เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดแตะ 32.10 ต่อดอลลาร์ ผลจากแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำของผู้ค้าทอง และแรงซื้อหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ประเมินแนวโน้มอาจอ่อนค่าหากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย พร้อมแนะจับตาสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนในประเทศที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น
ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18 กุมภาพันธ์) ที่ระดับ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.18 บาทต่อดอลลาร์ ล่าสุด ณ เวลา 09.00 น. เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.10 บาทต่อดอลลาร์ ผลจากแรงเทขายทำกำไรในตลาดทองคำของผู้ค้าทองและแรงซื้อของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย
ตลาดการเงินยังคงผันผวนหนักและอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หลังทางการสหรัฐฯ ยังคงเน้นย้ำถึงแนวโน้มที่รัสเซียพร้อมเปิดฉากบุกโจมตียูเครนได้ทุกขณะ ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลว่าความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นอาจบานปลายสู่สงครามได้ และเลือกที่จะเทขายสินทรัพย์เสี่ยง พร้อมทยอยเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ เงินดอลลาร์ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาล
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เงินดอลลาร์โดยรวมยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่ตลาดยังคงกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 95.8 จุด
นอกเหนือจากเงินดอลลาร์แล้ว ผู้เล่นในตลาดยังเลือกเข้ามาถือเงินเยน (JPY) ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 114.8 เยนต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ความเสี่ยงปัญหาความขัดแย้งรัสเซียกับยูเครนที่ยังร้อนแรงอยู่ยังได้หนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราคาดว่าการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาทองคำจะส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้ามาขายทำกำไรทองคำมากขึ้น ซึ่งโฟลวธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนที่จะช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ แม้ตลาดโดยรวมจะยังปิดรับความเสี่ยงก็ตาม
สำหรับวันนี้ ตลาดจะเฝ้าระวังและติดตามปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและชาติพันธมิตร NATO อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งอาจบานปลายสู่สงครามและกดดันให้ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงได้
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ตลาดการเงินจะปิดรับความเสี่ยง ทว่าเงินบาทยังคงได้รับแรงหนุนจากโฟลวขายทำกำไรทองคำ รวมถึงแรงซื้อหุ้นไทยสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับการแข็งค่าหนักจนหลุดแนวรับสำคัญของเงินบาทก็หนุนให้ผู้ส่งออกบางรายเร่งเข้ามาขายเงินดอลลาร์ กดดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งเรามองว่าเงินบาทจะยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากปัจจัยดังกล่าวอยู่ต่อในระยะนี้ โดยเฉพาะแรงเทขายทำกำไรทองคำจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดสงครามได้
อย่างไรก็ดี เรามองว่าเงินบาทก็เริ่มมีโอกาสอ่อนค่าลงได้บ้างหากสถานการณ์ความตึงเครียดคลี่คลายลง ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มขายทำกำไรธีมการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งอาจจะเห็นนักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรหุ้นไทยได้
นอกจากนี้ ควรติดตามสถานการ์การระบาดของโอมิครอนในประเทศ หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรวมถึงอัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและอาจกดดันระบบสาธารณสุขได้ ซึ่งกรณีเลวร้ายคือรัฐบาลอาจพิจารณากลับมายกระดับมาตรการควบคุมการระบาดอีกครั้ง
พูนกล่าวว่า การแข็งค่าเร็วและผันผวนหนักของเงินบาทจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยดูแลลดความผันผวนของค่าเงินลง ซึ่งจะช่วยให้การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจเริ่มจำกัดลงและเงินบาทจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบ Sideways
สำหรับกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.10-32.20 บาทต่อดอลลาร์
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
'เงินบาท' แข็งค่าแตะ 32.10 ต่อดอลลาร์ ผลจากแรงขายทำกำไรของผู้ค้าทอง – THE STANDARD - thestandard.co
Read More
No comments:
Post a Comment