เชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยผลกำไรประจำไตรมาสสองของปีนี้อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 5.95 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เชฟรอนมีกำไรเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เชฟรอนยังได้เพิ่มเป้าหมายการซื้อหุ้นคืน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากขึ้น
ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้พุ่งทะยานอย่างหนักในปีนี้ หลังชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลให้ตลาดพลังงานที่ตึงตัวอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ลงอีก โดยอัตรากำไรในการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก
ขณะเดียวกัน สมรรถนะการกลั่นน้ำมันในสหรัฐลดลงนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นสาเหตุของการพุ่งขึ้นของราคาเชื้อเพลิงในประเทศ ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดเศรษฐกิจ และประชาชนกลับมาเดินทางอีกครั้ง
การที่บริษัทน้ำมันทำกำไรได้มากเช่นนี้ คาดว่าจะถูกรัฐบาลสหรัฐและนักการเมืองวิจารณ์หนัก โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เคยออกมาตำหนิบริษัทโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐที่มีกำไรมหาศาลจากการกลั่นน้ำมัน ขณะที่ชาวอเมริกันประสบความยากลำบากจากปัญหาราคาน้ำมันแพง
'เชฟรอน' เผยกำไร Q2/65 ทำสถิติใหม่ รับอานิสงส์พลังงานแพง - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment