1. โปรตีนเกษตรผัดพริกขิง
ส่วนผสม โปรตีนเกษตรผัดพริกขิง
- โปรตีนเกษตรแห้งชนิดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
- น้ำพริกแกงเผ็ดเจ
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลปี๊บ
- ผงปรุงรสเจ
- ใบมะกรูดซอย
วิธีทำโปรตีนเกษตรผัดพริกขิง
1. ทอดโปรตีนเกษตรในน้ำมันร้อน (เอาลงทอดกระทะพอน้ำมันดังฟู่ คนให้ทั่ว จากนั้นนับ 1-3 ให้ตักขึ้นทันที จะทำให้กรอบและหอมมากขึ้น)
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ตามด้วยเครื่องแกง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรส และซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ
3. ผัดพอได้ที่แล้วนำโปรตีนเกษตรที่ทอดไว้มาคลุกเคล้า และคั่วต่อด้วยไฟอ่อน ๆ จนแห้งในแบบที่ชอบ โรยใบมะกรูดซอย ปิดไฟ ตักใส่จาน เสิร์ฟคู่กับผักสดตามชอบ
2. ผัดหมี่เจ
ส่วนผสม ผัดหมี่เหลืองเจ
- เห็ดหอมแห้ง (นำไปแช่น้ำให้พอง เก็บน้ำที่แช่ไว้ด้วยนะคะ เอาไว้ใส่ตอนผัดทีหลังค่ะ)
- เต้าหู้เหลืองแบบแข็ง
- ซีอิ๊วดำแบบเค็ม (ใส่เพื่อสีสันค่ะ)
- บะหมี่เหลืองเจ
- น้ำมันพืช
- ซอสเห็ดหอม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลทราย
- พริกป่น
- ถั่วลิสงป่น
- กะหล่ำปลี
- ยอดคะน้า
- ถั่วงอก
วิธีทำผัดหมี่เหลืองเจ
1. ตั้งกระทะเติมน้ำมัน ใช้ไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่เห็ดหอมและเต้าหู้ลงไปผัด เติมซีอิ๊วดำนิดหน่อย เพื่อสีสันของเต้าหู้ ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่บะหมี่เหลือง เติมน้ำแช่เห็ดหอมลงไป น้ำจะทำให้บะหมี่อ่อนตัวลง แถมได้ความหอมจากเห็ดอีก ปรุงรสตามชอบ
3. ใส่กะหล่ำปลีกับยอดคะน้าลงไป ใส่ถั่วงอกเป็นอย่างสุดท้าย ผัดแค่แป๊บเดียวแล้วปิดไฟ ถั่วงอกจะได้ไม่สูญเสียความกรอบ
3. พะโล้เจ
ส่วนผสม พะโล้เจ
- เต้าหู้ทอด 3 ก้อน
- เห็ดหอมแห้ง (แช่น้ำจนนุ่ม) หรือเห็ดหอมสด 5 ดอก
- หมี่กึง (หั่นแว่น) 1/2 ถ้วย
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสเห็ดหอม (เจ) 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย
วิธีทำพะโล้เจ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย พอร้อนใส่เห็ดหอมลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่หมี่กึงตามลงไปผัดจนสุก ตักใส่หม้อ เตรียมไว้
2. เติมน้ำแช่เห็ดหอมลงในหม้อ ใส่เต้าหู้ลงไป เปิดไฟกลางต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
4. ลาบเต้าหู้เจ
ส่วนผสม ลาบเต้าหู้เจ
- เต้าหู้ 1 ก้อน
- เห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย
- เห็ดหูหนูดำ 1 ถ้วย
- ซีอิ๊วขาวเจ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
- ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วย
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำลาบเต้าหู้เจ
1. นำเต้าหู้ลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วใช้ส้อมยีให้พอแหลก
2. หั่นเห็ดนางฟ้าและเห็ดหูหนูดำเป็นเส้น ๆ นำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม ตักใส่อ่างผสม เตรียมไว้ ใส่เต้าหู้ที่ยีไว้ลงไปผสมกับเห็ด
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเจ น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น เคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4. ใส่ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่ และข้าวคั่ว ลงไป เคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
5. กานาฉ่าย
ถ้าซื้อกานาฉ่ายมากินแล้วรสชาติไม่ถูกปาก ลองมาทำตามสูตรนี้กัน จับผักกาดดองมาซอยให้ละเอียด ใส่ลูกสมอและปรุงรสด้วยเกลือ เติมน้ำเปล่า ผัดจนแห้ง
ส่วนผสม กานาฉ่ายเจ
- ผักกาดดอง 500 กรัม
- ลูกสมอ 10 ลูก
- น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- เกลือป่นเล็กน้อย (ถ้าผักกาดดองเค็มอยู่แล้วไม่ต้องใส่เกลือ)
- น้ำเปล่า
วิธีทำกานาฉ่ายเจ
2. ใส่ผักกาดดองซอยลงในหม้อ ตามด้วยลูกสมอหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปพร้อมเม็ด น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และเกลือป่น (ระวังอย่าใส่เกลือมากเพราะผักกาดดองจะเค็มอยู่แล้ว) นำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อนผัดจนส่วนผสมแห้ง
3. เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วมส่วนผสมแล้วเคี่ยวต่อจนแห้งและส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ประมาณ 30-60 นาที
4. พอส่วนผสมแห้งดีแล้วตักใส่ภาชนะที่สะอาดและมีฝาปิด สามารถเก็บไว้ได้ถึง 1 เดือน
6. ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ
ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวหลอด
- ถั่วงอกเด็ดหาง
- หัวไชโป๊สับ
- ผงพะโล้ (สูตรนี้เพิ่มอบเชย และดอกโปยกั๊ก)
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แบบไม่ตัด
- เต้าหู้ขาวหั่นแท่ง
- โปรตีนเกษตร (ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่)
- เห็ดต่าง ๆ (เห็ดฟาง เห็ดหอมสด เห็ดออรินจิ และเห็ดชิเมจิ)
- น้ำเปล่า
- พริกไทยป่น
- น้ำตาลปี๊บ
- ซีอิ๊วดำหวาน
- ซีอิ๊วขาว
- ผงปรุงรสเห็ดหอม
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวหลอด
2. ตั้งกระทะน้ำมันพอร้อน ใส่ผงพะโล้ อบเชย และโปยกั๊ก ลงผัดพอหอม จากนั้นใส่เห็ดต่าง ๆ ผัดพอสุก
3. เติมน้ำเปล่า ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว และผงปรุงรสเห็ดหอม คนให้เข้ากัน ใส่เต้าหู้ (และโปรตีนเกษตร) เคี่ยวต่อจนส่วนผสมเข้าเนื้อและน้ำเริ่มงวด
4. วางก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่บนเขียง ตักส่วนผสมในข้อ 2 และถั่วงอกลวกใส่ ม้วนเป็นแท่งกลม จากนั้นนำไปนึ่งพอสุก
5. ตัดเป็นชิ้นพอคำ โรยด้วยหัวไชโป๊เจียว เสิร์ฟคู่กับซีอิ๊วดำหวาน
7. เผือกทอดเจ
ส่วนผสม เผือกทอดเจ
- แป้งข้าวเจ้า 1+1/4 ถ้วย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
- เผือกขูดหรือหั่นเป็นเส้น 2 ถ้วย
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- น้ำจิ้มบ๊วย
- ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ ๆ
วิธีทำเผือกทอดเจ
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย และเกลือป่น เข้าด้วยกัน เติมน้ำกะทิและน้ำปูนใสลงไปคนผสมให้เข้ากัน
2. ใส่เผือกขูดลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน และแป้งเคลือบติดเผือกจนทั่ว เตรียมไว้
3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนจัดให้ตักเผือกเป็นก้อน ๆ ลงทอดในน้ำมันร้อน ๆ ทอดจนเผือกลอยขึ้นและสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน
4. ผสมน้ำจิ้มบ๊วยกับถั่วลิสงคั่วบด เสิร์ฟพร้อมเผือก
8. เห็ดหย็องเจ
ไปซื้อเห็ดนางฟ้าตุนเลย จะได้เอามาทำเห็ดหย็องเจเก็บไว้กินวนไป ก่อนเอาไปทอดให้ไปอบจนแห้งก่อน ปรุงรสเค็มตามชอบ
ส่วนผสม เห็ดหย็องเจ
- เห็ดนางฟ้า
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ
- ซีอิ๊วขาว
- งาขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเห็ดหย็องเจ
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอร้อนใส่เห็ดที่อบแล้วลงไปทอดประมาณ 3-5 นาที ตักขึ้นมาพักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนจนละลาย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เคี่ยวต่อสักครู่หนึ่งแล้วนำเห็ดที่ทอดเสร็จแล้วลงไปคลุก โรยงาขาวลงไปให้ทั่ว ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
9. ตือคาโค ขนมขาหมู
แม้ว่าช่วงกินเจจะมีของทอดขายเยอะแยะ แต่ถ้ามองหาตือคาโค หรือขนมขาหมู คงต้องแห้ว เพราะร้านไม่ค่อยทำกัน เอาอย่างนี้สิมาทำเองเลย วิธีทำไม่ยากด้วย มาพร้อมสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด
ส่วนผสม ตือคาโค
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- กะทิ 1 ถ้วยตวง
- เผือกหั่นเป็นเส้น 1/2 หัว
- ถั่วดำต้มสุก 3/4 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
ส่วนผสม น้ำจิ้มตือคาโค
- น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะพูน
- พริกแดงโขลกหยาบ 4-5 เม็ด
- ถั่วลิสงคั่วโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำตือคาโค
2. ตักส่วนผสมใส่กระบวยแล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ประมาณ 5-7 นาที จนสุกเหลือง ตักขึ้นมาใส่ภาชนะ
3. ทำน้ำจิ้มตือคาโค โดยใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก ต่อด้วยน้ำตาลปี๊บ ใส่พริกแดงโขลกลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยแล้วใส่ถั่วลิสง
10. เค้กฟักทองเจ
ส่วนผสม เค้กฟักทองนึ่ง
- ฟักทองนึ่งบด 200 กรัม
- น้ำเปล่า 185 กรัม
- น้ำตาลทราย 110 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 230 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
- น้ำมันดอกทานตะวัน 40 กรัม
- ฟักทองนึ่งหั่นเต๋า สำหรับแต่งหน้า
วิธีทำเค้กฟักทองนึ่ง
2. นำฟักทอง น้ำเปล่า และน้ำตาลทราย ใส่ลงชามผสม คนให้เข้ากัน
3. ผสมแป้ง เบกกิ้งโซดา และผงฟู เข้าด้วยกัน ร่อนลงในชามผสมฟักทอง ตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำมันแล้วค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน
4. เทใส่พิมพ์โรยด้วยฟักทองหั่นเต๋า นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 25-30 นาที หรือจนกว่าจะสุก พอสุกแล้วพักให้อุ่น หรือเสิร์ฟร้อน ๆ ก็ได้เช่นกัน
11. กล้วยทอดเจ
ปิดท้ายกันด้วยเมนูกล้วยทอดหรือกล้วยแขก สูตรนี้มาพร้อมสูตรแป้งชุบกล้วย ใส่มะพร้าวขูดและงาขาว รับรองความกรอบ
ส่วนผสม กล้วยทอดเจ
- กล้วยน้ำว้าสุกห่าม ๆ 1 หวี (ประมาณ 10-12 ลูก)
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยพูน (ชอบหวานใส่มากกว่านี้หน่อยได้จ้า)
- มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา (ไม่เต็มช้อน)
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- งาขาว 1/4 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำกล้วยทอดเจ
1. ทำแป้งสำหรับชุบกล้วยแขก โดยผสมแป้งข้าวเจ้ากับน้ำตาลทราย มะพร้าวขูดขาว เกลือป่น น้ำเปล่า และงาขาว คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย เตรียมไว้
2. ปอกกล้วยและหั่นเป็น 3 ชิ้น ต่อ 1 ลูก (วิธีคือ ปอกกล้วยโดยเหลือเปลือกทิ้งไว้ด้านหนึ่ง นำด้านนั้นวางในอุ้งมือแล้วใช้มีดปาดชิ้นกล้วยเป็น 3 ชิ้น) จากนั้นนำเนื้อกล้วยทั้งหมดลงไปชุบในส่วนผสมแป้ง ทำแบบนี้จนกล้วยหมด
3. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใช้ไฟปานกลาง ใส่กล้วยชุบแป้งให้ชุ่มแล้วหย่อนลงในกระทะ ทอดนานประมาณ 15-20 นาที จนกล้วยค่อย ๆ เหลืองกรอบ (อย่าใจร้อนเปิดไฟแรงจะไหม้เร็วและไม่กรอบนาน)
หมายเหตุ : เมื่อเห็นว่าเหลืองน่ารับประทานประมาณ 90% ให้ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันได้เลย เพราะความร้อนจะทำให้เหลืองเพิ่มอีกนิดจนพอดี ทอดเสร็จใหม่ ๆ อาจยังไม่ได้กรอบ 100% ทิ้งไว้สักครู่จะค่อย ๆ กรอบทีละน้อย และจะกรอบยาวนานมาก ๆ จริง ๆ มากกว่า 6 ชั่วโมงอีก
แนะนำเมนูอาหารเจอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาหารเจเมนูฮิต ทำเองง่าย ๆ ไม่น่าเบื่อ - kapook.com
Read More
No comments:
Post a Comment