หนุ่มบริษัทหล่อรุ่นใหม่ไฟแรง ทิ้งงานประจำที่กรุงเทพฯกลับบ้านเกิดผันตัวเองเป็นเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ทั้ง เป็ด ไก่ไข่ หมู และวัวในสวนยางรายได้ดีหยิบเงินหลายแสนบาทต่อปี โดยใช้หลักคิด หาอาชีพที่ตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นรอบข้าง ไข่เป็ด ไข่ไก่ จึงเป็นที่ต้องการของตลาด และชุมชน ป้อนร้านค้าทั่วไป ร้านทำขนม ขายราคาถูกกว่าท้องตลาดเพราะลงมือทำเอง ไม่จ้างลูกน้อง จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมีไม่พอขาย สร้างรายได้เดือนละประมาณ 30,000 – 40,000 บาท หรือปีละประมาณ 400,000 บาท และเตรียมขยายพื้นที่เลี้ยงเพิ่มทั้งเป็ด และไก่ไข่ เพื่อให้เพียงพอความต้องการของตลาด
นายชัชชนชัย นุ้ยขาว ( ต้น ) อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นเกษตรกรหนุ่มหล่อรุ่นใหม่ไฟแรง นำผู้สื่อข่าวดูพื้นที่ภายในสวนยางพาราที่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดกรีด แต่ได้ใช้พื้นที่ว่างตรงกลางร่องสวน สร้างโรงเรือนสำหรับการเลี้ยงเป็ด ไก่ไข่ หมู และเลี้ยงวัวภายในสวนยางพารา โดยน้องต้น เล่าว่า ตนเองเรียนจบการศึกษาคณะบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากนั้นก็ทำงานประจำเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เงินเดือนๆละกว่า 16,000 บาท โดยทำไม่นาน ก็รู้สึกเบื่อหน่ายว่า รายได้ที่ได้ ไม่เพียงพอรายจ่าย เพราะต้องจ่ายค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหาร ไม่มีเงินเก็บ จึงได้ปรึกษากับเพื่อนว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัว และอยากกลับบ้าน จากนั้นจึงตัดสินใจกลับบ้านมายึดอาชีพเกษตรกรได้ประมาณ 2 ปีแล้ว
โดยใช้หลักคิดว่าจะทำอาชีพที่สามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนรอบข้าง จึงคิดว่าทดลองเลี้ยงไก่ไข่ จำนวน 200 ตัว ในโรงเรือนแบบปิด และปรากฏว่าแต่ละวันเก็บไข่ได้วันละประมาณ 160 ฟอง เป็นที่ต้องการของตลาด มีไม่พอขาย เพราะในชุมชน รวมทั้งพื้นที่บริเวณโดยรอบอำเภอห้วยยอด และอำเภอเมืองตรัง มีร้านทำขนมจีบ ขนมเค้ก รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหารต้องการไข่จำนวนมาก จึงขยายพื้นที่เลี้ยง สร้างโรงเรือนเพิ่ม ซื้อไก่ไข่มาเพิ่มอีกกว่า 600 ตัว ทำโรงเรือนแบบเปิด ซึ่งขณะนี้เริ่มออกไข่ แต่ยังไม่เต็มที่ เพราะเพิ่งลงเลี้ยง จะต้องรออีกประมาณ 3 สัปดาห์ ไก่ก็จะโตเต็มที่และออกไข่ได้ทุกวัน ในที่นี้ มีการเปิดเสียงเพลงให้ไก่ฟังด้วย เพื่อให้ไก่ไม่เครียด ไม่ตกใจง่าย และมีอัตราการไข่สูงกว่า จึงเปิดเพลงให้ไก่ฟังกลายเป็นไก่อารมณ์ดีออกไข่ได้เต็มที่และสม่ำเสมอ แต่ก็ยังไม่พอความต้องการของลูกค้าทั้งร้านขนมที่มีเป็นจำนวนมาก จึงปรึกษากับแม่ว่าถ้าเลี้ยงไก่ไข่อย่างเดียวอาจไปไม่รอด และพบว่าไข่เป็ด ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาด โดยเฉพาะร้านทำขนม ซึ่งมีจำนวนมากในพื้นที่ จึงสร้างโรงเรือนเพิ่มอีกเป็นแห่งที่ 3 ซื้อเป็ดมาเลี้ยงอีกกว่า 800 ตัว ขณะเก็บไข่ขายได้วันละประมาณ 500 ฟอง และในเร็วๆนี้ จะขยายสร้างโรงเรือนเลี้ยงเป็ดเพิ่มอีกประมาณ 500 ตัว ส่วนทั้งไข่เป็ด และไข่ไก่ขณะนี้เก็บไข่ได้ประมาณวันละกว่า 700 ฟอง สร้างรายได้เดือนละประมาณ 30,000 – 40,000 บาท หรือปีละประมาณ 400,000 บาท แต่อีก 3 สัปดาห์ ไก่ไข่ที่เพิ่งลงจะออกไข่ได้ทั้งหมด คาดอย่างต่ำจะได้ไข่วันละกว่า 1,000 ฟอง ซึ่งไข่เป็ด และไข่ไก่ของตนเอง จะขายในราคาถูกกว่าไข่ในท้องตลาดแผงละประมาณ 5 -10 บาท เพราะตนเองเลี้ยงคนเดียว โดยมีแม่ช่วย ไม่ต้องจ้างลูกน้อง แม้ราคาอาหารจะแพง แต่ก็อยู่ได้ และไม่พอขาย โดยไข่ไก่ของตนเอง เบอร์ 0 ขายแผงละ 120 บาท , เบอร์ 3 แผงละ 115 บาท และเบอร์ 4 แผงละ 100 บาท แต่ในขณะที่ไข่ไก่ทั่วไปที่ขายอยู่เบอร์ 0 แผงละ 130 บาท, เบอร์ 3,4 แบบคละแผงละ 120 บาท และเบอร์ 4 แผงละ 115 บาท ส่วนไข่เป็ดของตน เบอร์ 3 แผงละ 125 บาท ,เบอร์ 0 ,1 แผงละ 130 บาท ถ้าสั่งเยอะก็จะลดให้อีก 5 บาท นอกจากนั้นยังเลี้ยงหมู ซึ่งขายไปแล้วจำนวน 17 ตัว ในราคากก.ละ 110 บาท รอสั่งลูกหมูมาลงใหม่ และยังเลี้ยงวัวด้วย จำนวน 10 ตัว ขายออกไปแล้ว 2 ตัว ซึ่งเชื่อว่าที่ตัดสินใจเป็นเกษตรกรนี้ คิดไม่ผิด และจะขยายพื้นที่เลี้ยงไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นครอบครัวยังมีสวนยาง สวนปาล์มน้ำมันด้วย โดยวัวที่เลี้ยงก็จะปล่อยให้กินหญ้าในสวนยาง และสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งการเลี้ยงสัตว์ก็จะเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่ตนเองจะทำควบคู่กับการทำสวนยางและสวนปาล์มช่วยพ่อแม่ สำหรับผู้ที่สนใจอยากซื้อไข่เป็ด ไข่ไก่ สามารถติดต่อได้ที่เฟสบุ๊ค Chatchanachai Nuikhao หรือเบอร์โทรศัพท์ 095 - 0237914
ปศุสัตว์กลางสวนยางทำเงินปีละกว่า 4 แสน! - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment