Rechercher dans ce blog

Saturday, November 19, 2022

ทำธุรกิจ “อย่าจิตตก” จนธุรกิจตกต่ำ เพราะติดตามแต่ “ข่าวร้าย เรื่องลบ”! - กรุงเทพธุรกิจ

ธรรมชาติและหน้าที่ของสื่อทุกรูปแบบ ต้องนำเสนอข่าว และข่าวที่ได้รับความสนใจ ตื่นเต้น ก็ต้องเป็นข่าวร้ายและข่าวลบ เพราะถูกจริตคนเสพ นั่นเป็นหน้าที่ของสื่อ ที่ต้องนำเสนอจะไปโทษสื่อไม่ได้

Part.1.ธรรมชาติของมนุษย์...

ชอบข่าวดี แต่ถ้าได้เสพข่าวร้ายจะชอบมากยิ่งกว่า!

ส่วนธรรมชาติและหน้าที่ของสื่อทุกรูปแบบ ต้องนำเสนอข่าว และข่าวที่ได้รับความสนใจ ตื่นเต้น ก็ต้องเป็นข่าวร้ายและข่าวลบ เพราะถูกจริตคนเสพ นั่นเป็นหน้าที่ของสื่อ ที่ต้องนำเสนอจะไปโทษสื่อไม่ได้ครับ

(ยังจำวิกฤติไวรัส โควิตได้ใช่มั๊ยครับ... ที่ตอนนี้เริ่มซาลง เพราะกลายพันธ์จนกลายเป็นโรคประจำถิ่นมาหลายเดือนแล้วแต่ก็ยังมีบางสื่อหรือบางคนยังพยายามขุด พยายามขายเรื่องนี้อยู่ ใจคอจะขออยู่กับโควิต ตลอดชีวิตไปจนถึงภพชาติหน้าเลยหรือไงก็ไม่เข้าใจจริงๆ!!)

Part.2.วิกฤติของโลกมีตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเข้าใจกลไกของการเปลี่ยนแปลง

วิกฤติจากภัยพิบัติที่ธรรมชาติถูกมนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติด้วยความละโมบ ทั้งขุด เจาะ เผา จนธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงขึ้นทุกปี... มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของธรรมชาติที่ต้องเปลี่ยนไป

วิกฤติจากสงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยาวยืดเยื้อส่งผลกระทบกับยุโรปอย่างหนักและปัญหาเรื่องพลังงาน

ที่มีราคาสูง ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของความขัดแย้งระหว่างประเทศ

วิกฤติอื่นๆเช่นโรคภัยใหม่ๆ หรือวิกฤติอีกหลายอย่างที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งความขัดแย้งทางการเมือง

ของไทยที่ฝังรากลึกแบ่งฝ่ายมานานกว่ายี่สิบปี ก็เป็นเรื่องธรรมดาของการแย่งชิงอำนาจ

ถ้าเข้าใจความเป็นไปของ “โลกและ ความโลภของมนุษย์” มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว

กับวิกฤติต่างๆที่ทยอยมาให้เห็นเป็นระยะ

Part.3.นักธุรกิจจิตตก !

แต่ก็มีนักธุรกิจและคนจำนวนไม่น้อย ที่ติดตามข่าววิกฤติทุกอย่างทั่วโลกและในประเทศ แบบติดตามข่าวไปจิตตกไป คำถามคือ ติดตามและจิตตกเพื่อ....!?

ไม่ใช่แนะนำให้ไม่รับรู้ข่าวสารความเป็นไป หรือตั้งตนบนความประมาท แต่ถ้าจะติดตามรับรู้ข่าวสาร

ก็เพื่อแค่ร้บรู้อย่างมีสติ แต่ไม่ใช่ให้รับรู้ไปจิตตกไป จนไม่กล้าคิดไม่กล้าทำอะไรแบบยอมรับชะตากรรม!

Part.4.การคาดการณ์ของ "ผู้รู้" ที่เชี่ยวชาญในการมองเห็นแต่เรื่องร้ายๆ !

ในช่วงเกิดวิกฤติไวรัสโควิตจากจุดเริ่มต้นปลายปี 2019 จนโควิตระบาดหนักๆไปทั่วโลกในปี2020

จนทำให้หลายธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กทยอยล้มหายตายจาก ไปพร้อมๆกับการเสียชีวิตของคนที่ป่วยด้วยโรคนี้ทั่วโลก

เป็นธรรมดาที่ผู้คนทั่วโลกจะตระหนกและแตกตื่น หลายธุรกิจหยุดชะงัก วิถีผู้คนหยุดชะงัก กักตัวเอง

อยู่ในบ้าน เพราะเป็นโรคใหม่ที่แพร่ระบาดเร็วและแรง

ในช่วงนั้น มีบรรดา“ผู้รู้”ที่เป็นGuruทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ต่างออกมาคาดการณ์ให้ข่าว

ว่าเศรษฐกิจจะพังระเนระนาดไปยาวนานหลายปี โลกจะเปลี่ยนเป็นNew Normalธุรกิจการบิน

และการท่องเที่ยวจะฟุบไม่ฟื้นไปอีกนานหลายปี (ทุกวันนี้ยังมีใครพูดถึงNew Normalอีกมั๊ย!?)

เมื่อบรรดา ในภาคสายการบินและการท่องเที่ยว ได้ฟังในตอนนั้น ก็ยุบก็เลิกจ้างเพราะแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว อันนี้เป็นเรื่องน่าเห็นใจเพราะไม่มีรายได้มีแต่รายจ่าย

แต่ที่น่าสนใจคือหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทั่วโลกเต็มสนามบินของหลายๆประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย ทั้งเที่ยวบิน บินกันเข้ามาให้ว่อน สนามบินนักท่องเที่ยวเข้ามาจนแน่น และขาดแคลนแรงงานภาคบริการจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน

Part.5.เมื่อคนที่ทำธุรกิจ ติดกับดักน้ำลายของ ผู้เชี่ยวชาญในการคาดการณ์แต่เรื่องร้ายๆ!

แต่ยังมีหลายธุรกิจ ที่ยังพอประคับประคองไปได้ แต่เจ้าของธุรกิจจิตตก เพราะไปเชื่อบรรดา ผู้รู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการ คาดการณ์เรื่องร้ายๆ (ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นจริง) แต่เนื่องจากบรรดาผู้รู้เหล่านี้ ทั้งชีวิตก็ใช้ทักษะนี้ในการทำมาหากินมาโดยตลอด สิ่งที่ออกจากสมองและปาก มีแต่เรื่องร้าย ... มีแต่ข่าวร้าย

ลองย้อนกับดูการวิเคราะห์ ของบรรดาผู้ที่ทำมาหากินกับการคาดการณ์วิเคราะห์ข่าวร้ายดูสิครับ

มีกี่เรื่องที่เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ถูกต้อง แม้แต่ใกล้เคียงก็แทบไม่มี!

ที่แปลกก็คือ ยังมีนักธุรกิจและเจ้าของกิจการรวมไปถึงผู้บริหาาจำนวนไม่น้อย ยังคงเชื่อยังคงฟังยังคงติดตามบรรดา ผู้เชี่ยวชาญในการคาดการณ์มองเห็นแต่ข่าวร้าย ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง (แต่ยังทำมาหากินมีรายได้จากการ คาดการณ์ข่าวร้ายมาตลอดชีวิต!)

Part.6.แล้วจะเชื่อใครดี?

ไม่ได้แนะนำให้โลกสวยมองเห็นแต่ด้านดีตลอดเวลา แต่ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะติดตามแต่ข่าวร้ายโดยไม่คิดไม่วิเคราะห์ ควรติดตามข่าวสารความเป็นไปในทุกเรื่องของโลกและในประเทศ“อย่างมีสติ”

ฟัง ดู อ่าน แล้วคิดวิเคราะห์ ทำความเข้าใจกับอดีต ปัจจุบัน ของเรื่องแบบนี้ ก็พอจะคาดการณ์แบบมีสติได้ด้วยตนเองแล้วถึงสิ่งที่กำลังเป็นไปและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนที่ถนัดแต่คาดการณ์วิเคระห์ประโคมข่าวร้ายออกทางสื่อทุกช่องทาง ว่านั่นเป็น“ทางและช่องทาง”ในการทำมาหากินของคนพวกนี้เท่านั้น

ถ้าติดตามข่าวอย่างมีสติ ก็เชื่อในสติของตนเอง ดีกว่าไร้สติไปเชื่อผู้รู้ (ไม่จริง) ที่หากินกับการคาดการณ์ข่าวร้ายเลี้ยงชีพ!

Part.7.ขออนุญาตแนะนำว่า.....

ถ้าท่านเป็นนักบริหาร เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ และจิตตกง่ายเพราะข่าวร้ายๆที่ได้รับรู้ ทั้งข่าวร้ายที่อาจเกิดขึ้นจริงในบางเรื่อง (เช่นภัยภิบัติ หรืออุบัติเหตุใหญ่ที่ส่งผลกับธุรกิจของท่าน)

และข่าวร้ายของผู้ที่ทำมาหากินในการคาดเดาข่าวร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ท่านคงจะทำธุรกิจบนโลกใบ

นี้ต่อไปด้วยความยากลำบาก เพราะจิตใจของท่านไม่แกร่งพอ ขาดสติในการคิดวิเคราะห์ อันนี้แนะนำให้ตั้งสติ แค่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ต้องตกใจหรือจิตตก ถ้ามีสติ ปัญญาจึงจะเกิดขึ้น ท่านก็จะมองเห็นเองถึงสิ่งที่ท่านควรคิดควรทำอะไรในสถานการณ์นั้นๆ

ลองเลิกฟังพวกผู้รู้ (ไม่จริง) พวกนี้สักพัก แล้วท่านจะมองเห็นโอกาสอีกเยอะ อย่างน้อยๆ สุขภาพจิตของท่านจะดีอย่างที่ท่านไม่เคยเป็นมาก่อน ปล่อยให้พวกผู้เชี่ยวชาญในการคาดการณ์ข่าวร้ายทำมาหากินไปวันๆ เพราะพวกนี้ถนัดทำมาหากินแบบนี้เท่านั้น

แล้ววันหนึ่ง คนที่ฉลาดและมีสติ จะทยอยเลิกฟังเลิกดูเลิกอ่านพวกนี้ไปเองครับ.

Adblock test (Why?)


ทำธุรกิจ “อย่าจิตตก” จนธุรกิจตกต่ำ เพราะติดตามแต่ “ข่าวร้าย เรื่องลบ”! - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

No comments:

Post a Comment

พระครู เชิญวิญญาณ เมียฝรั่ง เผยต้องทำพิธี 3รอบ ตร.เจอเรื่องแปลก - ข่าวสด - ข่าวสด

พระครู ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เมียฝรั่ง ถูกฆ่าทิ้งไร่ข้าวโพด เผยสิ่งผิดปกติ ต้องทำพิธีถึง 3 รอบ ด้าน พนักงานสอบสวน เล่าเรื่องแปลก ก่อนวันผู้ต้อ...