นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่ารัสเซียมีแผนที่จะทำคลิปวิดีโอปลอมเพื่อสร้างความชอบธรรมในการโจมตียูเครน พร้อมระบุว่า ข้อกล่าวหานี้ไร้สาระ
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐได้รับข้อมูลว่ารัสเซียกำลังมีแผนที่จะทำคลิปวิดีโอปลอมเพื่อให้รัสเซียมีความชอบธรรมในการโจมตียูเครน
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า รัสเซียเตรียมจัดฉากถ่ายทำวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าทหารยูเครนได้เข้าโจมตีรัสเซีย โดยมีการทำร้ายชาวรัสเซีย ซึ่งจะมีการแสดงศพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และมีตัวละครซึ่งจะรับบทเป็นผู้ที่กำลังคร่ำครวญเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิต รวมทั้งแสดงภาพสถานที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากการโจมตีของกองทัพยูเครน
สหรัฐเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียกำลังตรึงกำลังทหารราว 100,000 นายตามแนวชายแดนยูเครนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบุกโจมตี
ทำเนียบเครมลินแถลงในวันศุกร์(4ก.พ.)ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ในประเด็นข้อเรียกร้องของรัสเซียเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงจากชาติตะวันตก ในระหว่างที่ปธน.มาครงเดินทางเยือนกรุงมอสโกในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ.
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียมองว่าการเดินทางมาเยือนของปธน.มาครงมีความสำคัญ และปธน.ปูตินจะแจ้งปธน.มาครงถึงความรู้สึกที่มีต่อคำตอบที่ได้รับจากทางสหรัฐและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เกี่ยวกับข้อเรียกร้องของรัสเซีย
ทั้งนี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า นาโตจะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต
ก่อนหน้านี้ ปธน.ปูตินได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.มาครงเมื่อเดือนที่แล้ว โดยปธน.ปูตินเน้นย้ำว่า เขาไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้ากัน และทุกฝายจะต้องใช้ความพยายามลดความตึงเครียดในยูเครน โดยจะต้องเปิดช่องทางการเจรจาต่อไป ซึ่งสะท้อนสิ่งที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียไม่ต้องการทำสงครามกับยูเครน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี ก็มีกำหนดเยือนกรุงมอสโกในวันที่ 15 ก.พ.เพื่อหาทางผ่อนคลายวิกฤตการณ์ยูเครนเช่นกัน
รัสเซียโต้สหรัฐ หลังถูกแฉเตรียมทำคลิปวิดีโอจัดฉากถูกยูเครนโจมตี - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment