ปี 2565 เลือกทำ ธุรกิจส่วนตัว อย่างไรให้ปัง? - MoneyGuru

การเป็นเจ้าของ ธุรกิจส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งความฝันสูงสุดสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 จึงยิ่งส่งผลให้ คนไทยหันมา ทำธุรกิจส่วนตัว ผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น 

หลายคนมองว่าการทำธุรกิจส่วนตัวในยุคนี้ เป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำ ธุรกิจส่วนตัว ให้สำเร็จและมีรายได้เข้ามาเป็นประจำให้พอกับค่าใช้จ่าย บางทีก็ยากเสียยิ่งกว่าการทำงานที่ให้ค่าตอบแทนดีๆ เสียอีก

เลือกทำ ธุรกิจส่วนตัว อย่างไรให้ปัง

สำหรับคนที่มีแพลนอยากทำธุรกิจส่วนตัว สิ่งที่ต้องรู้และหาข้อมูลเตรียมไว้เพิ่มเติมก็คือ ต้องถามตัวเองให้ดีว่า อยากจะทำอะไร สิ่งที่อยากทำ สามารถต่อยอดและพัฒนาไปได้แค่ไหน เพราะลำพังแค่มีความต้องการที่จะทำ ไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอด 

ดังนั้น คนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว เป็นของตัวเองจริงๆ จึงควรหาข้อมูลให้รอบด้านไว้ด้วย ไม่ควรทดลองลงทุนไปก่อนโดยไม่รู้แน่ชัดว่า ธุรกิจที่ตั้งใจทำ จะเติบโตและต่อยอดไปได้ขนาดไหน เพราะเมื่อรู้ชัดว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ทั้งสิ่งที่อยากทำ และเป้าหมายของการทำธุรกิจที่วางไว้ ย่อมส่งผลให้แผนการทำธุรกิจต่อยอดไปในทางที่ควร

นอกจากนี้ การศึกษาเพิ่มเติม หรือการเข้าอบรมต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะนอกจากไอเดียที่ดีแล้ว ทักษะในการจัดการ การตลาด การเงิน การเสียภาษี การใช้นวัตกรรมทางการเงินเพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น  ก็เป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจไว้เช่นกัน

เลือกทำธุรกิจส่วนตัว ตามเทรนด์ธุรกิจดาวรุ่ง 

ประเภทหรือเทรนด์ของธุรกิจมาแรง สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาประกอบการพิจารณาถึงแนวทางและสไตล์การทำธุรกิจส่วนตัวที่คุณต้องการได้ เพราะหากคุณจับเทรนด์ที่เติบโตทัน นำเสนอสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ก็ย่อมมีโอกาสได้เปรียบ และทำยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ 

สำหรับธุรกิจที่กำลังมาแรงในปี 2565 นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เผยถึงผลการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งของครึ่งปีหลัง 2565 ไว้ดังนี้ 

1. ด้านการแพทย์และความงาม รวมไปถึงธุรกิจ e-commerce ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งต่อเนื่อง
2. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า และคลังสินค้า
3. กลุ่มประกันภัย ประกันชีวิต และธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ
4. Online Entertainment อย่าง E-Sports และธุรกิจ Social Media 
5. การจัดทำคอนเทนต์ เช่น youtuber influencer การรีวิวสินค้า การผลิตสื่อโฆษณา
6. สินค้าที่เป็นเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ และธุรกิจธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี และธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้ำ ธุรกิจ event
7. ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน
8. ธุรกิจ Modern Trade/ร้านค้าปลีกสมัยใหม่และธุรกิจสมุนไพรไทย เช่น กัญชง กัญชา ใบกระท่อม
9. ธุรกิจสถานบันเทิงและธุรกิจยานยนต์
10. ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบและธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

ด้าน 10 ธุรกิจดาวร่วง ประกอบด้วย

1. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและครื่องโทรสาร
2. การฟอกย้อม
3. งานหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก
4. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร
5. การรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน
6. โรงพิมพ์/การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ
7. ระบบพ่อค้าคนกลาง การผลิตและขายต้นไม้/ดอกไม้ประดิษฐ์
8. เครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก
9. การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป หรือเสื้อผ้าโหล
10. ร้านเช่าหนังสือ ขายหนังสือ และธุรกิจร้านถ่ายรูป

ลักษณะของธุรกิจ ตอบโจทย์ตลาดหรือไม่

เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะทำอะไร ลำดับขั้นตอนถัดไป คือการวิเคราะห์ว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกทำ สามารถตอบโจทย์ของตลาดได้หรือไม่ เช่น สมัยนี้ใครๆ ก็เปิดร้านขายของออนไลน์กัน เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กับสถานการณ์ปัจจุบันหลังโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี เราจึงเห็นถึงการเติบโตของร้านค้าออนไลน์ตามช่องทางโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์ม e-commerce เกิดขึ้นมากมาย แต่ร้านค้าเหล่านั้น จริงๆ แล้วมีสักกี่ร้านที่ขายดี และสามารถหารายได้ประจำได้ตลอด

ฉะนั้น หากคุณสนใจทำธุรกิจส่วนตัวที่สร้างรายได้ประจำได้จริงๆ สิ่งที่จำเป็นต้องมีในการทำธุรกิจของคุณเลยก็คือ ความแตกต่าง อาจจะเริ่มต้นจากการหาจุดเด่นในธุรกิจของตนเอง เช่น จุดเด่นของสินค้า การให้บริการ การจัดส่ง การใช้ภาพโฆษณา เป็นต้น  

กรณีเปิดเป็นร้านขายกาแฟ หรือขายอาหาร ก็ควรมีมุมถ่ายภาพน่ารักๆ ในร้าน ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลที่ชอบถ่ายรูปไว้แชร์ลงในโซเชียลมีเดียด้วย เป็นต้น

กลยุทธ์ในการ ทำธุรกิจส่วนตัว

ไม่ว่าธุรกิจส่วนตัวของคุณจะมีไอเดียดีขนาดไหน แต่ถ้ากลุ่มลูกค้าแคบเกินไปหรือ เข้าไม่ถึงลูกค้า ทำให้ไม่มียอดขาย ธุรกิจที่ลงทุนไปแล้ว ก็ไปต่อได้ยาก ฉะนั้น หากโมเดลธุรกิจไม่ดีพอ มีทุนไม่มาก ก็อาจทำให้การทำธุรกิจสะดุดลงได้ 

การทำ ธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีแผนธุรกิจหรือกลยุทธ์ในการขายที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วน รอบคอบ และควรเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ เช่น 

• ตั้งเป้าหมาย เช่น อยากให้มีจำนวนสั่งซื้อ 10 ออเดอร์ ต่อวัน หรือ 30 ออเดอร์ต่อเดือน โดยที่มียอดขาย 50,000 บาท ต่อเดือน เมื่อธุรกิจของคุณมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการหาเส้นทางเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น 
• ช่องทางการขาย ในยุคแห่งเทคโนโลยีที่อะไรๆ ก็ซื้อง่ายขายคล่องบนโลกเสมือนจริง การตลาดออนไลน์จึงเป็นอีกช่องทางสำคัญ เพราะต้นทุนไม่สูงและมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้ดี รวมทั้งใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการทำงาน ช่วยให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น โดยช่องทางการขายในลักษณะนี้ มีให้เลือกมากมาย ได้แก่ 
  • Social Media เช่น Facebook Page, Instagram หรือ LINE Official Account 
  • Marketplace หรือที่เรารู้จักกันชื่อของ Shopee หรือ LAZADA ช่องทางการขายที่ให้เราสามารถเข้าไปสร้างโปรไฟล์ร้านค้า และนำสินค้าไปลงขายได้
  • Website ช่วยให้ร้านสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาจาก Google Search ได้
• ช่องทางการชำระเงิน สิ่งสำคัญที่ร้านค้าออนไลน์จะขาดไปไม่ได้เลยคือ ช่องทางการรับชำระเงินออนไลน์ ร้านค้าออนไลน์หลายแบรนด์อาจเริ่มต้นจากการจากใช้บัญชีธนาคารในการรับเงิน แต่ถ้าจะให้ดี หากร้านค้าสามารถรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตได้ ร้านของคุณจะมีโอกาสปิดการขาดเพิ่มขึ้นอีก 30% เลยทีเดียว

การให้บริการชำระด้วยบัตรเครดิต แม้ว่าจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือ โอกาสปิดการขาย และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

มองหาทุนเริ่มต้นและทุนสำรอง

เมื่อรู้แล้วว่าจะลงทุนทำธุรกิจอะไรดี มีไอเดียพร้อม แผนพร้อม แล้วทุนล่ะ พร้อมหรือยัง ? 

เจ้าของธุรกิจบางคนเริ่มต้นจากการทำงานประจำ ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบ หรือเริ่มจากอาชีพเสริมหลังเลิกงาน และบางคนอาจโชคดีที่มีเงินทุนตั้งต้นจากที่บ้าน แต่นอกจากทุนเริ่มต้นแล้ว ก็อย่าลืมนึกถึงทุนสำรอง เพราะมันเป็นแผนสองเผื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา หากใครอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ไม่มีทุนก็ควรเตรียมตัวมองหาทุนกู้ยืมให้ดี

กรณีที่ต้องการเงินทุนไม่มาก แต่ต้องการเงินด่วนไว้ใช้สำหรับลงทุน ก็สามารถสมัครขอสินเชื่อส่วนบุคคลหรือเลือกกดเงินจากบัตรกดเงินสด และทำเรื่องขอผ่อนคืนเป็นงวดๆ ได้ เช่น

พิเศษ! สำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัคร บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ตั้งแต่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 65 จะได้รับ ดอกเบี้ยถูก 0.42% ต่อเดือน นานต่อเนื่อง 4 เดือน*

• เลือกชำระคืนเป็นรายงวดเท่ากัน ได้สูงสุด 60 เดือน โดยเงินเข้าบัญชีทันทีหลังอนุมัติบัตร ไม่ต้องรอบัตรส่งไปถึง
• หรือ หลังจากได้รับ และเปิดใช้บัตรแล้ว ใช้บริการกดเงินสดทันที (cash advance) ที่ตู้ ATM หรือ เงินสดสั่งได้ (cash transfer) ผ่านแอป ttb touch

สนใจสมัครบัตรกดเงินสด ttb flash คลิกที่นี่

บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต ใช้เบิกเงินสดเป็นก้อนโอนเข้าบัญชีได้ทันใจ แถมยังมีบริการผ่อนสินค้าที่เลือกได้ว่า จะผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว ด้วยดอกเบี้ย 0%* แบ่งจ่ายรายเดือนนานสูงสุด 36 เดือน* ตามโปรโมชั่นร้านค้าที่ร่วมรายการ 

• ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี  ไม่มียอดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ
• สั่งเงินก้อนได้ทันใจ รับเงินภายใน 1 วันทำการ 
• วงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน หรือ 1,000,000 บาท*
• กดเงินสดจากตู้ ATM ได้ทุกตู้ธนาคาร โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด

สนใจสมัคร บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต คลิกที่นี่

มี บัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส ติดตัว ก็เหมือนมีเงินสดสำรองติดกระเป๋าสตางค์พร้อมใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยวงเงินสำรองสูงสุดถึง 1,000,000 บาท* ใช้กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่ไหนในโลกก็ได้ ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด

• สมัครเพียงครั้งเดียว สามารถใช้วงเงินได้ตลอดชีพ
• ใช้แบ่งชำระ 0% ทุกชิ้น ทั้งร้าน เมื่อมียอดตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป ต่อเซลล์สลิป*
• ดอกเบี้ยเบาๆ เพียง 70 สตางค์ต่อวัน** พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสด***

สนใจสมัคร บัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส คลิกที่นี่

โลกปัจจุบันเทรนด์ต่างๆ มาไวไปไวมาก หากคุณสนใจทำธุรกิจให้ปังจริงๆ ทิศทางตลาดเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ ต้องปรับตัวตามให้ทัน และหมั่นหาความรู้ใหม่ๆ มาต่อยอดเสมอ สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา 

ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ LINE @MoneyGuruThailand

ข้อมูลอ้างอิง Krungsri Academy, ฐานเศรษฐกิจ

Adblock test (Why?)

ปี 2565 เลือกทำ ธุรกิจส่วนตัว อย่างไรให้ปัง? - MoneyGuru
Read More