ในส่วนซอฟต์แวร์ Mi TV P1 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV พร้อมฝังแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Netflix, Amazon Prime รวมถึง YouTube เอาไว้ด้วย และสามารถสั่งการด้วย Google Assistant ได้
สำหรับราคาวางจำหน่ายของรุ่น 32 นิ้ว อยู่ที่ 6,990 บาท รุ่น 43 นิ้ว ขายที่ 11,490 บาท และขนาด 55 นิ้ว ราคาขึ้นมาที่ 15,990 บาท
ขณะเดียวกัน เสี่ยวหมี่ ได้แนะนำทีวีอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งถือเป็นเรือธงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี นั่นคือ Mi TV Q1 กับขนาด 75 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD สามารถแสดงสีได้มากถึง 1.07 พันล้านสี และวัสดุประกอบงานเป็นโลหะ
ทางด้านชุดซอฟต์แวร์ ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android TV 10 พร้อมแอป Netflix, Amazon Prime รวมถึง YouTube และตั้งราคาขายไว้ที่ 44,990 บาท
ทั้งนี้ Mi TV P1 และ Mi TV Q1 วางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 6 มิถุนายน
ผลิตภัณฑ์ต่อมาเป็น Mi Smart Band 6 โดยมีฟีเจอร์หลักๆ ที่อุปกรณ์สวมใส่ต้องมี ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ติดตามการนอนในแต่ละคืนของผู้สวมใส่ได้, รองรับการออกกำลังกายได้มากสุด 30 รูปแบบ
นอกจากนี้ Mi Smart Band 6 ใช้งานได้นานสุด 14 วันต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มประจุหนึ่งครั้ง โดยให้แบตเตอรี่มาที่ 125 mAh มีคุณสมบัติกันน้ำได้ลึก 50 เมตร และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ (27) ราคา 1,090 บาท
ปิดท้ายงานด้วยพระเอกอย่าง Redmi Note 10 5G มือถือที่รองรับสองซิม 5G โดยมากับชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700
ทางด้านขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว ซึ่งเป็นจอใหญ่ตามสมัยนิยม ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรต 90Hz AdaptiveSync พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดความลึกอีก 2 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่กำลังไฟสูงสุด 18W มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue และ Aurora Green
โมเดลของ Redmi Note 10 5G จะมีด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ รุ่น 4GB+128GB ขายในราคา 5,999 บาท และ 6,999 บาท สำหรับ 8GB+128GB เริ่มขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Xiaomi ส่ง Redmi Note 10 5G และ Mi TV P1 Series ทำตลาดในประเทศไทย - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment