Recving: 6 สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าตื่นกลางดึก เสี่ยงกลับไปนอนต่อได้ยาก

"การนอนหลับ" เป็นการทำงานขั้นพื้นฐานของร่างกาย หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องง่าย แต่กลับบางคนอาจไม่ใช่ มีผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกที่ต้องดิ้นรนทุกวันเพื่อให้นอนหลับสนิทตลอดคืน แต่ทำไมเราถึงชอบตื่นกลางดึกกันนะ

โรคนอนไม่หลับ เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนมาก เพราะเพียงหนึ่งคำสามารถหาคำอธิบายที่ได้เป็นล้านข้อ ตั้งแต่เรื่องสุขภาพไปจนถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม มีเหตุผลที่เป็นไปได้มากมายที่ทำให้นอนไม่หลับอย่างเต็มอิ่มครบ 8 ชั่วโมง

วิทยาศาสตร์ชี้ปัญหาการนอน อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ 5 เท่า

“การนอนหลับ” เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำมากมาย ตั้งแต่การตกแต่งห้อง การฝึกโยคะ สร้างความผ่อนคลายให้ตัวเอง ไปจนถึงการใช้ยา

มีคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรทำ เพื่อให้นอนหลับ แต่ไม่มีใครเคยบอกเลยว่า กิจกรรมที่คุณควรหลีกเลี่ยง คืออะไรบ้าง เราจึงได้รวบรวมมาให้ มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

ทำไมถึงตื่นกลางดึก?

ผู้คนจำนวนมากต้องทนทุกทรมานมาจากอาการนอนไม่หลับ หรือหลับยาก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

บางคนมีปัญหาในการนอนตอนแรก คือ นอนหลับยาก แต่ถ้าหากได้นอนหลับลึกแล้วก็ จะหลับสนิท ขณะที่บางนอาจมีปัญหาในการนอนหลับ คือ ชอบตื่นกลางดึก

ถ้าคุณชอบตื่นขึ้นมากลางดึก แสดงว่าคุณตกอยู่ในกลุ่มที่มีปัญหาการนอนหลับกลุ่มที่สองแล้ว

บางครั้งการตื่นขึ้นมา อาจเกิดมาจากความเครียดและความวิตกกังวล ที่กลายเป็นฝันร้ายแล้วปลุกคุณขึ้นมา ขณะเดียวกันในบางคนก็อาจเกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบ้าง หรือมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เพื่อนนอนกรน หรือเพื่อนบ้านที่ชอบนอนดึก

อย่างไรก็ตามการตื่นกลางดึก ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำให้คุณต้องสูญเสียเวลาการนอนหลับไปตลอด 8 ชั่วโมงเต็ม แต่จะทำอย่างไรให้เราสามารถหลับต่อได้เร็ว มาดูกัน!

6 สิ่งที่ไม่ควรทำหลังตื่นกลางดึก

1.) อย่าลุกขึ้นมานั่ง

ถ้าคุณหลุดออกจากโลกของความฝันแล้ว ให้พยายามอยู่นิ่งๆ อย่าลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ให้คุณนอนค้างไว้นิ่งๆ จะดีมากกว่า

เพราะเมื่อคุณหลับ หัวใจคุณจะเต้นช้าลง แต่การลุกขึ้นนั่ง แม้จะลุกขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ก็เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ทำให้คุณตื่นตัวมากขึ้นและหลับได้น้อยลงนั่นเอง

2.) อย่าเช็กโทรศัพท์

แสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์ จะส่งสัญญาณไปยังสมองของเรา กระตุ้นให้วงจรชีวิตของเราสับสน เพราะโดยทั่วไปการเช็กโทรศัพท์จะทำให้สมองคิดว่าเป็นเวลากลางวัน

นอกจากนี้การเลื่อนดูเฟซบุ๊กและอินสตราแกรมยังไปดึงข้อมูลของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องได้อีก ทำให้นึกถึงเรื่องราวของตัวเอง และยากที่จะหวนกลับไปสู่ความคิดที่ว่าจะนอนต่อ

3.) อย่าเช็กนาฬิกา

การเก็บนาฬิกาที่ไม่มีไฟไว้ข้างกายน่าจะดีกว่า เพื่อไม่ให้คุณอ่านข้อความได้ง่าย ไม่เพียงแต่แสงสว่างจ้าของนาฬิกาดิจิทัลจะทำให้เสียสมาธิเท่านั้น

ถ้ายิ่งได้เห็นว่านี่เป็นเวลาตี 4 ด้วยแล้ว เราจะเริ่มคำนวณว่าเหลือเวลาอีกกี่ชั่วโมงที่จะต้องตื่น และอาจเครียดไปกับสิ่งนี้ ดังนั้นจึงดีกว่าที่จะต่อสู้กับความอยากรู้อยากเห็นและปฏิเสธที่จะดูนาฬิกาของตัวเอง

4.) อย่าปลุกคู่ของคุณ

ถ้าคุณพบว่าตัวเองตื่นตอนตี 2 พยายามปล่อยให้คู่ของคุณนอนหลับ เพราะพวกเขาต้องการการนอนหลับเช่นกัน

มากกว่านั้นหากคุณเปิดไฟ หรือลุกขึ้นจากเตียงเสียงดัง เช้าวันรุ่งขึ้นคุณอาจต้องเจอกับคนขี้เซาเป็น 2 เท่า

แต่มีข้อยกเว้นอยู่ว่า ถ้าคู่ของคุณส่งเสียงดังมาก หรือพวกเขาเป็นโรคหอบหืด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรืออาการแพ้ที่อาจส่งผลต่อการนอนกรนและหายใจลำบากขณะหลับ คุณสามารถปลุกให้พวกเขาลองปรับเปลี่ยนท่านอน ให้หายใจได้ดีขึ้นระหว่างคืนได้ ที่สำคัญควรพาไปพบแพทย์ต่อจากนี้ด้วย

5.) อย่าพลิกไปมา

เมื่อคุณตื่นขึ้นกลางดึก เป็นเรื่องปกติที่จะเริ่มขยับไปมาเพื่อพยายามกระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง แต่คุณไม่ควรทำแบบนั้น เพราะถ้ากล้ามเนื้อของคุณได้ผ่อนคลาย จะนอนหลับได้ง่ายกว่า

เมื่อคุณเริ่มเคลื่อนไหวและส่งเสียงกรอบแกรบ มันจะปลุกกล้ามเนื้อของคุณให้กลับมาทำงานอีกครั้ง คุณอาจมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการกลับไปยังจุดที่สบายในตอนแรก เพราะตอนนี้กล้ามเนื้อของคุณเกร็งไปหมดแล้ว
ดังนั้นจึงดีกว่าที่จะอยู่นิ่ง ๆ และหลีกเลี่ยงการพลิกไปมา คุณถึงจะกลับไปนอนทันที!

6.) อย่าลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

หากคุณดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน มีโอกาสที่คุณจะตื่นกลางดึก เพราะกระเพาะปัสสาวะเต็ม คุณจึงทำอะไรอะไรไม่ได้มาก นอกจากดื่มน้ำให้น้อยลงก่อนนอน เว้นแต่ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน ตั้งครรภ์ หรือมีภาวะกระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากอักเสบ แน่นอนว่าคุณอาจตื่นขึ้นมากลางดึกและจำเป็นที่จะต้องไปเข้าห้องน้ำ

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณตื่นขึ้นมาด้วยเหตุผลอื่นและเกิดรู้สึกอยากออกไปบ้างเฉยๆ ให้หยุดตัวเองเอาไว้ก่อน เป็นเรื่องปกติที่จะคิดว่าการผ่อนคลายตัวเองจะทำให้คุณหลับไป แต่นั่นไม่ใช่วิธีการที่ดี เพราะการลุกออกจากเตียง เปิดไฟ ล้างมือ การกระทำเหล่านี้ล้วนส่งสัญญาณของความตื่นตัวในตอนเช้าไปยังสมองของคุณ ซึ่งทำให้การนอนหลับอีกครั้งทำได้ยาก

เปิดทริคหลับต่อได้เร็ว

หากคุณพบว่าตัวเองตื่นขึ้นกลางดึก สิ่งที่คุณควรทำต่อจากนี้ คือ พยายามอย่าลุกหรือขยับตัวมากนัก ให้อยู่ในตำแหน่งที่คุณอยู่และผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้งหมดอย่างมีสติ เพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังละลายไปกับฟูก

จากนั้นให้หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ในขณะที่ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย หากคุณพบว่าตัวเองเริ่มเครียดหรือจดจ่อกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ให้จงใจนึกถึงบางสิ่งที่ผ่อนคลายและปล่อยให้สมองของคุณแล่นไป จนกว่าความคิดที่ส่ใจจะเริ่มเปลี่ยนเป็นความฝัน แล้วอีกไม่นานคุณก็จะหลับสนิทอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : Littlethings

นอนกี่ชั่วโมงได้พักผ่อนเต็มที่? พร้อมเทคนิคช่วยให้หลับง่ายขึ้น

นอนมากเกินไป! นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ เสี่ยงสมองเฉื่อย-ซึมเศร้า