เริ่มจากตอนนี้อาชีพนักแสดงได้รับผลกระทบเต็มๆเลย?
ข่าวแนะนำ
“ใช่ครับ ก็เช็กคิวมาเดือนกรกฎาคม ทุกอย่างเลื่อนหมดเลย ต้องบอกว่าทำงานในวงการมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยว่างเลย มีช่วงนี้แหละครับที่คิวว่างมากจนแอบตกใจเลยว่าเรามีเวลากับตัวเองเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ที่หยุดมาก็ประมาณ 3 เดือนแล้วครับ”
แต่ 3 เดือนที่หยุดไป ไนกี้ก็กลับไปช่วยงานที่บ้านส่งแก๊ส?
“ใช่ครับ เป็นธุรกิจของที่บ้านเป็นแก๊ส (หุงต้ม) ร้านของผมอยู่ที่สมุทรสาครครับ เราก็กลับไปช่วยคุณแม่รับสายโทรศัพท์เวลาที่คนมาสั่งของซึ่งก็เป็นงานที่เราเคยทำมาก่อนแล้วด้วยครับ”
ในมุมของคุณพ่อคุณแม่ที่เรากลับไปทำธุรกิจกับที่บ้านเขาดีใจมั้ย?
“เค้าดีใจนะครับ เพราะว่าเราได้กลับไปอยู่ด้วย เพราะว่าช่วงที่เราถ่ายละครเราก็ได้กลับไปอยู่กับเค้าไม่ได้มากสักเท่าไหร่ พอได้กลับบ้านทีเราจะกลับบ้านแม่ก็จะเตรียมทำอาหารไว้ให้ทาน”
ถามย้อนไปหน่อย ไนกี้เรียนจบด้านไหนมา?
“วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ครับ แต่เราไม่เคยทำงานตามที่เราเรียนจบมาเลยครับ เพราะโอกาสที่เราเข้ามาในวงการบันเทิงคือเข้ามาตอนที่เราเรียนอยู่ ม.5-ม.6 แล้วครับ แล้วพอเราเรียนจบมาเราก็ได้โอกาสที่ดี คือเราได้เข้าช่องเลยก็เลยไม่ได้เข้าทำงานบริษัทไหนเลย แต่ที่บ้านของผมคือไม่ได้สนับสนุนให้เข้ามาในวงการบันเทิงเลยนะครับ เพราะเค้าไม่ได้แฮปปี้ ครอบครัวของผมคงอยากให้เรารับราชการหรือทำอะไรที่ดูมั่นคงกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับขอให้เราไม่ทำเลยนะครับ แต่มีช่วงวัดใจมากกว่าว่าจบแล้วนะแม่ให้เงิน เซ็นเช็คให้ก้อนหนึ่ง แล้วก็ถ้าหมดเราก็เลือกแล้วนะว่าเราต้องทำอะไร แล้วเป็นช่วงที่เอ็กแซ็กท์ให้โอกาสให้เราเข้าไปเรียนทั้งรำไทย ดนตรีไทย การนั่ง การยืน แอ็กติ้ง มีการเรียนเยอะมาก แต่ช่วงนั้นคือเรามี
ค่าใช้จ่ายตลอด แล้วเราก็ยังไม่ได้มีงานอะไร เราก็มานั่งคิดสิ่งที่เรารักถ้าวันหนึ่งมันไปไม่ถึงเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ถ้าเงินที่มีมันหมดก่อน แต่สุดท้ายก่อนที่เงินจะหมดพอดีได้ละครเรื่องแรก แล้วกว่าจะได้เงินก็ประมาณเกือบปีเลยครับ ซึ่งพอรู้ว่าได้ละครเรื่องแรกคือร้องไห้เลย แล้วคนแรกที่เราโทร.ไปบอกคือแม่ บอกท่านว่าแม่ไนได้ละครแล้วนะ เรารักท่านมากเพราะว่าท่านลำบากมาเยอะ แล้วก็ถ้าไม่มีท่านก็ไม่มีเราในวันนี้ครับ พอบอกแม่แล้วท่านก็บอกเราว่าดีใจด้วยนะลูก ผมว่าลึกๆพ่อแม่ทุกท่านคือดีใจและคอยสนับสนุนให้ลูกได้ทำทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำแหละครับ แต่ว่าท่านก็จะสอนให้เรารู้จักที่จะต่อสู้ด้วยตัวเองว่าจะต้องทำยังไง เพราะถ้าเรียนจบแล้วจะมาเดินแตะฝุ่นอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ”
ในครอบครัวมีพี่น้องกี่คน?
“3 คนครับ พี่สาวคนโต ผมคนกลาง น้องชายคนเล็ก ถามว่าตัวผมดื้อมั้ย ก็เอาเรื่องอยู่ครับ (หัวเราะ) ซึ่งสำหรับตัวของผมมีหลายมุมมากครับ ก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียบร้อย แล้วแต่คนจะติดภาพจากบทบาทที่เราแสดงมาว่าเราเป็นคนเรียบร้อยเพราะบทที่ได้รับก็จะเป็นคุณชายเลยทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเราเรียบร้อย แต่ก็มีนะครับ บางคนมองว่าเราเป็นคนสองบุคลิก แต่จริงๆแล้วก็น่าเป็นไปได้นะครับ เพราะบางมุมผมก็หัวเราะ สดใส ร่าเริง แต่อีกมุมก็คือโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงเลยครับ เพราะว่าถ้าเราไม่ได้รู้จัก เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นคุยกับเค้ายังไงก่อนดี”
เห็นไนกี้ตัวใหญ่เข้าฉากบู๊ ปกป้องสาวๆในละคร แต่จริงๆแล้วใจคือกลัวทุกอย่าง?
“จริงๆเรียกว่า ขี้น้อยใจด้วยดีกว่าครับ แต่เรื่องกลัวก็ไม่ได้เป็นมาก แต่จะเป็นคนที่เซนซิทีฟกับเลือด เพราะพอเห็นแล้วเราจะมีอาการแบบใจสนั่น หวิวๆครับ ก็เคยไปให้เลือดมาเหมือนกันครับ คือครั้งนั้นร่วงเลย แบบมันหน้ามืดไปเลยครับ แต่ครั้งล่าสุดช่วงที่เริ่มมีโควิดแล้วผมก็ไปบริจาคเลือด หลังจากบริจาคแล้วก็ปกติดีนะครับ ส่วนเรื่องที่กลัวจริงๆคือ กลัวต้นหอมในบะหมี่ แค่เห็นเราก็ไม่โอเคแล้ว เพราะว่าเราฝังใจ เพราะเราเคยทานแล้วเราอาเจียน ซึ่งเราก็พยายามที่จะทานและสู้กับมันนะครับ แต่ไม่ได้จริงๆ อาจจะเป็นการฝังใจของเราไปเลย”
เรื่องหัวใจบ้าง สงสัยทำไมไนกี้ไม่มีแฟน?
“เรายังไม่อยากมีแฟน แล้วเราก็ยังรู้สึกว่าเรายังอยากจะอิสระอยู่ครับ และอีกอย่างคือเราอาจจะยังไม่เจอคนที่เราถูกใจด้วยครับ แต่ก็มีคุยๆ แต่เรายังไม่ได้มีใครพิเศษขึ้นมาจากการที่เราคุยตรงนั้นเลย และก็ยังไม่เคยมีใครที่เราพาเข้าบ้านครับ”
ถามถึงในละคร ไนกี้เล่นบทตบจูบคือสมจริงมาก ถอดเสื้อบ่อยมาก?
“ถ้าวันไหนที่จะมีฉากถอดเสื้อ คือผมก็จะไม่ทานข้าวเลย เพราะว่าถ้าเราทานข้าวในปริมาณที่เยอะยังไงมันก็ต้องออกอยู่แล้ว”
มีอีกเรื่องที่ไนกี้อาจทำให้สาวๆช็อก เพราะเห็นว่าจะละทางโลกเข้าสู่ทางธรรมะ?
“คือตั้งแต่เริ่มที่มีโควิดรอบแรกทำให้เรามีเวลาว่าง แล้วก็เห็นอะไรเยอะแยะมากมาย คนติดโควิดหรือเสียชีวิตจากกันโดยที่ไม่ได้บอกลากัน เห็นแบบนี้เยอะมากทุกวันๆ เราก็เลยหันมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วเราก็รู้สึกคิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้ว่าสิ่งที่เราพยายาม เราขวนขวายไป จริงๆเราทำไปเพื่ออะไรกัน เราเหนื่อยพอหรือยัง แล้วถ้าเลือกได้คือผมไม่เลือกเกิดมาแล้วครับ แต่เราไม่ได้แบบธรรมะจริงจังอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่เราก็เป็นแค่แวบหนึ่งของชีวิตที่เข้ามาในตอนนี้ เพราะว่าเราว่างแล้วเราได้อยู่กับธรรมะมันเลยมีความรู้สึกว่า ไม่แน่ในส่วนของบั้นปลายชีวิต ถ้าเราไม่มีห่วงคุณพ่อคุณแม่แล้วเราจะยังไง อาจจะไปหาที่สงบๆสักที่ ซึ่งเป็นความคิดที่เข้ามานะครับ”
ตอนนี้ไนกี้ถือเป็นนักแสดงอิสระ ที่รักในอาชีพของนักแสดง?
“ใช่ครับ คิดถึงกองละครมาก เราจะรู้สึกว่าเรามีความสุขทุกครั้งที่เราได้เจอเพื่อนๆได้เจอพี่ๆทุกคนคิดถึงมากเลย เราก็คิดว่าเมื่อไหร่ที่เราจะได้กลับไปถ่ายละคร ตอนนี้ก็มีเรื่องที่ถ่ายทำสร้างแล้วรอออกอากาศ และมีเรื่องที่ถ่ายทำค้างอยู่ และมีอีกเรื่องคือของพี่ฉอดครับ”.
โควิดทำปลงตก “ไนกี้” คิดละทางโลกสู่ทางธรรม เผยสถานะหัวใจโสดสนิท - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment