แอปพลิเคชัน Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ เปิดฟีเจอร์ใหม่ Lock & Unlock ล็อกไม่ให้ถอน โอน เติม จ่าย ผ่านแอปฯ ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยทำธุรกรรมแทน ปลดล็อกผ่านสแกนใบหน้า แต่ยังคงรับเงินโอนได้ ฝากเงินเข้าบัญชี เช็กยอด รวมทั้งยังคงให้ถอนเงินผ่านบัตรเดบิตและสาขาธนาคาร
วันนี้ (3 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า แอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Lock & Unlock ที่ผู้ใช้งานสามารถล็อกบัญชีไม่ให้โอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล ออกจากบัญชี เพื่อความปลอดภัย ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยทำธุรกรรมแทน โดยลูกค้าสามารถเลือกบัญชีได้ด้วยตัวเอง (Self-Control) ผ่านมือถือ
สำหรับบัญชีที่สามารถใช้บริการนี้ได้ ได้แก่ บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ และกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD)
โดยเมื่อทำการล็อกบัญชีแล้วจะไม่สามารถทำธุรกรรมขาออกผ่านแอปฯ เช่น การโอนเงินภายในและระหว่างประเทศ การเติมเงิน การจ่ายบิล การสแกนเพื่อจ่าย ไม่สามารถตั้งรายการทำธุรกรรมล่วงหน้า และไม่สามารถถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ และการถอนเงินผ่านตัวแทนธนาคารกรุงเทพ
ส่วนธุรกรรมหลักที่ยังสามารถทำได้เมื่อล็อกบัญชีแล้ว ได้แก่ ธุรกรรมขาเข้า เช่น การรับเงินเข้าบัญชี การรับเงินด้วยคิวอาร์โค้ด การฝากเงินเข้าบัญชีที่ตู้อัตโนมัติหรือสาขา การเช็กประวัติการทำรายการ เช็กรายละเอียดบัญชี ขอรายการเดินบัญชี และการถอนเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านตู้เอทีเอ็ม ถอนเงินที่สาขา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการปลดล็อกบัญชี ต้องยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า หากลูกค้ายังไม่อัปเดตข้อมูลบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (Passport) และถ่ายภาพใบหน้าที่สาขา จะไม่สามารถปลดล็อกได้ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบว่ายืนยันตัวตนครบถ้วนแล้วหรือไม่ ได้จากเมนูการตั้งค่า (สัญลักษณ์รูปเฟือง) เลือก การยืนยันตัวตน
วิธีการปลดล็อกบัญชี ให้เลือกปิดใช้งาน "ล็อกการ โอน / เติม / จ่าย ผ่านแอป" กดปุ่ม "ปลดล็อกการ โอน / เติม / จ่าย" แล้วสแกนใบหน้า หากถูกต้องระบบจะทำการปลดล็อกบัญชีให้สามารถถอนเงิน โอนเงิน เติมเงิน และจ่ายบิลผ่านแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking ได้
ธนาคารกรุงเทพเปิดฟีเจอร์ "บัญชีล็อกได้" ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยทำธุรกรรมแทน - ผู้จัดการออนไลน์
Read More
No comments:
Post a Comment