วาระที่ 8.3 รายงานผลการพิจารณาเพื่อการลงทุนและหาทางเลือกในการดำเนินกิจการของบริษัทต่อไป
ประธานได้แถลงต่อที่ประชุมว่าคณะกรรมการเห็นสมคารเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรับทราบรายงานผลการพิจารณาเพื่อการลงทุนและหาทางเลือกในการดำเนินกิจการของบริษัทที่คณะกรรมการใต้ดำเนินการไปแล้วดังนี้
หลังจากที่บริษัทได้รับคำชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการในต้นปี 2559 และได้ศึกษาข้อกฎหมายจนได้ความชัดเจนว่า แม้ สปน. จะยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลาง แต่ในปัจจุบัน โดยผลของกฎหมาย ถือว่าบริษัทไม่มีภาระหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่ สปน.บริษัทก็พยายามดำเนินการในเรื่องแสวงหาโอกาสในการลงทุนเพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด
โดยในช่วงปี 2559 บริษัทได้ดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์โครงสร้างการลงทุน และได้รับข้อเสนอจากบริษัทหนึ่งซึ่งประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ที่วีดิจิตอล แต่เมื่อบริษัทได้วิเคราะห์ถึงสภาพตลาด การแข่งขัน และข้อดีข้อเสียของการเข้าลงทุนตามข้อเสนอของบริษัทเป้าหมายโดยรอบคอบแล้ว บริษัทไม่สามารถตอบรับข้อเสนอทางธุรกิจของบริษัทเป้าหมายได้ และได้พิจารณากำหนดกรอบการลงทุนของบริษัท รวมทั้งเร่งดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งที่ปรึกษาการลงทุนของบริษัท ซึ่งรายละเอียดและเหตุผลต่างๆ บริษัทได้เคยรายงานให้แก่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 และมีบันทึกอยู่ในรายงานการประชุมที่บริษัทได้จัดส่งให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่านพร้อมหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561
ประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน 2560 บริษัทได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของแนวทางการลงทุน 3 แนวทาง ดังนี้
แนวทางที่หนึ่ง เป็นการลงทุนโดยตรงในฐานะผู้ประกอบกิจการ คือบริษัทอาจมองหาธุรกิจและลงทุนเปิดดำเนินการด้วยตนเอง
แนวทางที่สอง เป็นการลงทุนทางอ้อมในฐานะนักลงทุน ผ่านกองทุนส่วนบุคคล หรือPrivate Fund ซึ่งแนวทางนี้ เป็นการลงทุนที่บริษัทเลือกใช้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
แนวทางที่สาม เป็นการมองหาบริษัทเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบกิจการในกลุ่มธุรกิจTelecom Media และ Technology ซึ่งเปิดดำเนินกิจการอยู่แล้ว และเข้าหาโอกาสเข้าไปร่วมลงทุน
ในการศึกษาถึงแนวทางการลงทุนดังกล่าว บริษัทได้พิจารณาถึงสภาวการณ์ปัจจุบันของบริษัทในเรื่องต่างๆ ได้แก่
- คดีความคงค้างของบริษัท
- ปัจจัยความเสี่ยงในเรื่องความสำเร็จในการลงทุน และ
- สถานภาพของบริษัทในปัจจุบัน
และที่สุดบริษัทต้องยอมรับว่า การที่บริษัทจะดำเนินการลงทุนโดยตรงในฐานะผู้ประกอบกิจการตามแนวทางที่หนึ่งมีความเป็นไปได้ยาก เพราะในปัจจุบัน บริษัทไม่มีทรัพยากรและบุคลากรที่จะเป็นกำลังในการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ นอกจากนั้น การเริ่มประกอบกิจการใหม่ด้วยตนเอง จะต้องใช้เงินลงทุนสูง เมื่อคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน หากบริษัทนำเงินที่บริษัทมีอยู่ไปลงทุนทำธุรกิจใหม่ แทนที่จะเป็นโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน อาจกลายเป็นการเพิ่มภาระความเสี่ยงให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงมีความเห็นว่า บริษัทควรพิจารณาดำเนินการศึกษาเพื่อการลงทุนในแนวทางที่สาม คือการมองหาบริษัทเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบกิจการในกลุ่มธุรกิจ Telecom Media และTechnology ซึ่งเปิดดำเนินกิจการอยู่แล้ว และเข้าหาโอกาสเข้าไปร่วมลงทุน ภายใต้กรอบการลงทุนที่บริษัทเคยกำหนดไว้
ต่อมาวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 คณะกรรมการบริษัทได้ดำเนินการคัดเลือกที่ปรึกษาการลงทุนเพื่อมาช่วยในการแสวงหาและคัดเลือกบริษัทเป้าหมายให้แก่บริษัท โดยมุ่งเน้นในการสรรหาบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนที่มีชื่อเสียงและมีผลงานความสำเร็จในการทำงานให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาและมีมติคัดเลือกและแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด เป็นที่ปรึกษาการลงทุนของบริษัท เนื่องจากข้อเสนอการให้บริการและค่าธรรมเนียมของ บลจ. ภัทร เป็นประโยชน์มากกว่าเมื่อเทียบกับข้อเสนอจากที่ปรึกษาการลงทุนอื่น
เมื่อ บลจ. ภัทร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาการลงทุนจากบริษัทแล้ว บลจ. ภัทร ได้ทำงานร่วมกับบริษัท และมีการประชุมร่วมกันหลายครั้งเพื่อพิจารณาข้อดี ข้อเสียในการลงทุนผลตอบแทนและความเสี่ยงต่างๆ เมื่อ บลจ. ภัทร ได้เข้าใจถึงความต้องการและนโยบายของบริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของบริษัทแล้ว บลจ. ภัทร ได้ไปดำเนินการสรรหาบริษัทเป้าหมาย และจัดทำการวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจของบริษัทเป้าหมาย เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่บริษัททราบถึงแนวโน้มทางธุรกิจในอนาคตของบริษัทเป้าหมาย โดยในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 บลจ. ภัทร ได้นำเสนอบริษัทเป้าหมายจำนวน 3 รายให้แก่คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอย่างเป็นทางการ พร้อมรายงานวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจและแนวโน้มของผลประกอบการในอนาคต
หลังจากที่คณะกรรมการได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าบริษัทเป้าหมายที่ บลจ. ภัทร นำเสนอทั้งสามรายนั้น ตรงกับกรอบการลงทุนที่บริษัทได้กำหนดไว้ จึงมีมติเห็นชอบให้ บลจ. ภัทร ดำเนินการนัดหมายเพื่อเจรจาการร่วมลงทุน แต่กลับปรากฎว่า บริษัทกลับไม่ได้รับความสนใจจากบริษัทเป้าหมายทั้งสามรายเพราะบริษัทยังมีคดีความคงค้างกับ สปน. และปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสถานะของบริษัทที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือทางธุรกิจแก่บริษัทเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน การถ่ายทอดประสบการณ์ หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยีก็ตาม เนื่องจากบริษัทเป้าหมายที่มีศักยภาพส่วนมากมักจะมีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนจึงมักจะเลือกร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีศักยภาพที่จะช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้แก่ตนเองได้
บลจ. ภัทร จึงให้คำแนะนำแก่บริษัทว่า หนทางที่บริษัทจะประสบความสำเร็จจากการที่ร่วมลงทุนในบริษัทเป้าหมายก็อาจเป็นไปได้ยากเช่นกัน เพราะข้อจำกัดของบริษัทเป็นอุปสรรคสำคัญในการตัดสินใจร่วมลงทุนของบริษัทเป้าหมายที่มีศักยภาพดี และหากบริษัทจะมุ่งแสวงหาบริษัทเป้าหมายใหม่ที่ไม่มีข้อกังวลเกี่ยวกับสถานะของบริษัทและไม่ได้ต้องการความร่วมมือทางธุรกิจ โดยต้องการเพียงเงินลงทุนอย่างเดียว ก็จะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในเรื่องการควบคุมการบริหารงานของบริษัทเป้าหมาย และหากบริษัทตัดสินใจเสี่ยงเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มองไม่เห็นถึงศักยภาพของการทำธุรกิจ อาจทำให้เงินลงทุนของบริษัทมีความเสี่ยงที่จะด้อยค่าลง รามถึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนที่ต้องการรักษาเงินทุนของบริษัทไว้ให้มากที่สุด
นอกจากนี้ บลจ..ภัทร ยังได้ทำการศึกษาและการวิเคราะห์รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับบริษัทมานำเสนอให้บริษัทพิจารณา ซึ่งผลการศึกษาของ บลจ. ภัทร พบว่า รูปแบบการลงทุนในลักษณะ Private fund มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน เพราะมีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัทมากกว่าการลงทุนในแนวทางอื่น โดยอัตราผลตอบแทนที่บริษัทได้รับในปัจจุบันก็มีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่บริษัทสามารถยอมรับได้
ด้วยเหตุนี้ ทางคณะกรรมการบริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการบริหารเงินสดของบริษัทในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคลต่อไปตามเดิมไปก่อน จนกว่าปัจจัยข้อจำกัดต่างๆ ของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไป
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าหากคดีความของบริษัทสิ้นสุดลง ก็อาจทำให้บริษัทกลับมาได้รับความสนใจจากบริษัทเป้าหมายในการที่จะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทได้ และถึงแม้ว่าบริษัทจะยังไม่สามารถค้นหาธุรกิจที่ดีและที่มีความสนใจจะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทในขณะนี้ได้ แต่บริษัทยังคงเปิดกว้างที่จะศึกษาและค้นหาการลงทุนในแนวทางอื่นๆ ที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ของบริษัทในอนาคตอยู่ตลอดเวลา และหากมีความคืบหน้า จะนำเรียนต่อผู้ถือหุ้นในโอกาสต่อไป หรือหากท่านผู้ถือหุ้นมีข้อแนะนำประการใด บริษัทก็ยินดีที่จะรับข้อเสนอแนะจากผู้ถือหุ้นมาพิจารณา
เปิดหลักฐานเด็ด ITV เดินหน้าทำสื่อต่อเนื่อง - Post Today
Read More
No comments:
Post a Comment