พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงทางวิดีโอต่อประชาชน เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอแนวทางเดินหน้าประเทศต่อ พร้อมประกาศ "กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต" เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้หมดไป
ในวิดีโอความยาวเกือบ 18 นาที นายกรัฐมนตรีชี้ว่าประเทศกำลังกลับเข้าสู่การใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติ แต่ภัยเศรษฐกิจจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญ ดังนั้นเขาจึงเสนอกลยุทธ์แก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไปผ่านกลยุทธ์ใหม่
การออกแถลงการณ์ครั้งล่าสุดของนายกรัฐมนตรีมีขึ้นท่ามกลางกระแสการเทียบเคียงการทำงานและการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนใหม่ ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลบางคนระบุว่ารัฐบาลทำงานมาโดยตลอด แต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประชาสัมพันธ์ไม่เก่ง
ในตอนหนึ่งของวิดีโอนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ประชาชนอดทนกับการทำงานของเขา
"ผมขอบคุณทุกท่าน ที่ใจเย็นกับผม ให้ผมได้เอาแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ ผลักดันมาสู่การปฏิบัติจริง ผมไม่ใช่คนที่แสดงออกหรือนำเสนออะไรได้เก่งนัก แต่ผมรู้ว่า ผมจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นจริงได้ บางครั้งผมอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูตลก แต่ขอให้ทุกท่านรู้ว่า ผมบริสุทธิ์ใจ และหัวใจของผมอยู่กับประชาชนทุกคน และอยู่กับประเทศไทยครับ"
แม้ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์จะเห็นว่าเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝั่งรัฐบาลประสบความสำเร็จคือต้องเปิดให้มีบทสนทนา ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร แต่ในวิดีโอล่าสุดที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมแสดงความคิดเห็น แต่สามารถกดไลก์ และแชร์ เพื่อกระจายเนื้อหาวิดีโอกลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต ของเขาได้ ซึ่งหลังจากเผยแพร่นาน 1 ชม.มีผู้แชร์ 155 ครั้ง
รายละเอียดกลยุทธ์ 3 แกน
แกนที่ 1 คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางรถไฟ รถไฟความเร็วสูง ถนน สนามบิน และท่าเรือ ที่เขาระบุว่ารัฐบาลในอดีตหลายรัฐบาลวางแผนโครงการ "สวยหรู" แต่ปล่อยขึ้นหิ้ง ไม่ถูกทำให้เกิดขึ้นจริง แต่เขามุ่งมั่นจะทำให้โครงการนับร้อยเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง
แกนที่ 2 คือแกนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์และอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยเน้นจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของโลก ผ่านการให้ความช่วยเหลือผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกในการขยายการลงทุนและธุรกิจในไทย ที่เขาอ้างว่ามีผู้สนใจแล้วหลายราย และแผนระยะต่อไปของเขาคือการทำให้คนไทยได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาถูกลง
แกนที่ 3 คือการพลิกโฉมภาคการธนาคารเพื่อให้ลูกค้ารายเล็กเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารได้มากขึ้น ประชาชนทุกกลุ่มมีโอกาสได้ใช้บริการของธนาคาร และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการทำงานของธนาคาร
นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าความร่วมมือของประชาชนตลอดสองปีที่ผ่านมา ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทำให้โลกได้เห็นว่าไทยเป็นประเทศที่จัดการกับโควิด
ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และหากประชาชนร่วมมือกันอีกครั้ง โครงการต่าง ๆ ตามกลยุทธ์ใหม่ที่เขาเสนอจะเริ่มเห็นผลในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกมาวิจารณ์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พ่อเมืองกรุงเทพฯ ว่า "ดีแต่พีอาร์เก่ง"
รวมทั้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่บอกผู้สื่อข่าว "ลุงตู่เก่งที่สุดในโลก" บนพื้นฐานของข้อมูลที่ไทย "มีการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี มีประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลก จากทั้งหมด 22 ประเทศ ที่ลงทุนที่ได้กำไร ผู้บริหารบริษัทของประเทศญี่ปุ่นให้เงินลงทุนมาอีก 3,000 ล้านบาท แบบนี้จะไม่เรียกว่าเก่งที่สุดในโลกหรือไม่"
ในเวลาต่อมา รศ. ประไพพิศ มุทิตาเจริญ อาจารย์ประจำสาขาสื่อสารองค์กร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ชี้แจงเรื่องนึ้ว่า พีอาร์เก่งไม่ได้เท่ากับงบประมาณมากหรือน้อยเป็นสำคัญ และไม่เท่ากับการสื่อสารข้อมูลและเรื่องราวที่ไม่จริง
"พีอาร์แปลตามตัวตรงๆ มันคืองานสร้างความสัมพันธ์กับสาธารณะ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากการทุ่มเงินทำแคมเปญและสื่อสารเรื่องของเรา ที่เราอาจคิดอยู่(ฝ่ายเดียว?)ว่ามีคุณค่า แต่คนอื่นไม่ได้รู้สึกถึงคุณค่านั้น จริงๆ แล้วความสัมพันธ์สาธารณะมันเกิดจาก trust และ trust ย่อมมาจาก good action หรือการทำงานที่ดี สาธารณชนจึงยินยอมพร้อมใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ด้วยนี่คือความสัมพันธ์ที่แท้จริงต่างหาก เราเชื่อว่างานพีอาร์คือการสร้างส่วนแบ่งทางจิตใจ ที่ต้องมีสองขาคู่กันเสมอ คือ action และ communication ถ้ามีขาเดียวคือแค่ communication แต่ action ไม่มี เค้าเรียกว่าพูดเก่งเฉยๆ"
นายกรัฐมนตรี ประกาศ “กลยุทธ์ 3 แกน” เชื่อทำประเทศเดินหน้าใน 2 ปี - บีบีซีไทย
Read More
No comments:
Post a Comment