ที่น่าเป็นห่วง คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน เป็นม็อบต่อรองของคนต้องคดีต่างๆ ใช้ม็อบเป็นอาวุธ ในขณะที่ร้อยละ 93.2 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ม็อบตู่ ม็อบเต้น เกี่ยวโยงกับคนแดนไกล ร้อยละ 91.9 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ต้องการให้เกิดการสูญเสีย เหมือนใน พม่า และร้อยละ 91.6 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ม็อบตู่ ม็อบเต้น มีขบวนการเบื้องหลังจะล้มล้างสถาบันหลักของชาติอยู่
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.5 เห็นด้วยให้ สภาฯ ใช้กลไกจัดการ ส.ส.หนุนม็อบ ทำความเสียหายเกิดขึ้นในบ้านเมืองกระทบความรู้สึกศรัทธา จงรักภักดีของประชาชน สั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ร้อยละ 5.5 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.1 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ทำลายโอกาสของประเทศและทำลายความหวังของประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วงเปิดประเทศเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ร้อยละ 4.9 ระบุไม่ทำลาย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 กังวลต่อม็อบ สร้างเงื่อนไขความรุนแรงบานปลายและการสูญเสีย ในขณะที่ร้อยละ 3.7 ไม่กังวล
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ประชาชนกำลังซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง มันก็แย่ขาลงอยู่แล้ว ม็อบ 4 เมษายน กำลังจะทำให้ขาขึ้นซวยไปอีก เราต้องคิดถึงภาพใหญ่ว่า แกนนำม็อบต้องช่วยทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ใช่มาเลือกทำจังหวะที่เศรษฐกิจกำลังขาขึ้น กำลังจะเปิดประเทศรับธุรกิจท่องเที่ยวและอื่นๆ ให้ซวยไปอีก
“การเคลื่อนไหวม็อบของณัฐวุฒิ และจตุพร ที่เคยทำในอดีตเคยทำให้ประเทศชาติดีขึ้นหรือไม่ ขอให้ทุกคนมองไปที่ผลลัพธ์ที่ประเทศชาติและประชาชนได้รับในอดีตที่ทั้งสองท่านนี้เคยทำ หรือทั้งสองท่านนี้จะเอาบทเรียนในอดีตมาทำให้เลวร้ายกว่าอดีตที่เคยทำ หรือว่าทั้งสองท่าน จะรอเวลาให้ประชาชนทั้งประเทศพ้นทุกข์ช่วงนี้ไป เวลานี้จึงเป็นเวลาที่ต้องให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า มีข้อเสนอแนะต่อคน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกคือ รัฐบาล ที่ต้องเร่งเอาผลงานจับต้องได้เห็นกันชัดๆ ในทุกมิติเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ออกมาเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจและความเชื่อมั่นของประชาชน
กลุ่มที่สอง คือ หน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องม็อบ ตำรวจและฝ่ายปกครอง ต้องเข้าถึงข้อมูลม็อบกลุ่มย่อยๆ ในกลุ่มใหญ่เพราะม็อบมาจากหลากหลายกลุ่มหลากหลายความต้องการและรีบหยอดปัจจัยให้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่มย่อยจะส่งผลให้พลังของม็อบลดลง และท่องคาถาไว้ว่าไม่ใช้ความรุนแรงแต่จะกวาดให้เรียบตามกฎหมายทุกมาตรากับแกนนำม็อบ และบอกชาวบ้านว่า บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ถ้าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มม็อบ 4 เมษายน จะประสบความสำเร็จ ระดมคนออกมาถ้าออกมาแสดงปัญญา (Wisdom) ให้เห็นว่า มีกึ๋นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ มากกว่าท่องคาถาแค่ว่า "ประยุทธ์ออกไป" เพราะถ้าทำได้แค่นี้เด็กๆ ก็ทำกัน หรือจะพาประชาชนทั้งประเทศหลงทางไปสู่ความวุ่นวายรุนแรงบานปลายเหมือนพม่า คำถามคือ กว่า 10 ปีผ่านมา ม็อบตู่ ม็อบเต้น จะทำได้เหมือนเดิมแค่นั้นหรือ ปัญญาที่แกนนำได้มาต้องเป็นปัญญา ที่ไม่ซ้ำเติมวิกฤติชาติและไม่ซ้ำเติมความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน
โพล ชี้ คนส่วนใหญ่ เห็น "ม็อบ 4 เมษา" ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว-ต่อรองคดี - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment