เรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านตี๋ไฮ้ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและกระเพาะปลา เลขที่ 89/1 ถนนนเรศวร เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบกับหนุ่มน้อยวัย 14 ปียอดกตัญญู ชื่อ ด.ช.จิตติพงษ์ วัจจรินทร์ หรือ "น้องฮอนด้า" พักอาศัยอยู่บ้านเช่าในชุมชนบ้านเซ โดยน้องฮอนด้า เปิดเผยว่า ตนเรียนจบ ม.2 ไม่ได้เรียนต่อเพราะยากจน ออกมาช่วยแม่ทำงานเท่าที่ทำได้ และไปบวชเรียน แต่บวชได้เพียง 1 ปีก็ต้องสึกออกมาเพื่อช่วยแม่ทำงาน และเมื่อมีโควิดพ่อแม่ก็ตกงานไม่มีงานทำ
น้องฮอนด้า เล่าต่อว่า ตนกับแม่ขี่จยย.เข้ามาหางานในตัวเมืองอุดรธานีหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่มีงาน เพราะร้านส่วนใหญ่ปิดช่วงโควิด จนวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา รถน้ำมันเหลือน้อยใกล้หมด จึงให้แม่กลับไปก่อน ส่วนตัวเองเดินหางานไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครรับ เพราะเป็นเด็ก พอไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวหลังเรือนจำก็ไปของานทำ เจ้าของร้านผู้หญิงใจดีมาก บอกว่าพรุ่งนี้รับแม่ไว้ทำงานเลยนะ และยังใจดีให้กระเพาะปลามาอีก 4 ถุงด้วย จากนั้นจึงเดินกลับ แต่เจ้าของร้านก็ให้แกร็บมาส่งถึงบ้าน
"ดีใจที่เจ้าของร้านรับแม่ไว้ทำงาน ขอบพระคุณมากครับ ส่วนผมทำงานทั่วไปได้ ล้างรถ ล้างจาน ทำความสะอาดบ้านได้ ถ้ามีโอกาสเรียนก็อยากเรียน แต่คงเรียนได้เพียงชั้น ม.3 เพราะอยากออกมาหางานทำช่วยเหลือครอบครัว"
ส่วนนางแสงจันทร์ วัจจรินทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 3 บ้านเซ ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี แม่ของน้องฮอนด้า เปิดเผยว่า ครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน มีพ่อแม่ น้องฮอนด้า และน้องวัย 9 ขวบ แต่ก่อนนี้ก็ทำงานรับจ้างรายวัน สามีทำงานเป็นช่างปูนรับจ้างทั่วไปตามหมู่บ้านจัดสรร จนเจอโควิดก็ไม่ได้ทำต่อ ตกงาน รวมถึงตนที่ทำงานฝ่ายผลิตกำแพง ก็ต้องออกเพราะโควิด มาทำงานอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวถนนรอบเมือง ร้านเจอโควิดก็ปิดอีก ทำให้ไม่มีงานทำ พากันออกหางาน แต่ไม่มีใครจ้าง
"เมื่อวานนี้ไปกับลูกชาย หางานทำ ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถ น้องฮอนด้าเลยบอกให้แม่กลับไปก่อน เพราะน้ำมันเหลือน้อย จากนั้นเขาก็เดินหางานทำต่อ ตอนค่ำเห็นลูกชายกลับมาบ้านพร้อมอาหาร 4 ถุง และบอกแม่ว่าเจ้าของร้านใจดีรับแม่ทำงานแล้ว"
ขณะที่ นางชูศรี แซ่ฉั่ว 58 ปี เจ้าของร้านตี๋ไฮ้ก๋วยเตี๋ยวและกระเพาะปลา เล่าว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 2 พ.ค. ขณะที่ลูกสะใภ้กำลังจะปิดร้าน ได้มีเด็กชายเดินมาของานทำ แต่เป็นเด็ก ลูกสะใภ้เลยไม่ได้รับ แต่ได้สอบถามเรื่องราว ซึ่งเด็กได้ของานให้แม่ทำด้วย ลูกสะใภ้เลยถามตนกับสามี เห็นแล้วสงสารขึ้นมาทันที เพราะเดินมาไกลเกือบ 10 กิโลเมตร อายุน้อย ยังรู้จักคิดหางานทำ ซึ่งปกติก็เป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้พิษโควิดยอมรับว่าหนักมาก ทุกคนได้รับผลกระทบ ที่ร้านก็เจอเหมือนกัน แต่ก่อนลูกค้าเต็ม แต่ก็ยังพอที่ช่วยเหลือกันได้ แม้ร้านคนจะไม่เยอะเหมือนเดิม ก็ช่วยเหลือกัน คือตอนนี้รับแม่ของน้องเขาไว้ทำงาน ให้วันละ 300 บาท ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันไป.
หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ตระเวนของานทำ ช่วยพ่อแม่ ผ่านพ้นวิกฤติโควิด - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment