รัฐบาลและรัฐสภาชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระลงตามขณะที่การจัดทำงบประมาณของปี 2567 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศก็มีไทม์ไลน์ทับซ้อนกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสำนักงบประมาณได้นำเอาตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนแม่บทการจัดสรรงบประมาณ 1,026 โครงการ มาใช้ในกรอบยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณปี 2567 รวมทั้งแนวทางตามแผน และโครงการสำคัญที่กำหนดมาตามแผนที่รัฐบาลให้มา เพื่อให้งบประมาณปี 2567 ได้ตอบโจทย์การพัฒนาของประเทศ
แนวโน้มของการจัดสรรงบประมาณปี 2567 เป็นการจัดทำงบประมาณในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งประเทศก็มีภาระความต้องการใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสำนักงบฯต้องหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่าจะสามารถจัดสรรงบประมาณให้เพิ่มได้หรือไม่ ในจำนวนเท่าไหร่ เพราะว่ารัฐบาลยังมีภาระในการชำระหนี้ที่มีอยู่หากสามารถจัดสรรงบประมาณได้มากขึ้นก็จะไปใช้หนี้ภาครัฐได้มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเลือกตั้งในปี 2566 นั้นในเบื้องต้นยังวางอยู่ในกรอบระยะเวลาปกติ คือ ทำไปตามขั้นตอนของปฎิทินงบประมาณ ซึ่งได้ที่ผ่านครม.แล้ว หากจะมีการปรับเปลี่ยนตามไทม์ไลน์ทางการเมืองก็สามารถมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะปรับเลื่อนอย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน
หากรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงานสามารถปรับเปลี่ยนการใช้เงินได้หรือไม่นั้น ขณะนี้สามารถที่จะดำเนินการได้ แต่สิ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรก็คือเรื่องของรายจ่ายประจำ เรื่องของสิทธิตามกฎหมาย ภาระผูกพันของรัฐบาล โดยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในเดือน พ.ค.ปี2566 แต่ว่าคำของบประมาณของหน่วยงานต่างๆก็จะมีการเสนอมายังที่สำนักงบประมาณประมาณวันที่ 27 ม.ค.2566 เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลใหม่ปรับได้แผนใช้เงิน
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าการเบิกจ่ายงบประมาณถือว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลต้องมีการจัดทำและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในแต่ละปี โดยในส่วนของการจัดทำงบประมาณในปี 2567 ซึ่งจะจัดทำในช่วงปี 2566 ที่เป็นปีที่มีการเลือกตั้ง ขณะนี้ยังคงยึดตามปฏิทินนโยบายปกติที่คำของบประมาณของหน่วยงานราชการต่างๆจะต้องพร้อมที่จะเสนอให้ครม. พิจารณาในช่วงเดือน มี.ค.2566
“โดยการจัดทำงบประมาณตามปฏิทินงบประมาณในปีที่จะมีการเลือกตั้งก็อาจจะมีการขยับเร็วขึ้นบ้างเพื่อให้กรอบงบประมาณ และโครงการในการทำงบประมาณนั้นมีความเรียบร้อย แต่หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะขอทบทวนปรับเปลี่ยนในส่วนโครงการต่างๆบางโครงการก็ยังมีเวลาที่จะทำได้ตามขั้นตอนระเบียบวิธีการทางงบประมาณที่สามารถทำได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกฎหมายการจัดทำงบประมาณระบุว่าเมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุด ตามนัยมาตรา 99 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 อันเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามนัยมาตรา 167(2) สำนักงบประมาณจะจัดทำข้อเสนอปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับกำหนดการจัดทำงบประมาณ 2567 ฉบับปัจจุบันที่สำคัญ เช่น 28 ธ.ค.2565 – 6 ม.ค.2566 กระทรวงการคลัง สศช. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และ สำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณาประมาณการรายได้ กำหนดกรอบวงเงินงบประมาณ รายจ่ายและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และนำเสนอ ครม.ในวันที่ 10 ม.ค. 2566
ม.ค.สิ้นสุดหน่วยรัฐขอรับงบฯ
ส่วนวันที่ 27 ม.ค.สิ้นสุดระยะเวลาที่ให้หน่วยงานรับงบประมาณ จัดทำรายละเอียดคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่แสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สอดคล้อง กับแผนปฏิบัติราชการของหน่วยรับงบประมาณ เป้าหมายและยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และนโยบายงบประมาณ วงเงิน โครงสร้างงบประมาณ โดยบูรณาการงบประมาณในมิติหน่วยรับงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ แผนพัฒนาพื้นที่ ความต้องการของประชาชน
รวมทั้งนำข้อเสนองบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณเพื่อใช้ประกอบการจัดทำรายละเอียดคำของบประมาณเสนอครม. นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ ความเห็นชอบและส่งสำนักงบประมาณผ่านระบบ e- budgeting
จากนั้น 30 ม.ค. – 7 มี.ค.2566 สำนักงบประมาณ พิจารณารายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และนำเสนอ ครม. 14 มี.ค.2566 ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พร้อมแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ และส่งให้หน่วยงานปรับปรุงการจัดทำงบประมาณ
16 พ.ค.2566 ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และให้สำนักงบประมาณ จัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และเอกสารประกอบงบประมาณ
31 พ.ค. - 1 มิ.ย. 2566 สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณวาระที่ 1
16 – 17 ส.ค.2566 สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณวาระที่ 2 -3
28 – 29 ส.ค.2566 วุฒิสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ จากนั้นในวันที่ 5 ก.ย.2566 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
เช็กไทม์ไล์จัดทำ 'งบฯปี 67' หน่วยงานรัฐยันไม่สะดุดแม้ปีหน้ามีเลือกตั้ง - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment