ไบเดน เผย เกิดความก้าวหน้าอย่างแท้จริงในการพูดคุยของเขากับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน โดยสองฝ่ายตกลงกันเรื่องฟื้นการสื่อสารระหว่างกองทัพ และเรื่องยาเฟนทานิล ซึ่งมีส่วนผสมจากฝิ่น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และสี จิ้นผิง ผู้นำของประเทศจีน ตกลงร่วมกันในวันพุธที่ 15 พ.ย. 2566 (ตามเวลาสหรัฐฯ) ว่าจะฟื้นฟูการสื่อสารระหว่างกองทัพ และร่วมมือกันในนโยบายต่อต้านยาเสพติด หลังจากทั้งสองพบหน้าคุยกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
ไบเดน กับ สี จิ้นผิง หารือกันเป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ที่นครซานฟรานซิสโก ในประเด็นที่สร้างรอยร้าวให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยพวกเขาวางแผนจะกลับมาสื่อสารระหว่างกองทัพอีกครั้ง หลังจากประกาศตัดขาดเพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันของ นางแนนซี เพโรซี เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ซึ่งตอนนั้นเธอยังเป็นประธานสภาสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ กับจีนจะกลับมาสื่อสารกันโดยตรงอีกครั้ง และเขากับ สี จิ้นผิง ยังตกลงเรื่องการสื่อสารในระดับสูงด้วย “ผมกับเขาตกลงว่า พวกเราแต่ละคนสามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หากันได้โดยตรง และเราจะรับทันที”
อย่างไรก็ตาม ไบเดน ยังไม่วายแสดงความเห็นที่น่าจะสร้างความไม่พอใจแก่จีนอีกครั้ง เมื่อเขาบอกกับนักข่าวว่า ยังไม่เปลี่ยนความคิดที่ว่า สี จิ้นผิง เป็นเผด็จการ “คือฟังนะ เขาเป็น (เผด็จการ) ผมหมายถึง เขาเป็นเผด็จการในแง่ของการที่เขาเป็นผู้นำประเทศที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์”
ด้าน สี จิ้นผิง บอกกับไบเดนว่า มุมมองแง่ลบที่สหรัฐฯ มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์นั้นไม่ยุติธรรม
ทั้งนี้ นอกจากด้านการทหาร ไบเดน กับ สี จิ้นผิง ยังตกลงกันว่า จะสกัดการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาที่มีส่วนผสมของฝิ่นอย่าง เฟนทานิล (fentanyl) ซึ่งกลายมาเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตเนื่องจากเสพยาเกินขนาดในสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผู้นำทั้งสองยังตกลงกันว่าจะให้ผู้เชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายมาหารือร่วมกันเรื่องความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ส่วนการพูดคุยเรื่องไต้หวัน สี จิ้นผิง แสดงจุดยืนว่าพวกเขาต้องการให้เกิดการรวมดินแดนอย่างสันติ รวมถึงพูดเรื่องเงื่อนไขต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดการใช้กำลังทางทหาร ขณะที่ไบเดนต้องการคงสถานภาพปัจจุบันนี้เอาไว้ และต้องการให้จีนเคารพกระบวนการเลือกตั้งของไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีจีนตอบกลับผู้นำสหรัฐฯ ว่า “สันติภาพเป็นเรื่องดี แต่ ณ จุดหนึ่งเราจำเป็นต้องก้าวไปสู่ทางออกมากขึ้น” นายสี ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดส่งอาวุธให้ไต้หวัน และสนับสนุนการกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับไต้หวันอย่างสันติของจีนด้วย
นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ เผยอีกว่า เขาได้ขอให้ นายสี ใช้อิทธิพลของตนกับอิหร่าน เพื่อเรียกร้องไม่ให้อิหร่านใช้ตัวแทนโจมตีสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาที่ยังคงดำเนินอยู่จนถึงทุกวันนี้.
ที่มา : cna
ไบเดนเผย คุย สี จิ้นผิง คืบหน้า ทำข้อตกลงทางทหาร-คุมยาเฟนทานิล - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment