เปิดเผย 6 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนนอน ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าสามารถแก้ปัญหาการเกิดฝันร้าย ช่วยทำให้หลับสนิทมากยิ่งขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเปิดเผยสิ่งที่เราไม่ควรทำก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับสนิทมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีข้อมูลที่น่าตกใจมากว่า ผลไม้ธรรดาๆ ก็อาจมีส่วนช่วยทำให้เกิดฝันร้ายได้
"กล้วย" แม้จะเป็นอาหารชั้นเลิศที่สามารถรับประทานได้ทุกเวลาของวัน แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารเหล่านี้ใกล้เวลานอนมากเกินไป อาจทำให้นอนหลับไม่สนิทและกระตุ้นให้เกิดฝันร้ายได้
วิทยาศาสตร์ชี้ปัญหาการนอน อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ 5 เท่า
6 สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าตื่นกลางดึก เสี่ยงกลับไปนอนต่อได้ยาก
กล้วยถึงจะมีแมกนีเซียม ที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและร่างกายสงบ แต่ยังผลิตเมลาโทนินในปริมาณสูงอีก และเมโทนินที่แหละที่ทำให้เกิดผลตรงข้ามกับสิ่งที่ตั้งใจไว้
กล้วย 1 ผล ให้ปริมาณสารเมลาโทนินถึง 26% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ซึ่งการได้รับเมลาโทนินในระดับนี้ก่อนนอน จะทำให้เรานอนได้ยากขึ้น เพราะเวลาชีวิตของเราถูกรวบกวนและกระตุ้นการจินตนาการ
อย่างไรก็ตามคนทั่วไปจะหลับลึกเพียง 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อ 8 ชั่วโมงของการนอนหลับทุกคืน และโดยทั่วไปจะหลับสนิทภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากหลับไป ดังนั้นการกินกล้วยในช่วงเวลาที่คุณหลับสนิทจะส่งผลต่อเวลาอันมีค่าในการหลับลึกของคุณอย่างมาก
การรับประทานผลไม้ที่มีเมลาโทนินมากเกินไป จึงอาจทำให้คุณรู้สึกเซื่องซึมและง่วงซึมในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเมื่อคืนคุณนอนกระสับกระส่ายนั่นเอง
แต่ถ้าใครที่อยากรับประทานผลไม้ที่มีเมลาโทนินสูง ขอให้เว้นระยะห่างของการรับประทานไว้สัก 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน
ทั้งนี้นอกจากไม่ควรกินก่อนก่อนเข้านอนทันทีแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังได้แบ่งปันอีก 5 สิ่งที่คุณไม่ควรทำ เพื่อลดปัญหาฝันร้าย หลับนิทมากยิ่งขึ้น ดังนี้
หลีกเลี่ยงยาบางชนิดก่อนนอน
ยา เช่น ยาเบต้าบล็อกเกอร์ ยาแก้แพ้ ยาแก้ซึมเศร้า หรือสเตียรอยด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายคน อย่างไรก็ตามการรับประทายยาเหล่านี้ก่อนที่คุณจะเข้านอน จะทำให้คุณเกิดความเครียด วิตกกังวล หรือเหนื่อยล้ามากขึ้นได้ เนื่องจากฤทธิ์ของยาสามารถรบกวนการนอนหลับและทำให้สมองประสาทหลอน ซึ่งอาจทำให้เกิดฝันร้ายเป็นผลข้างเคียงได้ ดังนั้นถ้าคุณจำเป็นต้องกินยาเหล่านี้ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานก่อนเข้านอน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสง
เราอาจไม่ต้องการให้ระดับเมลาโทนินสูงเกินไปก่อนที่เราจะนอน แต่การมีระดับเมลาโทนินต่ำเกินไป ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน
แสงจากการเลื่อนดูโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตในเวลากลางคืน อาจทำให้เมลาโทนินลดลงได้ ถ้าคุณกำลังหากิจกรรมยามก่อนนอน แนะนำว่าให้อ่านหนังสือจะดีกว่า
เปิดรับแสงธรรมชาติ
การศึกษาพบว่าการได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอในแต่ละวัน ส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพของคุณ เพราะการได้ออกไปรับแสงแดดและการขาดแสงแดดต่างสัมพันธ์กับระดับเมลาโทนิน
ดังนั้นเมื่อแดดออกขอให้ออกไปรับแสงให้ได้มากที่สุด และเมื่อหลังพระอาทิตย์ลับจากขอบฟ้า ร่างกายของคุณจะขอบคุณแน่นอน!
กินกีวีก่อนนอน
ถ้าคุณชอบทานของหวานตอนดึก กีวีเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ มีผลการวิจัยพบว่า กีวีสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับและระยะเวลาการนอนหลับได้ ถ้ากินก่อนนอนต่อเนื่องกันเป็นเวลาหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้น
กีวีมีเซโรโทนินและสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง รวมทั้งยังมีวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินบี และโฟเลต ซึ่งมักใช้รักษาอาการนอนไม่หลับ ที่สำคัญวิตามินเหล่านี้ยังสามารถช่วยรีเซ็ตเวลาร่างกายของเราให้เป็นไปตามตารางเวลาการนอนหลับตามธรรมชาติได้ด้วย
หลีกเลี่ยงคาเฟอีน 6 ชั่วโมงก่อนนอน
มีผลการวิจัยพบว่า ปริมาณคาเฟอีน 400 มิลลิกรัม หรือปริมาณ 4-5 ถ้วย ที่ดื่มไปเมื่อ 3-6 ชั่วโมงก่อนนอน รบกวนต่อการนอนอย่างมาก ดังนั้นลองเปลี่ยนการดื่มกาแฟยามบ่ายมาเป็นกาแฟไร้คาเฟอีนแทน
วิทยาศาสตร์พบ “กล้วยดิบ” สามารถลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ถึง 60%
ตากแดดนานๆ เสี่ยง “มะเร็งผิวหนัง” จริงหรือไม่? สัญญาณของโรคคืออะไร?
เรื่องที่คุณอาจพลาด
วิดีโอยอดนิยม
6 สิ่งไม่ควรทำ "ก่อนนอน" ลดปัญหาฝันร้าย-หลับสนิทมากขึ้น - PPTVHD36
Read More
No comments:
Post a Comment