“กฤษฎา” ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ซัดรัฐบาลทำสูญเสียศูนย์กลางขนส่งทางราง ถูกลาวแซงไปไกล แต่รถไฟความเร็วสูงของไทยยังไม่ไปไหน บอก ต้องขอบคุณสาวอุดรฯ ช่วยเตือนสติ “พล.อ.ประยุทธ์”
วันที่ 5 ธ.ค. 2564 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ระยะทาง 1,035 กิโลเมตร ระยะทางในลาว 414 กิโลเมตร ได้เปิดดำเนินการแล้ว หลังจากที่เริ่มก่อสร้างในปี 2559 สร้างความอิจฉาและเสียดายให้กับคนไทยส่วนใหญ่ที่อยากเห็นประเทศไทยมีระบบรถไฟความเร็วสูง ทั้งที่ประเทศลาวก็ยังมีถนนลูกรังจำนวนมากและยังเหลือถนนลูกรังมากกว่าประเทศไทยเสียอีก
นอกจากนี้ ประเทศลาวและประเทศจีนใช้เวลาประมาณ 5 ปีในการก่อสร้าง ขณะที่ประเทศไทยสร้างแค่ 3.5 กิโลเมตร แต่ใช้เวลากว่า 2 ปีครึ่งกว่าจะเสร็จ สะท้อนความล้มเหลวในประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หากตัดสินใจทำทั้งสายและมีประสิทธิภาพเหมือนรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ก็คงใกล้เสร็จแล้วเช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดว่าหากเริ่มต้นทำในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหาร ป่านนี้อาจจะมีหลายเส้นทาง หรืออาจจะทำทะลุไปถึงประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งนอกจากที่ประเทศไทยจะเสียโอกาสแล้ว ไทยยังทำให้ประเทศมาเลเซียเสียโอกาสไปด้วย
จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าการเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิง จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง จากปกติจะใช้เวลา 2 วัน และราคาค่าโดยสารก็ไม่แพง โดยมีราคาค่าโดยสารในชั้นต่างๆ ดังนี้
นครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น (ปลายทางชายแดนประเทศจีน)
- ตู้โดยสารชั้น 1 คนละ 294 หยวน หรือ 529,000 กีบ หรือ 1,510 บาท
- ตู้โดยสารชั้น 2 คนละ 185 หยวน หรือ 333,000 กีบ หรือ 950 บาท
- ค่าโดยสารรถไฟความเร็วธรรมดา คนละ 132 หยวน หรือ 238,000 กีบ หรือ 680 บาท
ส่วนค่าโดยสารจากบ่อเต็นไปยังคุนหมิงยังไม่มีข้อมูล แต่หากพิจารณาในส่วนแรกจะเห็นได้ว่าราคาไม่แพงนัก
อย่างไรก็ตาม การที่รถไฟความเร็วสูงจากจีนมาถึงลาวนี้ แต่รถไฟความเร็วสูงของไทยยังไม่ไปไหน ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะการนำของประเทศไทยในอาเซียน เรื่องหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะคาดไม่ถึงคือความล่าช้าและด้อยประสิทธิภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียศูนย์กลางการขนส่งทางรางให้กับประเทศลาวไปแล้ว เพราะประเทศไทยยังตามหลังประเทศลาว อีกหลายปีกว่าไทยจะทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อลาวเสร็จ ในระหว่างช่วงเวลาหลายปีนี้ประเทศลาวจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางขนส่งทางรางทั้งด้านขนส่งคนและขนส่งสินค้าแซงหน้าประเทศไทยไปไกล และไทยเองก็ต้องไปพึ่งประเทศลาวในการเชื่อมต่อไปจีนกว่ารถไฟความเร็วสูงของไทยที่จะเชื่อมต่อจะเสร็จ ประเทศลาวก็จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางไปไกลแล้ว
นายกฤษฎา ระบุต่อไปว่า จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อไปเวียงจันทน์จากหนองคายเพื่อเชื่อมต่อไปจีน ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเสนอ เพื่อไม่ให้ไทยตกขบวนรถไฟความเร็วสูงนี้นานไปนัก และยังมีเวลาพัฒนาควบคู่ไปกับประเทศลาว ก่อนที่ประเทศลาวจะแซงหน้าทิ้งไทยไปไกลแบบกู่ไม่กลับ จะทำให้ไทยสูญเสียการนำในอาเซียนไปทีละเรื่อง หลังจากที่ประเทศเวียดนามส่งออกชนะไทยมาหลายปีแล้ว และการลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามก็แซงไทย อีกทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฮเทคก็ย้ายไปประเทศเวียดนามกันหมดแล้ว อินโดนีเซียก็มีการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปไกลกว่าไทยมาก การผลิตรถยนต์สมัยใหม่ ก็ย้ายไปประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น ซึ่งหากประเทศไทยยังมีผู้นำที่ยังตามโลกไม่ทัน ไทยจะล้าหลังและจะตามหลังประเทศอื่นๆในอาเซียนในทุกด้าน
“พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะต้องขอบคุณหญิงสาวชาวจังหวัดอุดรธานี ที่เดินทางไปเพื่อเตือนสติ พล.อ.ประยุทธ์ ตรงๆ ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่อุดรฯ ว่า “พัฒนาไม่ได้ก็เกษียณไปเถอะ” เชื่อว่าหากถามประชาชนทั้งประเทศส่วนใหญ่ก็จะคิดเหมือนหญิงสาวอุดรฯ ท่านนี้ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เสื่อมถอยอย่างมากแล้ว และยังไม่เห็นทิศทางเลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะพัฒนาประเทศต่อไปได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ประเทศไทยเสื่อมลงตลอด”
ซัดรัฐบาลทำสูญเสียศูนย์กลางขนส่งทางราง ชี้ รถไฟความเร็วสูงไทยยังไม่ไปไหน - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment