ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 มี.ค. พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.สุมิตตา ผู้ตายเป็นเซลส์ขายยาและอุปกรณ์การแพทย์ ขับรถฮอนด้าซีอาร์วีมาที่ปั๊มน้ำมันเพื่อใช้ไวไฟทำงาน ส่วน ส.ต.อ.อภิชาติ แฟนหนุ่มขับรถกระบะตามมาพูดคุยตกลงปัญหากันบริเวณหน้าร้านไชยาคอฟฟีช็อปเป็นเวลานานกว่า 1 ชม. ผู้ตายวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือที่หลังเคาน์เตอร์พนักงานร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่อยู่ใกล้กัน ก่อนที่ ส.ต.อ.อภิชาติ จะวิ่งตามเข้าไปก่อเหตุ ตำรวจตรวจค้นรถกระบะของ ส.ต.อ.อภิชาติ ผู้ก่อเหตุ พบขวดเบียร์ 3 ขวด และกระป๋องเบียร์อีก 3 กระป๋องดื่มหมดแล้ว คาดว่าคงดื่มเบียร์ย้อมใจระหว่างทางก่อนจะมาลงมือโหด
ผกก.สภ.ไชยา เผยต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี สั่งกำชับให้ทำคดีอย่างตรงไป ตรงมา ได้ประสานตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ส่งกำลังไปเฝ้าตัว ส.ต.อ.อภิชาติที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ รพ.สุราษฎร์ธานี หากแพทย์อนุญาตให้กลับได้จะนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ไชยา เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 5 ต.ทุ่ง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ญาติจัดเตรียมพิธีศพ น.ส.สุมิตตา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางอำภา ชัยบุญเมือง อายุ 60 ปี มารดาผู้ตายเผยว่า ลูกสาวรู้จักกับผู้ก่อเหตุเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา พอเริ่มคบเป็นแฟนเห็นนิสัยและความประพฤติไม่ดี จึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ผู้ก่อเหตุยังตามง้อตลอดเวลา มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะฝ่ายชายเป็นคนขี้หึงอย่างรุนแรง ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ส.ต.อ.อภิชาติมาหาที่บ้านร้องห่มร้องไห้บอกว่าผู้ตายขอเลิก ตนได้แต่ปลอบใจไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เคยเตือนลูกสาวให้ระวังแฟนหนุ่มจะยิงเอา แต่ลูกสาวบอกว่าคงไม่กล้า เพราะแฟนหนุ่มนิสัยขี้ใจน้อย รู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้ตายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเป็นคนส่งเสียทางบ้านทั้งหมด ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.อิศราพงศ์ จินา ผกก.สภ.สิเกา ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.อภิชาติ ผู้ก่อเหตุเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีอาญา หลังจากนี้ต้องสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัย วันเกิดเหตุ ส.ต.อ.อภิชาติเข้าเวรปฏิบัติงานตามปกติ หลังจากกินข้าวเที่ยงก็หายตัวไปเลย กระทั่งไปก่อเหตุที่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเป็นคนขยันทำงาน ช่วงว่างหลังออกเวรจะทำสวน ซื้อปลาไปขายที่บ้าน คดีที่เกิดขึ้นคือฆ่าผู้อื่นต้องได้รับโทษอยู่แล้ว แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงตามลำดับชั้นต่อไป
ส่วนความคืบหน้าคดี ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ อายุ 33 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้หมอนกดศีรษะ น.ส.ธัญญ์นิศา หรือฝน วิชนันท์คุณนิธิ อายุ 40 ปี ภรรยา เจ้าของร้านคาราโอเกะ จนเสียชีวิตในบ้านพักตำรวจหลัง บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วนำศพไปเผาทำลายหลักฐาน ร.ต.อ.เสนีย์ พาชอบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังตำรวจควบคุมตัว ส.ต.อ.ปิยะไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคัดค้านการขอประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและ เป็นที่สนใจของประชาชน ศาลอนุญาตคำร้องขอของตำรวจ ส่งไปควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขณะที่นางภาวณีย์ สุภศรี แม่ผู้ตายพร้อมญาตินิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เดินทางไปที่บ้านพักตำรวจ ห้องเลขที่ 83/24 ถนนเดชาวุธ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา ทำพิธีเรียกวิญญาณผู้ตายไปที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม 3 คืน ส่วนกำหนดฌาปนกิจทางครอบครัวขอปรึกษากันก่อน
ไม่ให้ประกัน ส.ต.อ.เผาเมีย ญาติทำพิธีเรียกวิญญาณ - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment