การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน เกิดขึ้นที่รัฐสภา ช่วงช่วงเช้าวันนี้ (1 เม.ย.) โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เตรียมเสนอและขอมติจากที่ประชุมให้เชิญประธานศาลฎีกาเข้าชี้แจงข้อมูลต่อ กมธ. ถึงสาเหตุที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวแกนนำการชุมนุมทางการเมืองที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร"
ทันทีที่เข้าห้องประชุม นายสิระได้สอบถามนายรังสิมันต์ เรื่องของการทำหนังสือเชิญประธานศาลฎีกามาชี้แจง แต่ ส.ส. รังสิมันต์บอกว่า กมธ. รยังมาไม่ครบ ขอรอให้เป็นไปตามระเบียบวาระที่มีสมาชิกครบถ้วนก่อน
วานนี้ (31 มี.ค.) นายรังสิมันต์ออกมาเปิดเผยว่า กมธ.กฎหมายฯ หลายคน "เห็นไปในทิศทางเดียวกัน" เรื่องการเชิญประธานศาลฎีกามาให้ข้อมูล หลังเกิดคำถามบนโลกออนไลน์ จากการที่แกนนำ "ราษฎร" ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่มีพฤติกรรมสร้างพยานหลักฐาน จึงเป็นข้อสงสัยว่าเหตุใดศาลฎีกาจึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือศาลฎีกาจะถูกบุคคลภายนอกสั่งการมาอีกทีนึง
ส.ส.ฝ่ายค้านรายนี้กล่าวว่า กมธ. ชุดนี้มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของศาล จึงเห็นควรเชิญศาลฎีกาเข้าชี้แจงข้อสงสัยต่อสังคมว่ามีความอิสระในการทำหน้าที่อย่างไร
"ยืนยันว่าการเชิญประธานศาลฎีกาเข้าชี้แจ้งในที่ประชุม กมธ. จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม กมธ. และตามรัฐธรรมนูญกำหนด และขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำงานของศาล" นายรังสิมันต์ ผู้เป็นโฆษก กมธ.กฎหมายฯ กล่าว
อย่างไรก็ตามนายสิระได้ออกมาแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อมวลชน โดยชี้ว่าเป็นการแถลงข่าวส่วนตัว ไม่ใช่ในนามโฆษก กมธ. เพราะ กมธ. ยังไม่มีมติให้แถลง และการเชิญประธานศาลฎีกา ก็ยังไม่เห็นหนังสือ ต้องรอดูก่อนว่าขัดรัฐธรรมนูญและระเบียบข้อบังคับสภาหรือไม่
ประธาน กมธ.กฏหมายกล่าวต่อไปว่า ไม่เข้าใจว่าใช้เหตุผลใดในการเชิญประธานศาลฎีกามา เพราะตามหลักการ ต้องมีผู้ร้องเข้ามาก่อน ส่วนที่หยิบยกประเด็นมาจากสื่อสังคมออนไลน์ ถือว่าไม่มีผล
นอกจากแสดงท่าทีคัดค้านการเรียกประธานศาลฎีกามาให้ข้อมูล นายสิระยังเตรียมยกคณะไป "เข้าเยี่ยมคารวะ" ประธานธานศาลฎีกา โดยเปิดเผยว่า กมธ.กฎหมายฯ มีมติจะเข้าเยี่ยมคารวะประธานศาลฎีกาในช่วงหลังสงกรานต์ในฐานะประธานฝ่ายตุลาการ นอกจากนี้จะไปพบนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานฝ่ายบริหาร เพื่อติดตามกฎหมายที่ผ่านสภาไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้าจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงเดินสายไปพบอัยการสูงสุด, รมว.ยุติธรรม, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และนายรังสิมันต์ยังขอเพิ่มการขอพบผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ด้วย
แม้รัฐธรรมนูญ มาตรา 129, พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คําสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ให้ กมธ. มีอํานาจออกคําสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทําหรือในเรื่องที่พิจารณาสอบสวนหรือศึกษาอยู่ได้ โดยกำหนดให้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อประธาน กมธ. หรือรองประธาน กมธ. ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน แต่ก็ไม่ให้เรียกฝ่ายตุลาการมา
"มิให้ใช้บังคับกับผู้พิพากษาหรือตุลาการที่ปฏิบัติตามอํานาจหน้าที่ ในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล..." ข้อบังคับการประชุมสภา ข้อ 97 ระบุไว้ตอนหนึ่ง
สิระ สกัด โรม ทำหนังสือเรียกประธานศาลฎีกาให้ข้อมูล กมธ.กฎหมายฯ ปมแกนนำ “ราษฎร” ไม่ได้ ประกันตัว - บีบีซีไทย
Read More
No comments:
Post a Comment