“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ถามกลับ รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ความเท่าเทียมในสังคม เกี่ยวกับ ความรักพ่อแม่อย่างไร ฝากการบ้านทำองค์กรตัวเองปลอดคอร์รัปชันก่อน ลั่น เสิร์ชกูเกิล “สำนักพุทธฯ” ยังพบ “ทุจริต เงินทอนวัด”
วันที่ 15 มิถุนายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึง นางกณิกนันต์ ล้อสีทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา โดยบอกว่า อยากถามรองผู้อำนวยการฯ ว่า ข้อมูลที่พูดต่อหน้าพระสงฆ์นั้น เป็นข้อเท็จจริง หรือมีหลักฐานหรือไม่ เพราะประโยคที่ตนได้ยินและเกิดข้อสงสัยว่า คือ นางกณิกนันต์ ได้ถามลูกของตนเองว่า ชื่นชอบพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะอะไร และลูกก็ตอบได้อย่างดีมากเลย โดยบอกว่า เพราะพรรคนั้นพูดถึงนโยบายการสร้างความเท่าเทียม
แต่นางกณิกนันต์ ก็ถามลูกกลับว่า “แล้วรักแม่ไหม” จึงมองว่า ความรักที่มีต่อพ่อแม่ ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับนโยบายการสร้างความเท่าเทียมในสังคม และอยากถามว่า ท่านคิดอย่างไร ถึงเชื่อว่า การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม ถึงกระทบกระเทือน กับความรักที่มีต่อพ่อแม่
อีกประโยคที่ได้ยินและเข้าใจว่า มีการพูดถึงหลานของตัวเอง และนำมาเล่าเรื่องในทางที่ไม่ดี โดยที่หลานก็ไม่สามารถมาชี้แจงต่อหน้าพระสงฆ์ได้อย่างตัวเอง โดยบอกทำนองว่า หลานไม่สนใจพ่อแม่ ผู้ปกครอง
“ฟังแล้วก็บอกว่า มีเกี่ยวข้องกับนโยบายพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งผมก็สงสัยไง ว่า ทุกพรรคการเมือง เวลาจะลงเลือกตั้งก็ต้องส่งนโยบายให้กับทาง กกต. ผมก็อยากให้ท่านเอามาชี้แจง ขีดเส้นใต้เอามาให้ดูเลยว่า มีนโยบายพรรคการเมืองไหนที่มีนโยบายที่ปลูกฝังให้ เด็กไม่สนใจพ่อแม่ ถูกมะ ผมว่า ไม่มี ผมก็เช็กดูแล้วก็ไม่มี อย่างพรรคก้าวไกลเองก็มีนโยบายเบี้ยสวัสดิการค่าเลี้ยงดูบุตร 1,200 บาท ต่อเดือน เพื่อลดความกดดันในครอบครัวลง”
นายวิโรจน์ ยังอยากถามย้ำว่า ไปเจออะไรมาหรือของพรรคการเมืองใด เพราเชื่อว่า คนระดับฝ่ายบริหารของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คงไม่ได้จินตนาการในเชิงลบ และมาพูดต่อหน้าพระสงฆ์องค์เจ้า เพราะในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการฯ คงทราบเรื่องของศีลข้อ 5 ว่า ห้ามพูดปดหรือการมีวาจาสุภาษิต ซึ่งเป็นหนึ่งในมงคล 38 ประการ และคิดว่า ก็คงไม่ต้องให้ใครสอน เพราะก็เป็นถึงวิทยากร
ส่วนประโยคที่ 3 ที่ได้ยินว่า จะมีพรรคการเมืองหนึ่งที่ได้คะแนนเยอะๆ ที่ก็คงจะมีแต่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มีนโยบายไม่สนับสนุนองค์กรทางศาสนา อยากถามว่า ไปนำข้อมูลหรือหลักฐานตรงนี้มาจากไหน เพราะพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทโลก
นายวิโรจน์ ยังบอกว่า อยากให้รองผู้อำนวยการฯ ไปดูวัตถุประสงค์ของการเกิดขึ้นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร
“ผมอยากให้ทางท่านรองผู้อำนวยการฯ ไปอ่านวัตถุประสงค์ของการเกิดขึ้นของสำนักงานพระพุทธศาสนนาแห่งชาติ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา และการจรรโลงได้ดีที่สุด คือการทำให้องค์กรของตน ปลอดจากการ ทุจริต คอร์รัปชัน และไว้วางใจของประชาชน แต่ที่ผ่านมา ลองเสิร์ชในกูเกิลดูสิ ชื่อสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เว้นวรรค เงินทอนวัด เว้นวรรค ทุจริต จะพบว่ามีข้าราชการระดับสูงที่ผ่านมา ก็ไปพัวพันกับการทุจริต และ ป.ป.ช. ก็มีการชี้มูล และไม่ได้จบแค่รุ่นเดียว มีข้าราชการหลายรุ่น หลายปี ที่พัวพันคดีทุจริตเป็นระยะ”
พร้อมยังตั้งคำถามว่า มีแนวนโยบายอย่างไร ที่จะทำให้องค์กรที่ตนเองอยู่ คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีความสุจริต ปลอดคอร์รัปชัน และทำในสิ่งหรือขับเคลื่อนนโยบายที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง หรือการถือกำเนิด ซึ่งก็คือ การทำนุบำรุงศาสนา ให้สถาพร อยากฝากเป็นการบ้าน เพราะนี่คือสิ่งที่ชาวพุทธ อุบาสก อุบาสิกา คาดหวังจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
“วิโรจน์” ย้อน สำนักพุทธฯ ฝากทำองค์กรตัวเองให้ปลอดคอร์รัปชันก่อน - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment