ก่อนอื่นต้องบอกกับแฟนคลับทุกคนว่า เดี๊ยนรู้สึกพอใจที่เห็นดัชนีเด้งขึ้นต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,589.18 จุด บวกไป 8.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.37 หมื่นล้านบาท เพราะแสดงให้เห็นวงรอบของดัชนียังอยู่บนกรอบ 1,570-1,700 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่ผู้เล่นหลายรายกล้าเข้าช้อนหุ้นเมื่อดัชนีทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นรอบทำเงินที่ขาประจำไม่เคยพลาดกันเลยนะจ๊ะ
สิ่งที่ต้องคิดถัดมาก็คือ การเด้งขึ้นเที่ยวนี้จะไปยืนถึงระดับ 1,700 ไหม? เพราะสถานการณ์ตอนนี้ยังมีประเด็นที่คลุมเครือหลายเรื่อง โดยเฉพาะความกังวลที่มีต่อราคาน้ำมันดิบจะพุ่งกลับไปยืนแถว 130 เหรียญต่อบาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกมีแผนที่จะลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาน์เรลต่อวัน มันคือปัญหาลูกใหญ่ที่จะกลับถาโถมใส่เศรษฐกิจทั่วโลกอีกครั้ง เดี๊ยนเลยไม่มั่นใจว่า ดัชนีจะทะลุขึ้นไปแบบชิล ๆ น่ะซี
ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็ยังรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้นิดหนึ่ง เพราะเมื่อดูตัวเลขเศรษฐกิจไทยในมุมต่าง ๆ ที่กระเตื้องขึ้นต่อเนื่อง จึงกลายเป็นช็อตที่บังคับให้ผู้เล่นต้อง follow buy แบบไม่มีอิดออด และวันนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่า ดัชนีจะวิ่งทะลุ 1,600 จุดได้หรือเปล่า? เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติของสายเดย์เทรด มักไม่ถือหุ้นข้ามสัปดาห์ และพร้อมจะขายหุ้นทำกำไร ต่อจากนั้นค่อยไปลุยใหม่ในสัปดาห์ถัดไปนะจะบอกให้
เหมือนกับการเด้งขึ้นของหุ้นกระดาษลัง SCGP ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 54.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.38 พันล้านบาท อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมของหุ้นจาก “ขาลง” ให้กลายเป็น “ขาขึ้น” ก็ได้! แต่เผอิญปัจจัยรอบด้านไม่ได้ปังปุริเย่ขนาดนั้น “โมนิก้า” จึงขอฟันธงแบบไม่กลัวด้ามธงหักว่า หากมีกำไรแล้ว..ก็ต้องรีบขาย เพราะการเด้งเที่ยวก่อนก็จบเกมที่บริเวณ 56 บาทนะนายจ๋า!
ประเด็นดังกล่าวเทียบเคียงได้จากหุ้นร้านสะดวกซื้อ CPALL ซึ่งวันก่อนมีการเล่นประเด็นเงินเฟ้อลด และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่ม แต่สุดท้ายก็ปั่นกระแสได้แค่วันเดียว เพราะกำไรจริงยังไม่มาตามนัด วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 54.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.42 พันล้านบาท ท่ามกลางกราฟราคาหุ้นยังลาดเอียงลงเหมือนเดิมแบบนี้..ลุ้นน้ำลายเหนียวคอแน่ ๆ เจ้าค่ะ
เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นลีสซิ่ง SAWAD ขึ้นมาทันที เพราะทันทีที่เห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 43 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 792 ล้านบาท ก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจทันทีว่า บริษัทปลดโซ่ตรวนที่คอยขัดขวางการปั๊มกำไรหมดแล้วเหรอ? คำตอบคือ ยังถูกตามเล่นงานไม่เลิกเหมือนเดิม เดี๊ยนเลยต้องถามนักเล่นกลับไปว่า เสี่ยงไหมจ๊ะ
ในเมื่อจะเสี่ยงกันทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากให้แฟนคลับเสี่ยงอย่างมีระดับ และตัวเต็งที่อยากให้แฟนคลับนำไปพิจารณาก็คือ BANPU เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ยอดขายดี..กำไรก็มา แถมราคาถ่านหินมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่จะขึ้นรอบใหม่แบบนี้ มันทำให้ราคาปิดที่ระดับ 12.70 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 855 ล้านบาท น่าเล่นขึ้นมาทันที! เพราะเที่ยวก่อนก็ขึ้นไปถึง 14 บาทนะเจ้านาย
คล้ายกับสถานการณ์ของ STGT ซึ่งถูกถล่มขายแบบไม่ยั้งเป็นเวลาหลายเดือน จนราคาหุ้นอยู่ในเขต oversold เป็นเวลานาน ผสานกับระดับค่า PE ก็อยู่ในจุดที่นักเล่นซื้อได้สบายใจเฉิบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท คือการกลับทิศเพื่อเป็นขาขึ้นแล้วใช่ไหม?..ลองไปคิดกันดูนะออเจ้า
ส่วนคนที่ชอบแนวหุ้นเทค คงต้องหันมามองหุ้น BE8 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับการเล่นสั้น เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 57.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท มันคือการกรุยทางเพื่อขึ้นไปทำ triple top ที่บริเวณ 65 บาท ผสานกับสัญญาณเทคนิคที่เป็นตัวซัพพอร์ตก็เริ่มผงกหัวขึ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า นี่เป็นจังหวะทำเงินของคนที่ชอบลุยตามน้ำ..จริงเท็จอย่างไร?..วันนี้รู้เรื่องค่ะ
รอบทำเงิน! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์
Read More
No comments:
Post a Comment