การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้น้ำแข็งที่ทวีปแอนตาร์กติกพังทลาย ทำให้มีเพนกวินจักรพรรดิตายจากโลกร้อนสูงถึง 10,000 ตัว
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ดร.ปีเตอร์ เฟรตเวลล์ จากสำนักงานสำรวจแอนตาร์กติกของอังกฤษ (BAS) และทีมนักวิทยาศาสตร์ของเขาเปิดเผยรายงานการตายของประชากรเพนกวินจักรพรรดิในวารสาร Communications Earth & Environment
โดยรายงานสำรวจระบุว่า หลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามอาณาจักรเพนกวินจักรพรรดิ 5 แห่งรวมถึงในส่วนของทะเลเบลลิงเฮาเซน - ที่เกาะ Rothschild เกาะสไมลีย์ คาบสมุทรไบรอัน และพฟร็อกเนอร์พอยต์ (Pfrogner Point) พบว่า เพนกวินจักรพรรดิที่อาศัยอยู่ใน 4 จาก 5 อาณาจักรล้มเหลวในการผสมพันธุ์อย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ยังพบว่า ทะเลน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกลดต่ำลงอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2016 ส่งผลทำให้พื้นที่น้ำแข็งโดยรวมทั่วทวีปลดลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ และระหว่างปี 2021 - 2023 เป็นช่วงที่ทะเลเบลลิงเฮาเซ่นแทบไม่มีน้ำแข็งปกคลุมเลย
น้ำแข็งทะเลถือเป็นส่วนสำคัญในวงจรการผสมพันธุ์ของเพนกวินจักรพรรดิ เพราะเป็นพื้นที่ที่พวกมันเอาไว้ใช้เลี้ยงลูกน้อย แต่ถ้าน้ำแข็งละลายเร็ว หรือแผ่นน้ำแข็งแตกตัวเร็วขึ้น เพนกวินและลูก ๆ ของมัน ก็จะประสบปัญหา โดยเฉพาะบรรดาลูกๆของมัน เมื่อแผ่นน้ำแข็งแตกตัวก่อนที่พวกมันจะพัฒนาเป็นนกที่มีขนกันน้ำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการว่ายน้ำในมหาสมุทร ก็จะทำให้พวกมันตาย
ทั้งนี้รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้แผ่นน้ำแข็งแตกตัว และพบลูกเพนกวินจักรพรรดิในทวีปแอนตาร์กติกตายจำนวนมาก และคาดว่ามีตัวเลขสูงมากถึง 10,000 ตัว
โดยนกส่วนใหญ่จมน้ำตาย หรือแข็งตาย ก่อนจะโตเต็มวัย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2022 ทางตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกกา ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเบลลิงเฮาเซ่น
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ในอนาคตเพนกวินเหล่านี้อาจสูญพันธ์ และมีการคาดการณ์อาณาจักรเพนกวินจักรพรรดิมากกว่า 90 % อาจล่มสลายภายในสิ้นศตวรรษนี้
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด
โลกร้อนทำเพนกวินจักรพรรดิตายมากถึง 10,000 ตัว - PPTVHD36
Read More
No comments:
Post a Comment