เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) มีการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ พร้อมด้วย ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ.และประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันแถลงข่าววัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตายขององค์การเภสัชกรรม เริ่มวิจัยในมนุษย์ระยะที่ 1 และ 2 พร้อมให้กำลังใจอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในการวิจัย
โดย ศ.พญ.พรรณี ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการทดสอบวัคซีน และหัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน กล่าวระหว่างนำคณะผู้บริหารเยี่ยม และให้กำลังใจการฉีดวัคซีนในอาสาสมัคร ว่า ขั้นตอนจะมีการซักประวัติและเซ็นหนังสือยินยอมยินดีร่วมโครงการวิจัยก็จะมีการส่งไปตรวจเลือดดูค่าตับ ค่าไต เม็ดเลือดแดง ตรวจหาตับอักเสบบี ตับอักเสบซี และเอชไอวีและทำนัดหมายมารับวัคซีน ทั้งนี้ อาสาสมัครจะต้องไม่ติดเชื้อโควิด หรือมีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อน จะต้องมีการตรวจการตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิง อาสาสมัครเราจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มโดยทำการสุ่มตัวอย่าง ซึ่งที่ผู้ดำเนินการฉีดทำโดยพยาบาลอิสระ และกลุ่มเฝ้าสังเกตอาการอีกกลุ่ม โดยมีการตรวจว่า 30 นาทีแรกเกิดอาการหรือไม่ และสังเกตอาการต่อ 4 ชั่วโมง ก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ สเต็ปแรกฉีด 18 คน แต่วันนี้จะฉีด 4 คน
ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวผ่านวิดีโอมายังห้องแถลงข่าวว่า ตนขอเป็นกำลังใจให้กับการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่องค์การเภสัชกรรมร่วมกับคณะวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศตัวนี้หากสำเร็จจะทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยดีขึ้น สามารถบริหารจัดการวัคซีนได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ การวิจัยครั้งนี้ไม่ใช่แค่การถ่ายทอดเทคโนโลยีเท่านั้นแต่เป็นการที่เราสร้างวัคซีนขึ้นมาเอง ตนต้องขอขอบคุณอาสาสมัครในการฉีดวัคซีนวันนี้พวกคุณถือเป็นวีรบุรุษ วีรสตรีเสียสละทุ่มเทเพื่อทดสอบวัคซีน ให้เกิดประโยชน์กับมนุษยชาติ
ประเทศไทยเป็นอิสรภาพมาตลอด และรักในความอิสรภาพไม่ชอบอยู่ภายใต้เงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการเมือง เศรษฐกิจ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งนี้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ผ่านมานั้นแม้จะนำเข้ามาผลิตในประเทศไทยแต่ก็ยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเจ้าของเทคโนโลยี เจ้าของแบรนด์ ดังนั้นวันนี้ถ้าเราทำสำเร็จ เราจะเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนกำหนดทุกอย่างด้วยตัวเอง ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายและเป็นกำลังใจให้ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ
ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า วันนี้เราเข้าใกล้การผลิตวัคซีนเองซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็คงจะเริ่มผลิตได้รับการทดลองฉีดในคน 200 กว่าคนลุล่วงไปด้วยดีของการเภสัชกรรมก็จะผลิตวัคซีนนี้ออกมาข้อดีคือจะมีราคาถูกกว่าการใช้วัคซีนจากต่างประเทศ การที่เราสามารถทำวัคซีนได้จนถึงขั้นทดลองในคนได้นั้นมีอยู่ 2 ตัวแรกของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือชนิด mRNA และวัคซีนจากใบยาสูบ แต่ยังไม่ได้ทดลองในคนคาดว่าอีกไม่นานจะเริ่มทดลองในคน แต่ตัวที่มีการทำอย่างเงียบไม่ป่าวร้องอะไร คือวัคซีนเชื้อตาย ที่เลี้ยงในไข่ไก่เลี้ยง มีความปลอดภัย
"นับเป็นเรื่องที่คนไทยควรจะดีใจมากๆ อย่ามัวแต่ห่วงว่าวัคซีนจะไม่พอจนต้องซื้อจากประเทศไหน ของประเทศไหน มีนายกรัฐมนตรีฉีดคนแรก หรือใครฉีดแล้วบ้าง นั่นเป็นเพียงความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งที่ต้องตื่นเต้นมากคือแบบนี้ เราจะผลิตวัคซีนได้เองแล้ว นี่ต่างหากที่ควรจะเป็นมายด์เซตของประเทศด้วย ประเทศเราไม่ได้เป็นเพียงประเทศผู้รับวัคซีนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ผลิตวัคซีนได้เองด้วย เป็นเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูงที่ควรแก่การดีใจ และควรจะดีใจว่าคนไทยเรานั้นเก่งจริงๆ" ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าว
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า มีคำกล่าวกันมานานว่าวัคซีนคือความมั่นคงของประเทศ และจะมั่นคงมากยิ่งขึ้นหากประเทศนั้นสามารถผลิตวัคซีนได้เองตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ซึ่งวิกฤติโควิดครั้งนี่ทำให้เราเห็นศักยภาพของคนไทยทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ เมื่อไหร่ที่รวมกันเป็นหนึ่งก็จะเห็นว่าประเทศไทยไม่เป็นรองใคร เช่น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ นี่คือความมั่นคง ซึ่งจะทำมาด้วยความมั่งคั่ง และจะเห็นว่า วันนี้เราไม่ใช่แค่ผลิตใช้ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถกระจายใช้ในอาเซียนรวมถึงเอเชีย เอเชียนี้ได้แน่นอน นี่ก็จะทำให้เกิดความยั่งยืนตามมา
ศ.นพ.บรรจง กล่าวว่า การวิจัยระยะที่ 1 ระยะที่ 2 แบบควบคุมยาจริง และยาหลอกและปกปิดผู้วิจัย เพื่อประเมินความปลอดภัย ความทนทาน และความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันของวัคซีนดังกล่าว ก่อนจะคัดเลือกเพียงสูตรเดียวที่เหมาะสมเพื่อทำการศึกษาวิจัยระยะที่ 3 เพื่อตรวจหาประสิทธิผลต่อไป ทั้งนี้การวิจัยในอาสาสมัคร 460 คน โดยระยะที่ 1 จำนวน 210 คน อายุ 18-59 ปี แบ่งการศึกษาเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกศึกษาในอาสาสมัคร 18 คนก่อน เริ่มด้วยวัคซีนขนาดที่ต่ำที่สุด และค่อยเพิ่มไปยังขนาดที่สูงขึ้น และส่วนที่ 2 ศึกษาในอาสาสมัคร 192 คน จากนั้นจะวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเลือกให้ได้ขนาดหรือสูตรวัคซีนวิจัย 2 สูตร นำไปวิจัยต่อในระยะที่ 2 ประมาณเดือนก.ค 2564 ในอาสาสมัครอายุ 18-75 ปี 250 คน คาดว่าจะทราบผลระยะ 2 ภายในปลายปีนี้
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมพร้อมที่จะผลิตวัคซีนในทันทีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าภายในปี 2565 จะขอรับทะเบียนตำรับและเริ่มผลิตวัคซีนได้ กำลังการผลิต 25-30 ล้านโด๊สต่อปี เบื้องต้นจากการทดลองในหลอดทดลองพบว่ารับรับสายพันธุ์ต่างๆ ได้ และได้ผลดีในสายพันธุ์แอฟริกาใต้
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการใส่สารเสริมฤทธิ์เพื่อช่วยในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ ศ.พญ.พรรณี กล่าวว่า เรากำลังศึกษาหาสูตรที่เหมาะสม ซึ่งมีทั้งตัวที่ใส่สารเสริมฤทธิ์ และไม่ใส่ ดังนั้นระยะที่ 1 เราจะดูเรื่องความปลอดภัยและบางกลุ่มทั้งหมดออกเป็น 6 กลุ่มตามขนาดซึ่งผลจากระยะที่ 1 จะเลือกมา 2 แต่ผู้ศึกษาจะไม่ทราบว่าตัวไหนมีหรือไม่มี และเราไม่ทราบว่าจุดไหนจะดีกว่ากัน จนกระทั่งปลายปีนี้จะได้สุดที่ดีที่สุดเพื่อนำไป สู่การทดลองในระยะที่ 3 ต่อไป ทั้งนี้ วัคซีนเชื้อตายเราเชื่อว่าสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานได้กว้าง จะครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์ด้วย.
เจ๋ง!วัคซีนโควิดไทยทำเอง ประเดิมฉีดอาสาสมัคร18คน - เดลีนีวส์
Read More
No comments:
Post a Comment