Recving: 'อันวาร์ สาและ' ลั่น ไม่ได้ทำผิดอะไร แค่อยู่ข้างประชาชน หลังลือสะพัด ปชป.ไม่ส่งลง ส.ส.อีก

‘อันวาร์ สาและ’ ลั่น ไม่ได้ทำผิดอะไร แค่อยู่ข้างประชาชน หลังลือสะพัด ปชป.ไม่ส่งลง ส.ส.อีก

จากกรณีมีรายงานข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ส่ง นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ลงสมัครเลือกตั้งครั้งหน้า จากกรณีที่ยกมือไม่ไว้วางใจนายกฯ เพราะขัดคำสั่งของหัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรค ที่สั่งให้ไว้วางใจต่อนายกรัฐมนตรี จึงมีการส่งให้ผู้บริหารระดับรองหัวหน้าพรรคลงมาปฏิบัติการเคลื่อนไหวกันในทางลับเพื่อหาผู้สมัครในพื้นที่ของ 3 จังหวัดและเริ่มมีการกำหนดรายชื่อผู้สมัครกันบ้างแล้ว และล่าสุดมีรายงานข่าวจากที่ประชุมจังหวัดสงขลาว่าในปัตตานีเขต 1 ไม่มีชื่อของ ส.ส.อันวาร์ สาและ เป็นที่แน่นอนแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามนายอันวาร์ สาและ ถึงกรณีข่าวดังกล่าว ซึ่งนายอันวาร์ยอมรับว่ามีกระแสข่าวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้รับแจ้งจากพรรคเลย ตนก็ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 2550 ตนจะลงสมัครเป็นสมัยที่ 2 ก็มีการทำโพลแจ้งพรรคว่า ส่งตนเองลงสมัครก็แพ้ สุดท้ายหาใครไม่ได้ก็ส่งตน และก็ชนะเป็น ส.ส.มาสี่สมัยแล้ว เพราะตนมั่นใจว่ายืนเคียงข้างประชาชน วันนี้ตนเองก็ลงมาประชุมร่วมกับหน่วยราชการ เพราะเดินหน้าของบประมาณมาในโครงการแก้ไขสะพานข้ามแม่น้ำปัตตานีช่วงตำบล ตะลุโบะ ที่พี่น้องชาวปัตตานีรอมาตั้งแต่ก่อนปี 2548 อีก ตนเองพูดได้เต็มปาก เพราะเดินหน้ามาตลอด และได้อภิปรายในสภา ตอนนี้ได้งบแล้ว “สงสารพี่น้องผม ลำบากมานาน ผมทำสำเร็จแล้ว ผมไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพรรค ผมทำงานให้ประชาชน หากคิดว่าสิ่งที่ผมยืนเคียงข้างกับประชาชนเป็นสิ่งผิด ผมไม่เปลี่ยนวิธีครับ ประชาชนเลือกผมให้มารับใช้ประชาชน”

เมื่อถามว่า พรรคไม่ส่งจะทำอย่างไร นายอันวาร์ตอบว่า หากพรรคไม่คิดถึงประชาชน ผมก็มีสองทางเลือกคือ หยุดแล้วไปทำอย่างอื่น แต่หากประชาชนยังต้องการผม ก็ต้องบอกผมว่าจะให้ผมไปอยู่พรรคไหนครับ

สำหรับนายอันวาร์ สาและ เป็นอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ.2548 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 4 สมัย นายอันวาร์ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และมีบทบาทในการแสดงออกหลายครั้งต่อการไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงการลงมติงดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และการออกมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี แม้จะต้องโทษจำคุกในคดียาเสพติดจากออสเตรเลียก็ตาม เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2564 เขาประกาศลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์