เช้านี้ ADVANC ทำนิวไฮรอบ 1 ปี 3 เดือน คาดปัจจัยหนุน มาจากความคาดหวัง Synergy กับ GULF – นโยบายจ่ายปันผลสูงขึ้น ขณะที่ โบรกฯตือนกำไร Q3/64 ยังสะดุด เหตุโควิดระบาดหนัก คาดเริ่มฟื้น Q4/64 เป็นต้นไป แนะจับตาธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร คาดหนุนกำไรปี 65 พลิกโต YoY รอบ 2 ปี
*** นิวไฮ 1 ปี 3 เดือน รับความหวัง Synergy ธุรกิจ–ปันผลสูงขึ้น
ราคาหุ้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 198 บาท ทำนิวไฮรอบ 1 ปี 3 เดือน ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 197 บาท เพิ่มขึ้น 5.5 บาท หรือ 2.87% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 126.51% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น ADVANC เช้านี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบ 1 ปี 3 เดือน เนื่องจากมีความคาดหวัง Synergy ทางธุรกิจระหว่างกลุ่ม AIS และ GULF ประกอบกับ คาดหวังอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นตามนโยบายของ GULF ที่ต้องการให้กลุ่ม AIS จ่ายปันผลในอัตราที่เหมาะสม หลัง"สารัชถ์ รัตนาวะดี"เข้าร่วมบอร์ด INTUCH ผู้ถือหุ้นใหญ่ ADVANC
*** แต่ผลงานระยะสั้นยังสะดุด ลุ้นฟื้นปลายปี
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ของ ADVANC ยังคงอ่อนแอ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศ แต่คาดว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 4/64 ผลการดำเนินงานของ ADVANC จะเริ่มเข้าสู่รอบการฟื้นตัว ตามภาวะเศรษฐกิจ และการทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น
เช่นเดียวกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่ประเมินว่า ผลการดำเนินงานระยะสั้นของ ADVANC ในงวดไตรมาส 3/64 ยังมีแนวโน้มชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดของรัฐบาลร่วม 2 เดือน แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ADVANC เริ่มกลับมาได้ประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวม และรายได้ของ ADVANC ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป
*** กำไรปีนี้เสี่ยงหดตัวราว 1.42 – 6.48% YoY
บล.เคทีบีเอสที ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ ADVANC ไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ลดลง 6.48% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยกดดันจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง รวมถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ยังรุนแรง กดดันค่าบริการต่อเลขหมาย (ARPU) ต่อเนื่อง ขณะที่ค่าใช้จ่ายยังเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย ควบคู่กับการโปรโมท 5G
ด้านนักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ ADVANC ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
%chg. YoY |
เอเชีย พลัส |
27,043 |
-1.42 |
บัวหลวง |
26,688 |
-2.71 |
*** บริการลูกค้าองค์กร หนุนการเติบโตตั้งแต่ปี 65
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประเมินว่า บริการ 5G B2B (ลูกค้าองค์กร) จะเป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญหนุนการเติบโตในปี 65 โดยคาดการเติบโตราว 18 – 22% ต่อปี และจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปี 66-68 โดยลูกค้าบางส่วนของ ADVANC ในปีนี้ เริ่มหันมาใช้บริการ 5G แทน Fibre internet มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ADVANC มีจุดแข็งจากการบริการ ICT ลูกค้าองค์กร ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตสูงมาก เพราะองค์กรตั้งแต่ระดับ SME ถึงขนาดใหญ่ มีการทยอยปรับเปลี่ยนระบบ IT แบบดั้งเดิม สู่ New Technology มากขึ้น ซึ่งในปี 65 รายได้บริการ ICT อื่นๆ จะเติบโตระดับสูง จากการมีพันธมิตรต่างๆ อาทิ Microsoft Cloud ประกอบกับ 5G ยังเป็นตัวเชื่อมระบบ ICT ใหม่
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการศึกษา พบว่าบริการ 5G ของประเทศไทย มีศักยภาพสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมภายในปี 68 ราว 3.2 – 3.8 หมื่นล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังจากนั้น โดยมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้น 3.2 – 3.8 หมื่นล้านบาท ราว 35 – 40% มาจากการให้บริการลูกค้าองค์กร
ทั้งนี้ มองว่า ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีโอกาสเป็น New S-curve ของ ADVANC โดยประเมินการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ไว้ที่ 15 – 20% ต่อปี โดยยังมีโอกาสขยายการเติบโตในอนาคตได้ เนื่องจากปัจจุบัน ADVANC มีรายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร คิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ 90% มาจากกลุ่มรายย่อย ซึ่งมีความอิ่มตัวในธุรกิจมือถือแล้วสะท้อนจากการขยายจำนวนลูกค้า และค่าบริการ ARPU ที่ทำได้ลดลง
*** กูรูคาดปี 67 ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ADVANC จะตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นภายในปี 67เพราะ จะเป็นปีที่ GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อม ต้องเร่งเคลียร์งบดุลเพื่อรับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และยังจะช่วยลด DE Ratio ของ GULF ได้เร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีสร้างการเติบโตก้าวกระโดดให้กับทั้ง ADVANC และ GULF
นอกจากนี้ GULF ยังมีทางลัดในการขยายการเติบโต ด้วยการทำให้ ADVANC มีการเติบโตในอัตราเร่งในระยะข้างหน้า รวมถึงการเพิ่มนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ADVANC หรือ ขายสินทรัพย์เข้า กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยบวก ต่อผู้ถือหุ้น ADVANC ทั้งสิ้น
*** โบรกฯมอง Valuation ยังน่าสนใจ
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ณ ปัจจุบันของ ADVANC ยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากระยะยาว ยังมีความคาดหวังกลับมาเติบโตสูงกว่าปัจจุบัน รวมทั้งปัจจัยหนุนระยะสั้น จกความหวังเชิงบวกจากการเข้ามาของ GULF ซึ่งมีนโยบายเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล คิดเป็น Dividend Yield คาดมากกว่า 3.5% ต่อปี ประกอบกับ ยังมีอัพไซด์ค่อนข้างสูง
สอดคล้องกับ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่เลือก ADVANC เป็น Top Pick ของกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากคาดว่า กำไรปี 65 จะกลับมาเติบโตเทียบปีก่อนได้ในรอบ 2 ปี บวกกับราคาหุ้นปัจจุบันมีอัพไซด์สูง ขณะที่คาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงเฉลี่ย 4% ต่อปี นอกจากนี้ ราคาเป้าหมายปีหน้า ยังมีแนวโน้มถูกปรับขึ้นค่อนข้างสูง หลังเห็นแผนดำเนินงานชัดขึ้น ประกอบกับ กำลังซื้อผู้บริโภคคาดฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ
*** ส่วนใหญ่ แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ จะทำให้ผลการดำเนินงานของ ADVANC เริ่มฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับ นโยบายการจ่ายเงินปันผลใหม่ที่สูงขึ้น และราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ค่อนข้างสูง จึงยังมีความน่าสนใจในการเข้าลงทุน
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ซีจีเอสฯ |
ซื้อ |
251.00 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
225.00 |
เคจีไอ |
ซื้อ |
222.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
220.00 |
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ |
ซื้อ |
210.00 |
ราคาเฉลี่ย |
225.60 |
แม้เช้านี้ราคาหุ้น ADVANC จะทำนิวไฮรอบ 1 ปี 3 เดือน แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์ 14.80% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ขณะที่ โบรกฯส่วนใหญ่ ให้น้ำหนักการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 65 โดยคาดกำไรสุทธิของ ADVANC จะกลับมาเติบโตเมื่อเทียบปีก่อนได้ในรอบ 2 ปี หลังมองว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 จะไม่รุนแรงเหมือนปี 63-64 จนทำให้รัฐบาล ต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง....
No comments:
Post a Comment