Recving: ดิว อริสรา เล่าชีวิตเป็นสะใภ้ไต้หวัน ต้องทำเองทุกอย่างต่างจากอยู่ไทย

หายหน้าหายตาไปใช้ชีวิตอยู่ที่ไต้หวัน 3 เดือน สำหรับ ดิว อริสรา ที่ไปอยู่กับครอบครัวของสามี เซบาสเตียน ลี พร้อมพาลูกชาย น้องไซลาส ไปหาคุณปู่คุณย่า ซึ่งตอนนี้ ดิว ได้เดินทางกลับมาไทยแล้ว ล่าสุด หวานเจี๊ยบ ผู้จัดการส่วนตัวของ ดิว ก็ได้ไปหาหลังไม่เจอกันนาน 3 เดือน พร้อมกับนั่งพูดคุยอัปเดตชีวิตที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

ดิว เผยว่า ที่ไปอยู่ที่ไต้หวัน 3 เดือน เพราะโควิดมันหมดแล้ว เราก็ต้องสลับไปอยู่ที่บ้านของสามีด้วย ไม่ใช่จะอยู่ที่ไทยอย่างเดียว ไซลาสเริ่มโตขึ้น ลูกก็จะได้รู้จักคุณปู่คุณย่าอยู่กันพร้อมหน้า และเราก็ให้แม่เราบินไปด้วย

ครอบครัวสามีดูแลดีมาก ดูแลดีกว่าสามีเราอีก เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก สามีไม่ได้กลับบ้านนาน 3 ปี ต้องเริ่มใหม่หมดทุกอย่าง เพราะเขาไม่ได้มีบ้านหลังเดียว เราก็ต้องไปอยู่ให้หมดทุกหลัง

ตอนที่ไปอยู่ช่วงแรกเหนื่อยมาก เราต้องเป็นแม่ศรีเรือนจัดแจงทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง แต่ในขณะเดียวกันสามีเราก็ช่วยทุกอย่าง เขาทำหนักกว่าเราเยอะมาก แต่สิ่งที่ค้นพบและไม่เคยอยู่ในตัวเราเลย ก็คือ การสงบจิตสงบใจ สมองโล่ง

ไปอยู่ที่นั่นต้องทำเองหมดทุกอย่าง จากที่อยู่ที่ไทยมีคนทำให้ตลอด ไปห้างวันหนึ่งเดินเป็น 10 ห้าง แล้วบางทีเราต้องใช้เอเนอร์จี้กับที่ขัดชักโครก ส่วนอาหารการกินที่นั่นอร่อยมาก ไม่ทำให้รู้สึกคิดถึงอาหารไทยเลย

ไปอยู่ที่ไต้หวันทำให้พบว่า เราสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ถามว่าสะดวกสบายมั้ย ที่ไทยสะดวกสบายกว่าเยอะ เพราะเราเคยชินกับมัน ต้องการอะไรก็มีคอนเน็กชัน แต่ยอมรับอยู่ที่นั่นไม่คิดถึงเพื่อนเลย เพราะเราเอ็นจอยกับโมเมนต์การเป็นสะใภ้จริงๆ และเราก็ไม่อยากเป็นคนที่อยู่กับครอบครัวเขาแล้วกดแต่โทรศัพท์ เราจะทิ้งโทรศัพท์ไว้เลย

ส่วนงานในวงการบันเทิง เราก็ยังทำงานที่เรารักอยู่เสมอ ในขอบเขตที่มีคุณภาพ

พอไซลาสไปอยู่ที่โน่น เขามีกิจกรรมทำเยอะขึ้น ช่วงเช้าจะเป็นเวลาของสามีที่ดูแลลูก อย่างตอนเช้าไปตลาดกับพ่อ เราก็เตรียมข้าวให้ลูก ต่อมาก็ไปเจอคุณปู่คุณย่าพาไปวนรอบสวนสาธารณะ ส่วนสามีเป็นคนหวงลูกมาก และจะดีใจมากเวลาใครอุ้มลูกแล้วลูกร้อง เพราะเขาหวงไม่อยากให้ใครอุ้ม

เมื่อดิวถามกลับว่า คิดว่าเธอเปลี่ยนไปมั้ย หวานเจี๊ยบบอกว่า เปลี่ยนไปเยอะมาก ดิวใจเย็นลง ไม่เคยเห็นโมเมนต์แบบนี้ เราเซอร์ไพรส์เรื่องนี้ ดีใจที่รักลูก รักครอบครัว และที่ดีใจที่สุดคือดิวกลับมารักและดูแลแม่ดี ดีใจที่เป็นแม่ที่ดี จากเด็กที่ไม่แคร์โลก จนมาเป็นแม่ เราว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่

ดิวบอกต่อว่า เคยคุยกันกับสามีว่าถ้าจะต้องไปอยู่ที่โน่น แล้วเราต้องทิ้งทุกอย่าง เราก็พร้อมจะทำ แต่เราอาจโชคดีที่ครอบครัวเขาเข้าใจเรา ส่วนสามีเซอร์ไพรส์ที่เราอยู่ในโหมดสะใภ้ที่ดี สามีเขาสารภาพกับเรา ว่าเขาคิดภาพไม่ออกกับเรา ว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่เขาแก่หรือป่วยหรือไม่สบาย เราจะดูแลพ่อแม่เขาดีมั้ย เพราะเราก็ดูเป็นสาวปาร์ตี้ตามที่ทุกคนเห็น แต่สามเดือนผ่านไป เราทำได้ล้านเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ ดิวได้ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกความหวังดี และทุกความเป็นห่วง ดิวก็ยังเป็นดิวคนเดิม จะไม่ลืมทุกคนที่อยู่กับดิวในทั้งทุกข์และสุขค่ะ.