขอให้ทำประชามติโดยตั้งคำถามตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ เป็นอันตกไปตั้งแต่ชั้นสภาผู้แทนราษฎร

สำหรับการทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น มีอีก 2 ช่องทางที่กำลังวิ่งอยู่ หนึ่งคือช่องทางผ่านคณะรัฐมนตรี ซึ่ง ครม. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาฯ ขึ้นมา สองคือช่องทางที่ภาคประชาชนเข้าชื่อกันมากว่า 200,000 ชื่อ ตั้งคำถามคล้ายกับที่พรรคก้าวไกลตั้ง ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจเอกสาร ก่อนจะเข้า ครม. ต่อไป

หากทุกท่านยังจำกันได้ ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ปลายสมัยของการประชุมสภาฯ ชุดที่แล้ว เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 มีการนำญัตติทำนองนี้เข้าไปเช่นเดียวกัน ครั้งนั้นพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยร่วมกันเสนอ คำถามประชามติคล้ายกันเลย แต่ปรากฏว่าผ่านฉลุย ทุกพรรคการเมืองยกมือให้หมด ก่อนจะไปตกที่ชั้นวุฒิสภา

ผมจึงตั้งคำถามตัวโตๆ ว่าทำไมรอบนี้ 25 ตุลาคม 2566 สส. ไม่โหวตให้ผ่านเหมือนเดิม ยังไม่พอ หลายพรรคการเมืองเอาไปหาเสียงด้วยว่าจะให้มีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. แต่ทำไมไม่แสดงจุดยืนให้ตรงกับนโยบายหาเสียง เสร็จแล้วก็ให้ไปตกในวุฒิสภาก็ยังได้

ในเมื่อพวกคุณพูดกันอยู่เสมอไม่ใช่หรือ ว่ายังไงก็ไปตกในชั้น สว. อยู่ดี เพราะวุฒิสภายังเป็นชุดเดิม เขาคงยืนยันแบบเดิมแน่ เช่นนั้น สส. ก็ยืนตัวตรงทะนงองอาจ เห็นชอบให้หมดเลย จะได้ยืนหลักเรื่องนี้ไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า สส. ร่วมมือร่วมใจกัน 261 คนไม่เห็นด้วย นี่เป็นข้อสังเกตแรกที่น่าสนใจ

อาจตั้งสมมุติฐานได้ว่า 3 พฤศจิกายน 2565 เป็นช่วงท้ายของสภาชุดที่แล้ว อีกไม่นาน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยุบสภา ดังนั้นเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ สส. หรือ นักการเมืองจากทุกพรรค จะทำอะไรต้องคิดอ่านให้รอบคอบ ต้องระแวดระวังเข้าไว้ เพราะเดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ถ้าทำอะไรที่ประชาชนไม่พอใจ ประชาชนไม่เห็นด้วย เขาก็จดจำแล้วจะไม่เลือกพรรคคุณ

นี่เป็นที่มาว่าทำไม รอบนั้น สส. ยกมือเห็นด้วยหมด แล้วให้ไปตกที่ สว. ให้ สว. เป็นแพะ แต่พอตอนนี้ เลือกตั้งเสร็จหมาดๆ พรรคก้าวไกลยื่นญัตติเดิมเข้าไปอีก คราวนี้กลับตาลปัตร

ดังนั้น ไม่ใช่แค่เนื้อหาของญัตติเท่านั้นที่สำคัญ การที่แต่ละญัตติเข้าสภา แล้ว สส. จะลงมติแบบไหน จังหวะช่วงเวลาก็สำคัญไม่แพ้กัน

ตลอดประวัติศาสตร์ทำรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่เคยล็อกหมวด 1 หมวด 2

ในการประชุมวันนั้น มีหลายเรื่องที่ดีเบตถกเถียงกัน แต่สรุปได้เป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ เรื่องแรก คือฝ่ายหนึ่งจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ อีกฝ่ายอยากให้ยกเว้นหมวด 1 (บททั่วไป) หมวด 2 (พระมหากษัตริย์) และเรื่องที่สอง ถกเถียงกันว่าท้ายที่สุดจะได้เลือกตั้ง สสร. ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกคนหรือไม่ หรือจะสรรหาคัดสรรอย่างไร

ผมยืนยันก่อนว่าการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในอดีตของประเทศไทย ไม่เคยมีความกังวลใจที่จะต้องล็อกหมวด 1 หมวด 2 ไม่ว่าฉบับ 10 ธันวาคม 2475 จนถึงฉบับ 2489 หรือฉบับ 2534 มายังฉบับ 2540 แม้กระทั่งฉบับ 2549 ไปยังฉบับ 2550

แสดงให้เห็นในทางประประวัติศาสตร์ของไทย ว่าการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากฉบับหนึ่งไปอีกฉบับหนึ่ง ไม่มีความจำเป็นต้องเว้นหมวด 1 หมวด 2 เวลาทำใหม่ก็คือทำใหม่ทั้งฉบับ

ยิ่งตามหลักวิชาการ การปรับปรุงแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 เป็นสิ่งที่ทำได้ ในทางตัวบทรัฐธรรมนูญก็ทำได้ ขนาดรัฐธรรมนูญ 2560 ยังบอกในตัวเองเลยว่าการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 ทำได้ แต่ต้องไปจบด้วยประชามติ

ดังนั้น ข้อห้ามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเพียง 2 เรื่อง คือห้ามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และห้ามเปลี่ยนรูปแบบของรัฐ จากรัฐเดี่ยวไปเป็นสหพันธรัฐ

ลองมาคิดดู ทำไมต้องกังวลล่วงหน้าขนาดนี้ สมมติเลือก สสร. กันมา เราจะรู้ได้อย่างไรว่า สสร. จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน จะแก้หรือไม่แก้ เขาอาจจะไม่ยุ่งกับหมวด 1 หมวด 2 เลยก็ได้ ทำไมถึงกังวลใจไปล่วงหน้า ทั้งที่ในอดีตไม่เห็นกังวลใจเรื่องแบบนี้

ลองคิดดูว่า ถ้าเขียนล็อกไว้แล้วเกิดมีปัญหาในทางปฏิบัติ จะทำอย่างไร ถ้าจำกันได้ หลังจากทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ต่อมาช่วงก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่าจำเป็นต้องแก้ไขตัวร่าง 2560 อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับหมวดพระมหากษัตริย์และพระราชอำนาจ เพราะต้องการทำให้เป็นไปตามพระราชประสงค์

จึงต้องถามว่า ในเมื่อเราไม่ทราบอนาคตว่าจะเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นหรือไม่ หากไปล็อกหมวด 1 หมวด 2 เอาไว้ เกิดมีความจำเป็นต้องเข้าไปเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไข เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับร่าง 2560 แล้วจะทำอย่างไร เราจะปิดประตูนี้ไว้ทำไม ยังไม่นับว่าการปิดประตูนั้น ไม่เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องในทางวิชาการด้วย

เห็นทิศทาง ความเห็นที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับ สสร.

อีกคำถามหนึ่ง ย้อนไปก่อนผลการเลือกออกมา ทำไมตอนนั้นแต่ละคนแต่ละพรรค พูดจาเป็นทิศทางเดียวกัน บอกว่าทำรัฐธรรมนูญ ให้ทำโดย สสร. และต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พอผ่านการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม แนวคิดนี้เริ่มเปลี่ยน

- สสร. ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนก็ได้
- สสร. ต้องแบ่งให้มีการสรรหาตามวิชาชีพมาด้วยก็ได้
- สสร. ต้องมีการสรรหาเชิงประเด็นมาด้วยก็ได้

ประเด็นนี้น่าสงสัยหรือไม่? ลองไปดูการออกรายการของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ที่มีคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ ของก้าวไกล และคุณนิกร จำนง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการศึกษาฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น คุณนิกรพูดไว้ชัดเจน ว่ามีความกังวลใจของคนบางกลุ่ม

ว่าหาก สสร. เลือกตั้งทั้งหมด เกิดคนที่เชียร์ก้าวไกลไปสนับสนุนคนกลุ่มนี้ให้เป็น สสร. เขาก็กังวลฐานเสียงของพรรคก้าวไกลที่ได้มาจากการเลือกตั้งกว่า 14 ล้านเสียง เลยกลายเป็นว่ากลัวพลังของการเลือกตั้ง เช่นนี้ สสร. อย่าไปเลือกตั้งให้หมดเลย เดี๋ยวฝั่งนั้นกวาดไปหมด

นี่คือทิศทางการเดิน เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ของนักการเมืองหลายคนหลายพรรคในช่วงไม่ถึงปี เรื่องนี้น่าตั้งข้อสังเกต

ทำรัฐธรรมนูญแบบ ‘ตระหนกตกใจหวาดกลัวไปล่วงหน้า’

สุดท้ายผมมองว่าการทำรัฐธรรมนูญรอบนี้ เป็นการทำรัฐธรรมนูญแบบ ‘ตระหนกตกใจหวาดกลัวไปล่วงหน้า’

- กลัวล่วงหน้าไปก่อน ว่าถ้าให้ สสร. เลือกตั้งทั้งหมด เกิดได้คนที่มีวิธีคิดแบบไอ้พวกพรรคก้าวไกลเข้ามาหมด มันจะยุ่ง เพราะคะแนนเลือกตั้งของมันมี 14.4 ล้าน
- กลัวล่วงหน้าไปก่อน ว่าถ้าทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องมีการแก้ไขฉบับ 2560 เบื้องต้นก่อน ถ้าไม่ยอมลดเงื่อนไขต่างๆ ให้ท่าน สว. พอใจ เดี๋ยวมันไม่ผ่าน
- กลัวล่วงหน้าไปก่อน ว่าถ้าไม่ล็อกหมวด 1 หมวด 2 เกิด สสร. เข้ามาแล้วไปเขียนแก้ไข จะทำอย่างไร

อย่ากระนั้นเลย ก็ล็อกมันทุกชั้น ตั้งแต่ สสร. หมวด 1 หมวด 2 ตลอดจนบทบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ

กล่าวได้ว่า นี่เป็นรัฐธรรมนูญที่กว่าจะเริ่มต้นทำได้ คุณมีความกังวลตลอดเวลา ว่าเดี๋ยวสิ่งนั้นจะเกิด เดี๋ยวสิ่งนี้จะเกิด เลยทำให้การเดินหน้าทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องติดขัดอยู่ตลอดเวลา สภาพกระท่อนกระแท่น ทำให้การทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัดเยอะมาก

Adblock test (Why?)


'ปิยบุตร' ตั้งฉายาการจัดทำรธน.ฉบับใหม่ 'วิตกกังวลไปล่วงหน้า' เวลาเปลี่ยนจุดยืนเปลี่ยน - ไทยโพสต์
Read More

เปิดวาร์ปบอดี้การ์ดจำเป็น "พิธา" ที่นิวยอร์ก ทำคนหลุดโฟกัส ที่แท้เป็นพระเอกดัง - Sanook

ทำเอาหลุดโฟกัสกันใหญ่ แก๊งบอดี้การ์ดจำเป็นของ "พิธา" ขณะเดินทางไปพบปะพี่น้องชาวไทยที่นิวยอร์ก 1 ในนั้นคือพระเอกดัง

จากกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางไปร่วมงานกาลาดินเนอร์ TIME 100 Next ประจำปี 2023 ในโอกาสที่ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันพุธ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นายพิธา ได้เดินทางไปพบปะพี่น้องคนไทยในย่าน Little Thailand Way ในเขตควีนส์ ก่อนจะเดินเท้าต่อไปยังวัดพุทธไทยถาวรวนาราม โดยมีประชาชนมายืนรอต้อนรับอย่างหนาแน่น

ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ก็มีการแชร์คลิปบอดี้การ์ดจำเป็นของนายพิธา ที่ทำเอาหลายคนถึงกับหลุดโฟกัส ซึ่งที่แท้เจ้าตัวคือ ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย พระเอกหนุ่มชื่อดัง ซึ่งบินไปเรียนต่อ จนสำเร็จการศึกษา ป.โท จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกานั่นเอง

ซึ่ง ตุลย์ ภากร ก็ได้โพสต์ทั้งภาพคู่นายพิธา พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อวานนี้ ผมได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นั่งพูดคุยกับ ทิม พิธา ผู้มีอิทธิพลในการฟื้นฟูศรัทธาและความหวังของผมและคนรุ่นใหม่ในไทยที่มีต่อประเทศ

ขอบคุณที่ให้ผมเป็นตัวแทนของนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และได้พูดคุยสั้น ๆ กับคุณ แม้ว่าเราจะมีเวลาสั้น ๆ เนื่องจากตารางงานที่แน่น คุณทำให้เราประทับใจด้วยมุมมองที่ลึกซึ้ง ภูมิปัญญา และความเรียบง่ายของคุณ ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสหน้า

บทสนทนาของเขาไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่เกี่ยวกับความก้าวหน้า ความหวัง และอนาคตของประเทศไทย นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันเพื่ออนาคตที่สดใสและครอบคลุมยิ่งขึ้น

นิวยอร์กซิตี้ทำหน้าที่เป็นฉากหลังของการแลกเปลี่ยนอันกระจ่างแจ้งนี้ เตือนเราว่าความฝันของเราในการทำให้ประเทศไทยดีขึ้นนั้นไร้ขอบเขต!! ผู้ลงคะแนนเสียงอย่างพวกเราจะสนับสนุนพรรคก้าวไกลต่อไปอย่างแน่นอน แม้จะอยู่ในฝ่ายค้านของรัฐสภาก็ตาม เรามุ่งมั่นเพื่อประเทศไทยที่ทุกเสียงจะถูกรับฟังและตระหนักถึงศักยภาพของพลเมืองทุกคน ไปกันเลยยย"

นอกจากนี้ ตุลย์ ภากร ยังทิ้งท้ายว่า ในส่วนของหน้าที่บอดี้การ์ดจำเป็นนั้น ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่คาดคิดมาก่อน แต่ก็ยินดีมากที่ได้ทำ

Adblock test (Why?)


เปิดวาร์ปบอดี้การ์ดจำเป็น "พิธา" ที่นิวยอร์ก ทำคนหลุดโฟกัส ที่แท้เป็นพระเอกดัง - Sanook
Read More

Friday, October 27, 2023

รายได้หนังสัปเหร่อ 600 ล้านบาท ทุบสถิติหนังไทยทำเงินสูงสุดรอบ 10 ปี - ประชาชาติธุรกิจ

สัปเหร่อ

กระแสแรงต่อเนื่อง รายได้หนัง “สัปเหร่อ” ทั่วประเทศทยานสู่ 600 ล้านบาทแล้ว ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปี

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 กระแสยังคงแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง “สัปเหร่อ” ที่เข้าฉายตั้งเเต่วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยสามารถทำรายได้แตะ 100 ล้านบาทในเวลาเพียง 6 วัน และถึง 200 ล้านบาทใน 11 วัน ก่อนที่จะทำสถิติทะลุ 500 ล้านบาท เป็นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี

ล่าสุดเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 “เมเจอร์ กรุ๊ป” ระบุว่า สัปเหร่อกวาดรายได้ทั่วประเทศทะลุ 600 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย ขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปี

ด้าน “ต้องเต ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับและเขียนบท ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ขอบคุณที่พาผมเดินทางมาไกลมาก ขอบคุณทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังและผู้ที่มีส่วนร่วมทุก ๆ คนมาก ๆ นะครับขอบคุณมากๆนะครับขอบคุณจริง ๆ”

Adblock test (Why?)


รายได้หนังสัปเหร่อ 600 ล้านบาท ทุบสถิติหนังไทยทำเงินสูงสุดรอบ 10 ปี - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Thursday, October 26, 2023

สาวเปิดใจ นักร้องดังโลก 4 ใบ ทำท้องไม่รับให้ไปทำแท้ง อึ้งแฟนฝ่ายชายก็เป็นนักร้อง - ข่าวสด - ข่าวสด

ถ้าเขาจะฟ้องหนูก็ไม่เป็นไรเพราะมันคือความจริงทั้งหมด สาวเปิดใจ นักร้องดังโลก 4 ใบ ทำท้องไม่รับให้ไปทำแท้ง กลัวแต่เสียชื่อเสียง-เสียงาน อึ้งแฟนฝ่ายชายก็เป็นนักร้อง

จากกรณีมีเพจบันเทิงดังออกมาแฉนักร้องร่างเล็ก สร้างโลก 4 ใบ ทำผู้หญิงตั้งท้องและไล่ไปทำแท้ง ทำให้โลกโซเชียลต่างคาดเดาชี้เป้าไปถึงนักร้องคนดังกล่าวว่าเป็นใคร ขณะที่มีหญิงสาวออกมาเปิดใจร้องเรียนกับ อมรินทร์ทีวี ถึงกรณีนักร้องดังสร้างโลก 4ใบว่า รู้จักกับนักร้อง อ. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นนักร้องคนนี้ร้องเพลงอยู่แล้วบอกถูกใจ สวย น่ารัก จึงให้เด็กเสิร์ฟเอากระดาษโน้ตมาบอกอยากทำความรู้จัก โดยไม่รู้ว่านักร้องคนนี้มีแฟนอยู่แล้ว และเป็นนักร้องเหมือนกัน คือ นักร้อง ธ.

ถามนักร้องชายว่า มันเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายชายให้คำตอบว่า ตอนนี้พี่อยากหาคนคุยให้สบายใจ รู้สึกสบายใจจริงๆ แต่ฝ่ายหญิงบอกว่า ไม่อยากเป็นมือที่ 2 ที่ 3 กับใคร และพยายามตีตัวออกห่าง แต่เจอข่าวว่า นักร้องชายเลิกกับนักร้องหญิงแล้ว ก็เลยกลับมาคุยกันอีก

ถามว่าทำไมถึงเชื่อใจนักร้องดังคนนี้ ฝ่ายหญิงบอกว่านักร้องพาไปบ้านที่ต่างจังหวัด บ้านเกิด พาไปหาคุณพ่อคุณแม่ เวลาไปกองถ่ายก็แนะนำคนอื่นว่า ฝ่ายหญิงเป็นคนที่คุยกันอยู่ รักกัน
ตอนนั้นก็มีข่าวอีกว่า หลังจากเลิกกับนักร้องสาวก็ไปคบกับนักร้อง ม. อีกคน พฤติกรรมเหมือนแฟน แต่ฝ่ายชายบอกให้สถานะแค่พี่น้อง เป็นแค่คอนเทนต์ อยู่ในวงการต้องมีคอนเทนต์หาซีนแบบนี้

นักร้องดังดูเหมือนจะจริงจัง จึงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ปรากฏว่าเจ้าตัวท้องแล้วไปบอกนักร้องดัง แต่นักร้องดังกำลังมีข่าวกับไฮโซสาว ม. อีกคน เมื่อถามถึงเรื่องที่ตัวเองตั้งท้องจะทำยังไง
นักร้องดัง ก็ตอบว่า ตอนนี้ฝ่ายหญิงไม่ใช่ความสุขของพี่แล้ว ไปยุติการตั้งครรภ์กันไหม แล้วพาไปคลินิกและให้เงินทำแท้งด้วย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า จริงๆ ไม่ได้อยากจะฟ้องร้องอะไร ไม่ได้อยากเป็นข่าว แต่อยากจะฝากบอกนักร้องผู้ชายคนนั้นให้หยุดทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ได้แล้ว

“พอหนูท้องเขาคิดว่าหนูจะไปแฉเขาเหรอ เขาคิดแค่กลัวตัวเองเสียชื่อเสียง กลัวตัวเองไม่มีงาน พี่ต้องแบบนั้นแบบนี้ รู้สึกกดดันมากๆ เขาพูดเรื่องอื่น และเอาเรื่องเงินมาเป็นข้ออ้าง เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มา จนเรารู้สึกเรากับลูกเป็นภาระ หนูยอมเสียสละไม่รักตัวเองเลย รักพี่มาก
หนูจะพูดว่าที่หนูพูดวันนี้คือความจริงทั้งหมด ถ้าเขาจะฟ้องหนูก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาจะขอโทษหนู ทำไมไม่ขอโทษตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ขอไม่รับคำขอโทษ ไม่พร้อมเจอ”

Adblock test (Why?)


สาวเปิดใจ นักร้องดังโลก 4 ใบ ทำท้องไม่รับให้ไปทำแท้ง อึ้งแฟนฝ่ายชายก็เป็นนักร้อง - ข่าวสด - ข่าวสด
Read More

ช็อกโลก สะพานกระจกอินโดฯ แตก ทำนักท่องเที่ยวร่วงดับสลด 1 ศพ เจ็บ 1 ราย - Sanook

อุบัติเหตุสลด สะพานพื้นกระจกที่อินโดฯ เกิดแตก ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังยืนถ่ายรูป ร่างร่วงกระแทกพื้นเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย

เว็บไซต์ข่าว CNN ของอินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุมีนักท่องเที่ยว 2 คนตกจากสะพานพื้นกระจก "เดอะ กอง" (The Geong) ที่ระดับความสูงประมาณ 15 เมตร ในเขตป่าสนลิมปาคูวัส ในเมืองบันยูมาส ทางตอนใต้ของจังหวัดชวากลาง

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวานนี้ (25 ต.ค.) ขณะที่นักท่องเที่ยวประมาณ 11 คนอยู่บนสะพานกระจก โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่เกิดเหตุนั้นกำลังถ่ายรูปกันอยู่ 4 คน ขณะที่อีก 7 คนอยู่อีกด้าน

สุนาร์โต ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดเมื่อสะพานกระจกที่มีความหนาราว 1 เซนติเมตรแตก และร่วลงไป 1 แผ่น โดยขณะเกิดเหตุ มีคนประมาณ 11 คน ที่อยู่บนสะพานกระจก ซึ่งเขารีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนงานบริเวณนั้นทันที

ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจ เอดี สุรันตา ซิเตปู ซึ่งตรงไปยังที่เกิดเหตุทันที ยืนยันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อายุ 41 ปี ขณะที่ผู้เสียชีวิต 1 ราย อายุ 49 ปี

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเดินทางมาจากจังหวัดชวากลาง ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์

Adblock test (Why?)


ช็อกโลก สะพานกระจกอินโดฯ แตก ทำนักท่องเที่ยวร่วงดับสลด 1 ศพ เจ็บ 1 ราย - Sanook
Read More

Wednesday, October 25, 2023

คกก.ทำประชามติ จ่อเดินสายฟังความเห็น “สว.-กมธ.-นักศึกษา” แก้รัฐธรรมนูญ - ไทยรัฐ

“นิกร จำนง” เตรียมเดินสายฟังความเห็นแก้รัฐธรรมนูญ จากทั้งฝั่ง สว. และ กมธ. ก่อนไปหารือเพื่อให้ช่วยคิดคำถามจากนักเรียน นักศึกษา วางกรอบ อนุฯ ทำงานจบก่อนสิ้นปี 

วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เปิดเผยว่าวันเดียวกันมีการประชุมคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ และคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติฯ ที่มีตนเป็นประธาน โดยในส่วนที่ประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง จะรอฟังความเห็นจากคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นฯ ที่จะไปรับฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาก่อน รวมถึงพิจารณาในเรื่องของค่าใช้จ่ายว่าจะต้องใช้เท่าไร ซึ่งจะมีการเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาชี้แจง ขณะที่คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นฯ จะไปรับฟังความเห็นจาก กมธ. พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.เป็นประธาน ในวันที่ 30 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา จากนั้นวันที่ 2 พ.ย. จะไปรับฟังความเห็น กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นประธาน เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา โดยจะไปหารือเพื่อให้ช่วยคิดคำถาม วันที่ 10 พ.ย. จะไปรับฟังความเห็นของนักเรียน นักศึกษาจาก ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ม.รามคำแหง ม.มหิดล มหาวิทยาลัยราชภัฏ และภาคส่วนต่างๆ จากนั้นวันที่ 14 พ.ย. เวลา 10.00 น. จะไปรับฟังความเห็นหัวหน้าพรรคและผู้แทนพรรคก้าวไกล ที่พรรคก้าวไกล 

นายนิกร กล่าวอีกว่า จะมีการออกไปฟังทั้ง 4 ภูมิภาคด้วย โดยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา รวมถึงยังมีช่องทางการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนทางออนไลน์ ผ่านทาง E-mail ของสำนักกฎหมายและระเบียบการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะกำหนดเป็นอีเมลเฉพาะ รวมถึงช่องทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำหรับกรอบการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ 2 ชุด จะพยายามทำงานให้เสร็จภายในสัปดาห์ที่ 2 หรืออย่างช้าสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค. เพื่อจะสรุปความเห็น จากนั้นต้นปี 67 จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง ครม.จะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจ หากครม.เห็นด้วย ก็จะนำไปสู่การออกเป็นคำถาม และเมื่อเป็นคำถามแล้วจะต้องทำประชามติให้เสร็จไม่น้อยกว่า 90 วัน และไม่เกิน 120 วัน เมื่อถามว่า จะได้เข้าคูหาไปออกเสียงประชามติช่วงไหน นายนิกร กล่าวว่า ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ กำหนดไว้คือ ไตรมาสแรกของปี 67

Adblock test (Why?)


คกก.ทำประชามติ จ่อเดินสายฟังความเห็น “สว.-กมธ.-นักศึกษา” แก้รัฐธรรมนูญ - ไทยรัฐ
Read More

วิปรัฐบาลแจงเหตุสภาไม่ชอบญัตติจัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับของก้าวไกล ขัดต่อเจตนารมณ์พรรคร่วม หวั่นแก้หมวด 1-2 - thestandard.co

วันนี้ (25 ตุลาคม) ที่รัฐสภา คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นำโดย อดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล และ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบต่อญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมี พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ

โดยอดิศรเปิดเผยว่า ในญัตตินี้ วิปรัฐบาลประชุมกันถึง 2 ครั้ง ในครั้งแรกมองว่าควรเลื่อนญัตติอื่นมาพิจารณาแทน แต่ครั้งที่ 2 ควรเปิดให้พิจารณา เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะไม่จัดการออกเสียงประชามติ หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา

ขณะที่ ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการทำประชามตินั้นเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว และได้มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาการจัดทำประชามติขึ้นมา มีคณะอนุกรรมการ 2 ชุด สำหรับศึกษาจำนวนครั้งการจัดทำประชามติ และกระบวนการหลังทำประชามติด้วย

ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า กระบวนการดังกล่าวมีหลักประกันว่ารัฐบาลจะทำจริง เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภา และเป็นมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ทางวิปรัฐบาลจึงเห็นว่ากระบวนการนี้จะได้เดินหน้าต่อไป ส่วนญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนำเสนอ จะว่าไปแล้วก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เพราะอ้าง พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 9(4) ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งหากวุฒิสภาไม่เห็นชอบเหมือนสภาผู้แทนราษฎรก็ไปสู่รัฐบาลไม่ได้

ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังยินดีรับฟังเต็มที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบถามและรับฟังความเห็นจากส่วนต่างๆ จึงยังสามารถส่งความเห็นไปให้รัฐบาลได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน พ.ร.บ.ประชามติฯ พร้อมย้ำว่า วิปรัฐบาลยังเห็นด้วยกับการทำประชามติ แต่มองว่าการทำประชามติ หากดำเนินการโดยรัฐบาลก็จะมีโอกาสสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาหากรัฐบาลและวุฒิสภาไม่เห็นด้วย การทำประชามติก็จะไม่สำเร็จ

ชูศักดิ์ยังกล่าวว่า มีความเห็นขัดแย้งกันมากที่สุดคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับที่สามารถแก้ได้ทุกเรื่องทุกหมวด โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แก้หมวด 1 และ 2 ดังนั้นส่งให้รัฐบาลไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะยังเป็นความเห็นที่ขัดแย้งไม่ลงรอยกันมานานแล้ว จึงเห็นว่าควรให้รัฐบาลทำหน้าที่ไป และหวังว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าเดิม

ขณะที่ ภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า การลงมติในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติเพื่อสอบถามพี่น้องประชาชนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะกอดรัดอยู่กับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่เป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ แต่พวกเราเห็นควรว่าต้องแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยมาจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) พร้อมกล่าวถึงสิ่งที่ไม่เห็นด้วยมีอยู่ 3 ประเด็น

  1. รัฐบาลมีคณะกรรมการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และมาจากทุกพรรคการเมือง นอกจากฝ่ายการเมืองยังมีฝ่ายวิชาการเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีความน่าเชื่อถือมากพอสมควรที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้
  1. เนื้อหาสาระของคำถามที่จะส่งให้รัฐบาล พรรคก้าวไกลเสนอจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่ประกาศเอาไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้งว่า จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และ 2 ไม่มีใครการันตีได้ว่าจะไม่มีการแก้ เพื่อไม่ให้ขัดต่อเสียงของประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลจึงไม่เห็นด้วย
  1. พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เห็นด้วยว่า การเลือก สสร. จะต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% เพราะเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชนที่จะเกิดขึ้นจากพี่น้องประชาชนในหลากหลายสาขาอาชีพ ซึ่งไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่า สสร. จากการเลือกตั้งจะมาจากทุกสาขาอาชีพ

Adblock test (Why?)


วิปรัฐบาลแจงเหตุสภาไม่ชอบญัตติจัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับของก้าวไกล ขัดต่อเจตนารมณ์พรรคร่วม หวั่นแก้หมวด 1-2 - thestandard.co
Read More

Tuesday, October 24, 2023

แฉสนั่น ! นักร้องร่างเล็ก ทำสาวท้องไม่รับซ้ำไล่ทำแท้ง อักษรย่อมาชัด รู้เลยใคร ? - kapook.com

Adblock test (Why?)


แฉสนั่น ! นักร้องร่างเล็ก ทำสาวท้องไม่รับซ้ำไล่ทำแท้ง อักษรย่อมาชัด รู้เลยใคร ? - kapook.com
Read More

สุดยอด! “สัปเหร่อ” ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี จ่อทำลายอีกหลายสถิติ - PPTVHD36

หนัง “สัปเหร่อ” ทะยาน 500 ล้านบาท ขึ้นแท่นภาพยนตร์ไทยทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี และกำลังจะทำลายอีกหลายสถิติ

แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ “สัปเหร่อ” โกยรายได้ทะลวง 500 ล้านบาท ในเวลา 2 สัปดาห์

หนัง “สัปเหร่อ” ผลงานกำกับจอเงิน “ต้องเต ธิติ” ทำการบ้านหนัก-แฝงความหมายในฉาก และความสำเร็จที่เกินคา...

ได้ใจแฟนหนังไทยไปเต็มๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ที่พลิกชีวิต จักรวาลไทบ้าน และทำให้หนังไทยกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ล่าสุด (23 ต.ค.66) มีรายงานว่ารายได้ทั่วประเทศทะยานสู่ 500 ล้านบาท หลังเข้าฉาย 18 วัน และยังคงได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ตีตั๋วเข้าชมอย่างต่อเนื่อง

และไม่เพียงแค่ตัวเลขของรายได้พุ่งไม่หยุด แต่ “สัปเหร่อ” ยังขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี และจ่อทำลายสถิติอื่นของวงการหนังอีกด้วย

“ต้องเต ธิติ” เล่าเบื้องหลังการเดินทาง หนัง “สัปเหร่อ” ความกดดัน ความท้าทายและแบกความหวัง

โดยเพจของ Major Group ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “แฮงบ่เซาเลยติ! #สัปเหร่อ ฌาปนกิจสู่ 500 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี และกำลังจะทำลายอีกหลายสถิติ!” 

ทางด้าน “ต้องเต-ธิติ ศรีนวล” ผู้กำกับ ได้เผยความรู้สึกหลังจากที่หนังประสบความสำเร็จว่า สัปเหร่อ หนังมันได้เดินทางมาไกลมากๆ แล้วก็พาผมเดินทางมาไกลมากๆ ขอบคุณทุกคนนะครับ สัปเหร่อเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมกดดันมากๆ เเละโคตรเหนื่อยมากๆ และเหนื่อยจริงๆ เหนื่อยที่สุดๆ เหนื่อยที่แบบว่าบอกใครไม่เลยครับ ทั้งเขียนบทคนเดียว มันยากมากที่เล่าเรื่องความตายให้คนเข้าใจ ทั้งกำกับเดี่ยวครั้งแรก ต้องมาแบกความคาดหวังของผู้คน ต้องได้ตัดต่อเองซึ่งผมก็ไม่ได้เก่งอะไรเลย ต้องมาทำซาวด์อีสานเอง และด้วยปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องเจอตามมาเรื่อยๆ มันก็เป็นงานท้าทายที่ทำให้ผมสนุกและความสุขมากๆเช่นกันครับ ขอบคุณในความผิดพลาดหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นนะครับ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ผมได้ทำอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานั้นที่ผมมีโอกาสได้ทำมันแล้วนะครับ” 

งานนี้คงต้องรอลุ้นกันว่า “สัปเหร่อ” จะกวาดรายได้ว่าจะจบที่ตัวเลขเท่าไหร่ 

ขอบคุณ FB Major Group / FB ต้องเต ต้องเต ธิติ 

TOP ข่าวบันเทิง

วิดีโอยอดนิยม

เรื่องที่คุณอาจพลาด

Adblock test (Why?)


สุดยอด! “สัปเหร่อ” ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี จ่อทำลายอีกหลายสถิติ - PPTVHD36
Read More

พระครู เชิญวิญญาณ เมียฝรั่ง เผยต้องทำพิธี 3รอบ ตร.เจอเรื่องแปลก - ข่าวสด - ข่าวสด

พระครู ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เมียฝรั่ง ถูกฆ่าทิ้งไร่ข้าวโพด เผยสิ่งผิดปกติ ต้องทำพิธีถึง 3 รอบ ด้าน พนักงานสอบสวน เล่าเรื่องแปลก ก่อนวันผู้ต้อ...