Steve Aoki (สตีฟ อาโอกิ) คลับดีเจและผู้บริหารค่ายเพลงอินดี้ Dim Mak Records ได้โลดแล่นในวงการ NFT ในฐานะศิลปินมาสองสามปีแล้ว และเขาต้องการเห็น สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเหล่านี้มาช่วยปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรี
โดยส่วนตัวแล้ว Aoki เป็นแฟนตัวยงของ Gala Games รวมถึงการแตกแขนงธุรกิจล่าสุดของบริษัทอย่าง Gala Music โดยเขาได้ขึ้นพูดเปิดงานในอีเวนต์ของ Gala Music ซึ่งจัดขึ้นที่ The Forum ใน เมืองอิงเกิลวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งการพูดคุยเป็นไปในลักษณะของการถามตอบแบบตัวต่อตัว
งานนี้ Sarah Buxton ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Gala Games ยังได้ขึ้นพูดคุยเกี่ยวกับเกมและดนตรี ตามด้วย BT ศิลปินแนวอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้มาพูดคุยถึง Orbs ซึ่งเป็นคอลเลกชั่น NFTs ของเขาที่วางจำหน่ายไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
คอลเลกชั่น Orbs เรียกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในวงการ NFT ตลอดช่วงสุดสัปดาห์เพราะมีราคาเปิดตัวสูงลิบที่ 11.1 ETH ต่อชิ้น หรือ (ราว 32,000 ดอลลาร์) แม้ว่าราคานั้นจะค่อย ๆ ปรับลดลงจนกว่าจะขายหมด
หลังจบช่วงของการพูดคุยแบบตัวต่อตัวแล้ว จึงเป็นการแสดงสดของ H.E.R., BT, Kings of Leon, 3lau, และต่อด้วยตัว Aoki เอง
Steve Aoki (สตีฟ อาโอกิ)
ในช่วงการถามตอบ Aoki เรียกตัวเองว่า “Futurist” และเขาเชื่อมั่นว่า NFTs จะปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรีได้อย่างแน่นอน ในปัจจุบันศิลปินมีรายได้เพียงเล็กน้อยจากค่าลิขสิทธิ์
Aoki ยังเผยอีกว่ารายได้จากงาน DJ ของเขานั้นคิดเป็นเกือบ 95% ของรายได้ทางดนตรีทั้งหมดของเขา
NFTs คือโทเคนที่มีความแตกต่างเฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร อยู่บนบล็อกเชน เฉกเช่น Ethereum หรือ Solana และสามารถบ่งบอกกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเหนือรูปภาพ ผลงานดนตรี หรือแม้แต่ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่จับต้องได้ในโลกจริงด้วย ตลาด NFTs บูมอย่างมากในปีที่ผ่านมา และปัจจุบันกลายเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
“ถ้าผมไม่ได้มีงาน DJ…ผมคงต้องหางานใหม่แล้วล่ะ” เขาพูด เรียกเสียงหัวเราะจากฝูงชน Aoki มองว่า ภายใต้โมเดลธุรกิจในปัจจุบัน ค่าลิขสิทธิ์ไม่คุ้มเลย แต่มันก็มีส่วนช่วยศิลปินได้บ้าง
Steve Aoki (สตีฟ อาโอกิ)
“ถ้าจะให้ลงรายละเอียดคือ ในช่วง 10 ปีที่ผมทำงานดนตรีมา...ออกเพลงมา 6 อัลบั้ม และเมื่อคุณรวมรายได้ทั้งหมดนี้ ยังน้อยกว่าที่ผมได้จากการปล่อย NFTs ครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังสามารถเต็มที่กับงานดนตรีมากขึ้น” Aoki กล่าว
เขายังเสริมว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ NFTs น่าตื่นเต้นเพราะมันขึ้นอยู่กับคอมมูนิตี้ที่ก่อตื่นตัวมาสนับสนุนพวกเขา ซึ่งสำหรับ Aoki แล้ว เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเพราะนักดนตรีส่วนใหญ่มีฐานแฟนเพลงที่คลั่งไคล้จำนวนมากอยู่แล้ว
เขายังยกตัวอย่างกรณีวง BTS แต่ไม่ได้กล่าวถึงกระแสตีกลับที่ศิลปินเกาหลีชื่อดังต้องเผชิญจากเหล่าแฟนเพลง หลังประกาศเปิดตัว NFTs ของวง
“และเมื่อเพลง NFTs เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมสนับสนุนศิลปิน ค่ายเพลงต่าง ๆ ย่อมจะต้องทำอะไรมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มเพลงในเพลย์ลิสต์” Aoki กล่าว
Steve Aoki (สตีฟ อาโอกิ)
Aoki ไม่ได้เป็นเพียงผู้สร้างผลงานแต่ยังเป็นนักสะสมอีกด้วย เขาเป็นเจ้าของ NFTs ชุด Bored Ape Yacht Club (BAYC) หลายชิ้น และยังทำผลงานบน NFT Marketplace ที่อยู่บนบล็อกเชน Solana และปัจจุบันเขาได้เปิดตัว Aokiverse คลับแบบสมัครสมาชิกที่มี NFTs ซึ่งจะมีอยู่ในโลกจริงด้วย
สำหรับตัว Aoki เขาคิดว่า Web3 หมายถึงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ซึ่งรวมถึงการเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองด้วย เขายังกล่าวอีกว่าในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลกว่านี้ จะถึงยุคที่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมไม่สามารถยึดครองข้อมูลของผู้ใช้ไว้ได้อีกต่อไป และอินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นสิ่งที่ให้อำนาจกับผู้ใช้งาน
“จะมีเวอร์ชันใหม่ที่ซึ่งเราสามารถแสดงสิ่งที่เป็นของเรา” เขากล่าวเสริม “และจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา”
Steve Aoki (สตีฟ อาโอกิ) เกิดใน Miami และย้ายมาเติบโตอยู่ใน Newport Beach, California เขาเป็นลูกชายของ Chizuru Kobayashi และ Rocky Aoki แชมป์กีฬามวยปล้ำของญี่ปุ่นและผู้ก่อตั้ง Benihana ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากในประเทศสหรัฐอเมริกา
------------------------------------
credit photo : https://ift.tt/nez1KF5
งานอีเวนต์ Gala Music
Steve Aoki เผยทำเงินจาก NFTs ได้มากกว่ารายได้จากดนตรี 10 ปี - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment