สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า CATL มีลูกค้าทั้งเทสลา โฟล์คสวาเกน และบีเอ็มดับเบิลยู ที่สั่งจองแบตเตอรี่จนทำให้บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 6,680 ล้านหยวน ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 164% จากปีที่ผ่านมา แม้การล็อกดาวน์โควิดหลายเมืองในจีน จะส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศ แต่ความต้องการสินค้ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากรัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการขายรถยนต์อีวี อีกทั้งบริษัทต่างๆ ยังผลิตรถรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
ด้านสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน เผยว่า ยอดขายรถยนต์อีวีเพิ่มขึ้น 120% ในช่วงครึ่งปีแรก แต่ยอดขายรถยนต์โดยรวมลดลง 6.6 เนื่องจากราคาวัสดุแพงขึ้นโดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเทียม ฉุดผลกำไรของ CATL ลดลง 15.04% จาก 22% ในช่วงสิ้นปี 2564
ในส่วนของ CATL ก็เริ่มปรับการดำเนินงาน ทั้งการเซ็นสัญญาระยะยาวกับซัพพลายเออร์ รีไซเคิลวัสดุต่างๆ และต่อรองราคากับผู้ผลิตรถยนต์เพื่อลดความกดดันจากราคาที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้เร่งขยายในกิจการต่างประเทศด้วยการเซ็นสัญญาซัพพลายแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู และฟอร์ด ซึ่งแต่ละค่ายรถมีรัฐบาลที่ออกมาตรการสนับสนุนรถยนต์อีวีแทบทั้งสิ้น
นอกจากนี้ CATL มีส่วนแบ่งในตลาดแบตเตอรี่รถยนต์อีวีทั่วโลกที่ 34.8 % ในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6.2%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
'CATL' แจงทำกำไรในไตรมาส 2 เพิ่ม 2 เท่า - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment