วันที่ 21 พ.ย.64 กรณีนายเกษม บุญศรี อายุ 63 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา ถูกนายไชยัน หรือฟาง ดวงแก้ว อายุ 30 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเป็นคนสนิทสนมกัน แอบมาขโมยบัตร ATM ไปกดเอาเงินสดจำนวน 200,000 บาท จากบัญชีของนายเกษม เมื่อลุงรู้ โอนเงินคืนลุง 50,000 บาท
ล่าสุดยังไม่สามารถติดต่อนายฟางได้ เพราะปิดโทรศัพท์มือถือไว้ คาดว่าน่าจะขับรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งซื้อใหม่ และสร้อยคอทองคำหนักอีก 1 บาทหนีไปบ้านแฟนสาวที่ จ.เชียงราย
เหตุดังกล่าวนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของเงิน ที่ขายที่นา 10 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาทเพื่อหวังเก็บเงินไว้รักษาตัวเอง และเพิ่งได้รับเงินมัดจำมาจำนวน 700,000 บาท แต่นายฟาง อาศัยความคุ้นเคยกัน และช่วยเหลือกันกับลุงมาโดยตลอด ขโมยกดเงินเอาไปดื้อๆ แล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่ของนายฟาง อีกด้วย เนื่องจากถูกนายเกษม ทวงถามหลายครั้งว่าลูกชายไปอยู่ไหน อยากให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายบุญทรง ดวงแก้ว อายุ 61 ปี พ่อของนายฟางบอกว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี แต่มาเริ่มเสียตอนที่เล่นโทรศัพท์ ตอนไปทำงานในห้าง เคยขโมยโทรศัพท์แล้วถูกจับจำคุกมาแล้ว 1 ครั้ง ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก ตอนนี้อึดอัดที่ถูกนายเกษตรมาทวงถาม ถึงขั้นคิดว่าถ้าลูกชายหายไปเลย อาจจะขายบ้านหลังที่อยู่ เอาไปใช้หนี้เขา แล้วไปหาอยู่ตามที่สาธารณะ
เช่นเดียวกับนางมาลี ดวงแก้ว อายุ 59 ปี แม่นายฟาง บอกว่า เคยสอนเสมอว่าไม่ให้ทำชั่ว แต่ทำไมกล้าทำกับคนที่เคยไปอยู่อาศัยกับเขา ตอนนี้พูดไม่ออก อยากให้ลูกเอาเงินมาคืนเขา เพราะพ่อแม่ทางบ้านบอบช้ำแล้วจากการกระทำของลูก
พ่อแม่หนุ่มฉก ATM ลุงพิการ ช้ำใจลูกไม่น่าทำ คิดขายบ้านใช้หนี้ลุง ไปนอนตามข้างทางแทน - Sanook
Read More
No comments:
Post a Comment