ก่อนหน้านี้ "กุ้งพลอย" หรือ "ติ๊ก กนิษฐรินทร์" อดีตภรรยา มีดราม่า ไม่อยากตรวจ ATK ก่อนเจอลูก ล่าสุด สบโอกาสเจอ "หนุ่ม ศรราม" ที่งานบวงสรวงละคร "พนมนาคา" เจ้าตัวชี้แจงประเด็นนี้ว่า "เรื่อง ATK ปกติเวลา ติ๊ก จะมาเจอลูก ก็ต้องส่งผลตรวจ ATK มา หรืออาจจะมีบุคคลที่สาม ที่จะมาถ่ายคลิปน้อง ก็ต้องมีผลตรวจ ATK อยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาสองสัปดาห์ที่แล้ว ในเวลาที่นัดกัน เขาไม่ได้มีการส่งผลตรวจมาให้ผม ผมก็เลยยังไม่ให้วีจิไปเจอ เพราะว่าก็อย่างที่เห็นกัน ว่าช่วงนี้มันกลับมาระบาด แล้วก็ติดกันง่ายอีกครั้ง แล้ววีจิเขาต้องไปเรียนโรงเรียนอนุบาลด้วย เราก็ต้องบอกว่าเราห่วงแค่ลูกเราคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องห่วงความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นด้วย ถ้าวีจิติดแล้วไปโรงเรียนแล้วต้องไปติดลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น มันก็จะยิ่งไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นก็พยายามกำชับ และพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ถี่ถ้วนมากขึ้น แต่ตอนนี้ก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ติ๊กก็เพิ่งเจอลูกไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา"
"เรื่องทำกิจกรรม ผมไม่เห็น เพราะผมไปทำงาน กลับมาเจอลูก ก็ถามเขาว่าทำไมเขาหงอยๆ พี่เลี้ยงก็บอกว่ามันเป็นอย่างนี้นะ คือเครื่องทำขนมมันช็อต แล้วมันช็อตอยู่ ผมก็ถามว่าวีจิโดนอะไรบ้างหรือเปล่า ก็บอกว่ามันไม่โดน คือผมเองก็เป็นห่วงนะครับ ผมคิดว่าในวัยของวีจิ สิ่งที่เขาจะต้องเสริมนอกจากการเรียนรู้ปัจจุบันนี้ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องว่ายน้ำ เพราะว่าตั้งแต่โควิดมา เขาก็ไม่ได้ว่ายน้ำอีกเลย และสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมก็คือภาษาอังกฤษ ส่วนอะไรที่มันผาดโผนหรือไม่ปลอดภัย ผมค่อนข้างเป็นห่วงลูก เรื่องกิจกรรมลูก ไม่ได้คุยกัน เพราะว่าผมเป็นผู้ปกครองของวีจิ แต่เพียงผู้เดียวอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของผม ส่วนไลฟ์ทำกิจกรรม มันถูกลบไปแล้ว ก็มีพี่ๆ ที่เขาแคปหน้าจอทันบอกเรา ซึ่งตัวเขาก็ไม่ได้แจ้งอะไรมา (ถ้าไม่ว่าง แม่เขาสามารถพาไปได้ไหม?) ไม่ได้ครับ เพราะว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของติ๊ก ติ๊กเขาไม่มีสิทธิ์"
"ก็คงต้องฝากที่ปรึกษาทางกฎหมาย แล้วก็พี่เลี้ยงเป็นคนสื่อสารกับเขา ว่าเราไม่อยากให้น้องเล่นอะไรที่มันผาดโผน หรืออะไรที่มันดูไม่ค่อยปลอดภัย ทั้งที่มันยังไม่ถึงวัยเขา อะไรที่มันเป็นตัวเขา ถ้าถึงเวลาที่เขาชอบอะไรแล้ว เราค่อยให้เขาเลือก บางทีเขาอาจจะไม่อยากขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่อยากต่อยมวยก็ได้ ไม่อยากจะใส่กางเกง เพราะว่าเขาเป็นผู้หญิง เขาอาจจะอยากแต่งตัวสวยๆ อยากจะถักเปียสวยๆ อยากจะใส่ชุดสวยๆ คือปล่อยเขา ถ้าถามว่ากลับมาเป็นครอบครัวกันได้อีกไหม ไม่ครับ เพราะว่าผมทำดีที่สุดทุกอย่างแล้วครับ"
"เขาเจอลูกเดือนละสองครั้ง คนอาจจะไม่เข้าใจ ผมก็ต้องขออนุญาตอธิบายอีกสักครั้งก็แล้วกัน ผมกับลูกใช้ชีวิตปกติธรรมดาสามัญทั่วไปแบบพ่อลูก การให้ติ๊กเจอได้สองครั้ง เพราะวีจิก็ต้องไปโรงเรียนจันทร์ถึงศุกร์ ผมเป็นพ่อผมถ่ายละครจันทร์ถึงพุธหนึ่งเรื่อง พฤหัสถึงอาทิตย์อีกหนึ่งเรื่อง กว่าจะว่างก็เสาร์-อาทิตย์ หรือถ้าเกิดไปเรียนว่ายน้ำ ไปเรียนภาษาอังกฤษอีก ก็แบ่งกันเดือนละสองวัน ผมสองวัน ติ๊กอีกสองวัน มันก็โอเคนี่ครับ มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่ดูไม่เหมาะสมตรงไหนเลย"
"ส่วนประเด็นชาวเน็ต ที่เข้ามาคอมเมนต์ อ้างว่าเป็นญาติ คือตอนนั้นผมลงติ๊กต็อกกับลูก มีคนมาคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผมก็สวนกลับไป แล้วก็แคปยูสเซอร์ไว้ แล้วผมก็ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายดู ว่าผมจะทำยังไงได้บ้าง กับคนที่ประพฤติตัวแบบนี้ในโลกโซเชียล และพอผมโพสต์ ว่าผมให้ทีมกฎหมายของผมเก็บหลักฐาน เขาก็มาพิมพ์ขอโทษผมในวันเดียวกันเลย ด่าผมเช้าแล้วมาขอโทษผมเย็น ทางผมส่งจดหมายไปตักเตือนก่อนนะ ว่าอย่าทำแบบนี้อีก ถ้ามีอีกครั้งเราจะดำเนินคดี มันก็เป็นไปตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอนไป ตามที่ที่ปรึกษาจะทำให้ แล้วก็ไม่ใช่แค่คุณคนนี้คนเดียวนะ ผมทำทุกคน"
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
"หนุ่ม ศรราม" ไม่ปลื้ม "กุ้งพลอย" พาลูกสาว ทำแบบนี้ ? พร้อมตอบดราม่า ATK - คมชัดลึก
Read More
No comments:
Post a Comment