7 กรกฎาคม 2564
52
บอร์ด อ.ส.ค. วางโยบายเร่งด่วน ดัน อ.ส.ค.เพิ่มขีดความสามารถหลังผลประกอบการ9 เดือน ทำได้ 7,000 ล้าน ต่ำกว่าเป้า เร่งแก้ไขปัญหาในองค์กร- ระบายสต็อก เพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน
นายปริญญา เพ็งสมบัติ ประธานกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย( อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า นโยบายและทิศทางในการบริหาร ปี 2564 มีความท้าทายยิ่งสำหรับ อ.ส.ค. ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก และกระทบต่อการดำเนินงานของ อ.ส.ค. ด้วย
การดำเนินงานที่ผ่านมาเกินกว่าครึ่งปีงบประมาณ 2564 พบว่ารายได้และผลประกอบการจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมยังไม่ได้ตามเป้าหมาย โดย 9 เดือนแรก ทำรายได้ 7 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 64 รวม 10,100 ล้านบาท ซึ่งระยะเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนนี้ อ.ส.ค. ต้องทำยอดขายให้ได้อย่างน้อย 3,100 ล้านบาท
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อการบริโภคของประชาชนโดยทั่วไปรวมถึงการบริโภคผลิตภัณฑ์นม ทั้งนี้หากการบริโภคลดลงย่อมส่งผลต่อยอดขายผลิตภัณฑ์นมลดลงด้วย แต่องค์กรยังคงต้องรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นไปอย่างปกติ จึงส่งผลให้มีสต็อกผลิตภัณฑ์นมสะสมเป็นจำนวนมาก
จาก เหตุผลดังกล่าว อ.ส.ค. ต้องระมัดระวังการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวทางการเงินในช่วงเวลาปัจจุบัน ควบคู่กับการวางรากฐานของการบริหารจัดการองค์กรที่มีความเป็นเลิศ ให้ อ.ส.ค. อยู่รอดและมีการเจริญก้าวหน้าเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต
พร้อมกับการสืบสานอาชีพการเลี้ยงโคนม ให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรงเกิดขึ้นจากจำนวนคู่แข่งทางการค้า รวมถึงการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) และวิถีชีวิตใหม่ของคนไทย
โดยมีแนวนโยบายที่มอบให้กับฝ่ายบริหารของ อ.ส.ค. 2 ด้านคือ นโยบายเร่งด่วน และนโยบายด้านการพัฒนาองค์กร ให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต
สำหรับนโยบายเร่งด่วน จะเร่งรัดแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการตลาดเพื่อนำการผลิต จัดทำแผนตลาดเชิงรุก มุ่งเน้นให้ผลิตภัณฑ์นมถึงผู้บริโภคได้สะดวก รวดเร็ว กระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่ายและทุกพื้นที่ มีการระบายผลิตภัณฑ์นมที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสต็อกผลิตภัณฑ์นมที่มีปริมาณมาก และเกิดประโยชน์ต่อองค์กรสูงสุด
โดยดำเนินการใน 3 ด้านคือ 1.การจัดทำแผนการตลาดเชิงรุกโดยวางแผนร่วมกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อระบายสต็อกผลิตภัณฑ์นม 2.เร่งรัดการดำเนินงานขององค์การในด้านการลดค่าใช้จ่าย ปรับแผนงานปี 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการจัดการภายในองค์กรและ 3.เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในด้านบุคลากรและแผนธุรกิจ สนับสนุนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้ทำงานตามความรู้ความสามารถของตนเอง ปรับการจัดทำแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
ส่วนนโยบายด้านการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต จะเน้นให้ความสำคัญตลาดนำการผลิตเป็นการปรับเปลี่ยนต่อยอดธุรกิจ เพื่อเพิ่มตลาดสินค้าด้วยนวัตกรรม การเพิ่มจำนวนคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ หรือการสร้าง New S-curve ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนของอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกร ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านบุคลากรให้มีความชาญฉลาด กระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีอัจฉริยะ
เพื่อให้ อ.ส.ค. มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยต้นทุนที่ต่ำ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าและกำไรต่อหน่วยที่สูงขึ้น โดยเน้น 4 ด้าน คือ 1.ด้านการบริหารจัดการองค์กร 2.ด้านการส่งเสริมการเลี้ยงโคนม 3.ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม และ 4.ด้านการตลาดและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม
บอร์ด อ.ส.ค.เร่งทำรายได้หวั่นไม่ถึงเป้า - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment