Rechercher dans ce blog

Saturday, July 31, 2021

5 พันโรงงานสมุทรสาครเข้าข่ายทำ FAI 10% แจ้งทำแล้ว 1.4 พันโรงงาน - ประชาชาติธุรกิจ

วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

ผู้ว่าฯสมุทรสาครเผยโรงงานเข้าข่ายทำ รพ.สนาม FAI 10% กว่า 5 พันแห่ง ล่าสุดแจ้งทำ FAI แล้ว 1,400 แห่ง ได้เตียงเพิ่ม 3 หมื่นเตียง พร้อมชี้เกณฑ์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 3 เข้มเกิน หวั่นบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับวัคซีนไม่กี่คน

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 รายงานข่าวจากสมุทรสาคร เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เวลา 24.00 น. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,265 ราย แบ่งเป็น 1.ผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 238 ราย 2.ในโรงงานที่ทำ Bubble&Seal 6 ราย 3.ภายในโรงพยาบาล 1,021 ราย แบ่งเป็นในจังหวัด 802 ราย และนอกจังหวัด 219 ราย เสียชีวิต 5 ราย เสียชีวิตสะสม 122 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 49,654 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างรักษา 18,838 ราย รักษาหาย 13,397 ราย

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ครบกำหนดให้โรงงานหรือสถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือมีกำลังเครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไปต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อแยกกักผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในโรงงาน (Factory Accommodation Isolation: FAI) โดยจะต้องมีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานทั้งบริษัทภายใน 7 วัน

วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

ปรากฏว่าจากสถานประกอบการทั้งหมดในจังหวัดสมุทรสาครเกือบ 7,000 แห่ง มีสถานประกอบการที่เข้าข่าย 5,000 แห่ง ในจำนวนนี้มีแจ้งว่าทำ FAI เรียบร้อยแล้ว 1,400-1,500 แห่ง ทำให้มีเตียงเพิ่มขึ้น 30,000 เตียงสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อในโรงงาน ส่วนสถานประกอบการและโรงงานที่ยังไม่แจ้งเข้ามาว่ากำลังทำหรือยังไม่ทำ พยายามให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบ

“ก่อนบังคับให้ทำ FAI ใช้ลักษณะขอความอนุเคราะห์ขอความร่วมมือ แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนสถานการณ์วิกฤตไม่สามารถขอความร่วมมือได้แล้ว เปลี่ยนเป็นภาคบังคับแทน ตอนแรกพูดกันว่า สถานประกอบต้องมีเตียงรองรับพนักงาน 100% ซึ่งถ้าคนทั้งโรงงานติดโควิดกันหมด แสดงว่าสถานประกอบการนี้อยู่ไม่ได้แล้ว เราก็พูดกันที่หลายตัวเลข เช่น 20% ได้หรือไม่ ในที่สุดมาหยุดที่ 10% เช่น โรงงานมีพนักงาน 1,000 คน ต้องมีเตียง 100 เตียง จะได้แบ่งเบาภาระในการมาใช้โรงพยาบาลสนามส่วนกลาง ซึ่งรองรับผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นหลัก”

มีโรงงานหลายแห่งไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องบังคับให้ทำ FAI เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประชุมชี้แจงกับผู้ประกอบการว่า ที่ให้แต่ละโรงงานทำ FAI ขึ้นมา เพราะไม่มีเตียงจริง ๆ ถ้าเกิดศูนย์พักคอย (CI) ที่ตั้งขึ้นมา 35-36 แห่งรองรับคนติดเชื้อในชุมชน ตอนนี้มีเตียงสำหรับผู้ติดเชื้อเพียง 4,000 เตียง หากพบโรงงานติดโควิดสัก 2-3 แห่ง ต้องรับพนักงานในโรงงานมาเข้า ศูนย์พักคอยส่วนกลางก็เต็มแล้ว ทุกคนจึงเข้าใจและให้ความร่วมมือดีมาก และยังได้สนับสนุนเงินในการเปลี่ยนโรงพยาบาลสนามสีเขียวที่บริเวณท่าจีนให้เป็นสีเหลืองจะเสร็จภายในสัปดาห์หน้านี้

“ผู้ประกอบการบอกขออย่างเดียวผู้ว่าราชการจังหวัดอย่าเพิ่งถอดใจ อย่าเพิ่งยอมแพ้ ให้รู้ไปว่าเมื่อภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาครัฐ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกันแล้ว เราจะแพ้สงครามโควิดครั้งนี้ ก็ให้มันรู้ไป การดำเนินงานเรื่อง FAI และการช่วยดำเนินการโรงพยาบาลสนามสีเหลืองเป็นกำลังสำคัญยิ่งที่ทำให้สถานการณ์สู้รบในสงครามโควิดสมุทรสาครยังมีแสงริบหรี่เป็นความหวังให้พวกเราได้

ขณะเดียวกันต้องจัดสรรหาที่เพิ่มด้วย และรณรงค์ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้วัคซีนไม่มีให้ฉีดอย่างที่ต้องการ จริง ๆ ไม่คิดว่าจำนวนของวัคซีนที่จังหวัดได้รับจะน้อยกว่าที่คาดคิดไว้ แต่เรายังมีเรียวแรงที่จะต่อสู้ต่อ” นายวีระศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ”เพจวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” ได้เขียนถึงการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่มากมายของกระทรวงสาธารณสุขในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 3 หรือบู๊สเตอร์โด้สให้บุคลากรทางการแพทย์จนนึกไม่ออกว่าจะเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนกี่คน

ขอเผือกหน่อยเถอะ

พยายามจะโพสต์ลง FB ให้น้อยลง
เพราะเกรงว่าจะใช้ถ้อยคำรุนแรงไป ด่าว่าคนนั้นคนนี้มากไป
หรือบ่นมากไป จนคนคิดว่าเราท้อ ถอดใจ

แต่ครั้งนี้ขอเผือกสักเรื่องเถอะ

เราคิดทำกล่องห่วงใย (ภาคพิเศษ) เพราะทราบจาก ผอ.รพ.ทั้ง 3 อำเภอว่าหมอ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดไปแล้วกว่า 300 คน
ไม่นับรวมของ รพ.เอกชน และเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุข
เลยทำกล่องห่วงใย (ภาคพิเศษ) ไปมอบให้
และคงต้องมอบเพิ่มอีก

เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน
นึกดีใจที่เห็นส่วนกลางให้สำรวจบุคลากรทางสาธารณสุข ว่ามีจำนวนเท่าไร จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับจากอเมริกาให้
จะเรียกว่าเป็นเข็มสาม หรือบู๊สเตอร์โด้ส ก็แล้วแต่
ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เป็นกำลังใจ แสดงออกถึงความห่วงใยได้ชัดเจน

แต่ข่าวที่ออกมาตอนบ่ายวันนี้
กำหนดหลักเกณฑ์การฉีดวัคซีนล็อตนี้มากมาย จนนึกไม่ออกว่าจะเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนชุดกำลังใจนี้กี่คน
อย่าลืมนะครับว่า
รพ.หนึ่งแห่ง ทั้งรัฐและเอกชน สำคัญหมดทั้งหมอ พยาบาล จนท. ยาม พลเปล แม่บ้าน รวมไปถึงบุคลากรของสาธารณสุขทุกระดับ
ตัวเลขก็มีอยู่แล้ว ตามที่ให้จังหวัดสำรวจไป

ยึดตัวเลขนั้นเถอะครับ
ส่วนจะปรับวิธีการฉีดอย่างไร ให้เป็นเรื่องที่คุณหมอในจังหวัดจะคุยกันเอง
หลักเกณฑ์เป็นเรื่องที่ดี
แต่ในยามศึกสงครามโควิดเยี่ยงนี้ ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ต้องมาก่อนครับ

#ผู้ว่าฯไม่ได้ฉีดด้วยนะ

Adblock test (Why?)


5 พันโรงงานสมุทรสาครเข้าข่ายทำ FAI 10% แจ้งทำแล้ว 1.4 พันโรงงาน - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

ชานนท์ ทำคลิปชี้แจงเจ้าของร่วมคอนโดแอชตัน อโศก ยืนยันทำถูก กม. 100% - ประชาชาติธุรกิจ

ชานนท์ เรืองกฤตยา

“ชานนท์ เรืองกฤตยา” ทำคลิปชี้แจงเจ้าของร่วมคอนโดแอชตัน อโศกฯ ยืนยันทำถูกกฎหมาย 100%

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ (31 ก.ค.) นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำการอัดคลิปเกือบ 3 นาที ให้ความมั่นใจกับเจ้าของร่วมและลูกค้า โครงการแอชตัน อโศก สุขุมวิท 21 โดยยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และบริษัทจะยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดตามกระบวนการต่อไป

ทั้งนี้ คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เป็นคำตัดสินเบื้องต้น บริษัทสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ โดยสิทธิในการครอบครอง และสิทธิตามกฎหมายของเจ้าร่วมที่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการแอชตัน อโศก สุขุมวิท 21 ยังทรงสิทธิตามกฎหมายทุกประการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก สุขุมวิท 21 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนยูนิตแรกตั้งแต่ปี 2561 ราคาตอนเปิดพรีเซลส์เริ่มตารางเมตรละ 2.3 แสนบาท ปัจจุบันคาดว่าราคายูนิตเหลือขายเริ่มต้นแตะ 3 แสนบาท/ตารางเมตร

โครงการแอชตัน อโศก สุขุมวิท มีมูลค่าโครงการ 6,481 ล้านบาท ล่าสุด ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2564 มียอดขายแล้ว 86% และลูกค้ารับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 85%

“ประชาชาติธุรกิจ” ถอดเทปคำชี้แจงแบบคำต่อคำ ดังนี้

(นายชานนท เรืองกฤตยา)

…สวัสดีครับทางลูกค้าอนันดาชาวแอชตัน อโศกทุกท่านครับ ผมชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นะครับ หวังว่าท่านหลาย ๆ คนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจาก covid ช่วงนี้นะครับ

และวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องบอกกล่าวท่านครับ เมื่อวาน (30 ก.ค. 64) ทางศาลปกครองได้มีการพิพากษาในคดีปกครองที่เกี่ยวข้องกับโครงการของเรา ท่านคงเห็นในสื่อและคงไม่สบายใจ เป้าหมายวันนี้ผมอยากจะบอกท่านว่าผมมั่นใจว่าเราต้องสู้ชนะครับ ผมไม่ยอมนะครับ ผมและผู้บริหารอนันดาทุกท่านอยู่ข้างเคียงท่านสู้ต่อไปครับ

เราจะยื่นอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด เราเชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างเราอย่างสุจริต และผลที่ออกมาน่าจะเป็นธรรมเพื่อดำรงให้สังคมเราอยู่อย่างสงบสุข

ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าบริษัททำตามกฎหมายทุกประการ ประสานงานกับทุกหน่วยงานถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็อยากให้ท่านสบายใจนะครับ ในภาวะนี้ผมก็เห็นใจหลาย ๆ คนนอนไม่หลับเช่นเดียวกับผม ผมจะใช้ความสามารถฝึกฝีมือของผมและทีมงาน และประสานงานกับสำนักกฎหมาย เพื่อความยุติธรรมให้พวกเราทั้งหมด เราอยู่ร่วมกันเรือลำเดียวกัน เราต้องสามัคคีกันนะครับ แล้วเราต้องแก้ไขปัญหาสังคมด้วยกันนะครับ

ผมก็เห็นใจรัฐเช่นกันครับ กฎระเบียบของรัฐเองก็ซับซ้อน แต่เราต้องช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อ ผมเป็นหนึ่งคนที่มีความหวังในประเทศไทย แต่เราต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเราซึ่งกันและกันเพื่อประโยชน์สูงสุดทั้งหมด

ผมเชื่อมั่นจริง ๆ นะครับว่าระบบยุติธรรมจะมีมุมมองเพื่อสร้างความสงบให้พวกเราทั้งหมด หากท่านอยากติดต่อมาสามารถติดต่อผ่านอนันดา call center 02-3162222 Ananda Facebook Message หรือ E-mail ของผม [email protected]/[email protected] ผมหวังว่า message นี้ ก็จะทำให้ท่านสบายใจ ผมก็ขอให้ท่านให้โอกาสอนันดาแก้ไขปัญหาต่อ

ขอขอบคุณครับ

Adblock test (Why?)


ชานนท์ ทำคลิปชี้แจงเจ้าของร่วมคอนโดแอชตัน อโศก ยืนยันทำถูก กม. 100% - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

นิสสันชวนเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำกิจกรรมสนุกท้ายกระบะกับนาวารา - ไทยรัฐ

ในช่วงสถานการณ์การระบาดของ “โควิด–19” ที่กำลังอาละวาดทั่วไทยขณะนี้ ค่ายนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ขอมีส่วนร่วมในการฝ่าวิกฤตินี้ไปกับคนไทย

พร้อมชวนเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เมื่อต้อง “อยู่บ้านหยุดเชื้อ” ด้วยการสนับสนุนการใช้เวลาอย่างเต็มที่กับ “ครอบครัว” สร้างความสุข และความสนุกเป็นภูมิคุ้มกันความเครียด กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวไปกับ “นิสสัน นาวารา”

เพราะครอบครัวมีส่วนช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความรู้สึกของสมาชิกในครอบครัวสามารถสร้างกำลังใจได้ นิสสันจึงชวนทำกิจกรรมสนุกๆ เพื่อสร้างช่วงเวลาที่ดีในช่วงนี้ สำหรับการสานสัมพันธ์ในครอบครัว สร้างเกราะป้องกันผ่านทุกวิกฤติ

อย่างเช่น การนำรถนิสสัน นาวารามาเล่นละครเวที หรือเปิดมินิคอนเสิร์ตบนท้ายกระบะ เสริมสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกตัวน้อยในบ้าน

โดยลองปรับมุมมองจะเห็นว่ากระบะด้านท้ายกระบะที่สูงจากพื้น สามารถเปลี่ยนเป็นเวทีขนาดเล็กได้อย่างง่าย เพียงตกแต่งฉากด้านหลัง จัดพื้นที่ด้านล่างให้มีที่นั่งสำหรับผู้รับชม เมื่อผู้แสดงแต่งตัวพร้อม ก็คว้าไมโครโฟน ก้าวขึ้นเวทีได้เลย

นอกจากนี้ยังสามารถเล่นน้ำดับร้อนบนท้ายกระบะ ให้ทั้งความสนุก ได้ออกกำลังกาย ช่วยดับร้อนเป็นอย่างดี

โดยเปลี่ยนกระบะเป็นสระ ทำง่าย ในงบประมาณไม่แพง ขอแค่มีผ้าใบสำหรับปูกันน้ำไหลออก หรือใช้ดินน้ำมันอุดรอยต่อตามจุดต่างๆ เติมน้ำจากสายยางโดยล็อกไว้กับตะขอยึดของกระบะ ไม่ต้องเสียเวลาถือให้เมื่อย อาจเติมโฟมอาบน้ำ ตีฟองเพื่อเพิ่มบรรยากาศ และความสนุกให้กับเด็กๆ เปลี่ยนวันร้อนๆให้เป็นวันสนุกชุ่มฉ่ำ

เรายังสามารถเปลี่ยนท้ายกระบะให้กลายเป็นบ่อบอล ลูกบอลพลาสติกหลากสีในบ้านลมกั้นด้วยตาข่ายเป็นสถานที่เล่นที่เด็กทุกคนวิ่งเข้าใส่ แทนการไปเล่นบ้านบอลที่ห้างสรรพสินค้า

หรือว่าจะจัด “แคมปิ้ง” เปลี่ยนบรรยากาศบนรถกระบะ เปลี่ยนบ้านและรถให้กลายเป็นค่าย ตั้งเต็นท์บนรถ ชวนทำกิจกรรมเล่าเรื่อง ร้องเพลง กินบาร์บีคิว ส่องนก ดูต้นไม้หรือดูดาวช่วยส่งเสริมทักษะความช่างสงสัยและช่างสังเกตให้กับเด็กๆ ย้อนวันวานเข้าค่ายให้คุณพ่อคุณแม่ สนุกกันได้ทั้งครอบครัว

ที่สำคัญ มาช่วยกันสร้างความทรงจำถ่ายรูปครอบครัวกับกระบะคู่ใจ เพราะการที่สมาชิกในบ้านรวมตัวกันครบทุกคนไม่ใช่เรื่องง่าย การที่ทุกคนต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะถ่าย รูปรวมบันทึกความทรงจำ เก็บไว้ ในแบบที่เท่กว่าใคร

โดยให้รถกระบะคันเก่งช่วยเป็นสตูฯถ่ายรูป แล้วชวนทุกคนในบ้านมาออกแบบพื้นหลัง ตัดกระดาษ ตกแต่งรถให้ดูน่ารักอบอุ่นในแบบที่ครอบครัวชอบ อย่าลืมแต่งตัวสวยหล่อให้เข้ากัน

รับรองว่าการถ่ายรูปในครั้งนี้จะต้องอยู่ในความทรงจำทุกคนนานกว่าการถ่ายรูปครั้งอื่นแน่นอน!!!

Adblock test (Why?)


นิสสันชวนเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำกิจกรรมสนุกท้ายกระบะกับนาวารา - ไทยรัฐ
Read More

วิธีทำข้าวคลุกกะปิ สูตรอร่อยเด็ด อิ่มอร่อยแบบง่ายๆ - ไทยรัฐ

ข้าวคลุกกะปิ ถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่คนไทยนิยมรับประทาน เนื่องจากให้สารอาหารครบถ้วน และใช้วัตถุดิบที่หาซื้อได้ง่ายในท้องตลาด จุดเด่นของข้าวคลุกกะปิอยู่ที่เครื่องเคียงที่หลากหลาย ทั้งผักและเนื้อสัตว์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อมได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนวิธีทํา "ข้าวคลุกกะปิ" ใส่หมูหวาน สูตรอร่อยเด็ด

ข้าวคลุกกะปิมีหลายสูตรด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวคลุกกะปิชาววัง หรือสูตรโบราณ ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบหลักเหมือนกันคือ ข้าวสวยและกะปิ ตามมาด้วยเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ โดยสามารถเพิ่มสัดส่วนเครื่องเคียงได้ตามความชอบ สำหรับเมนูที่คนไทยคุ้นเคยกันมากที่สุด ต้องยกให้ "ข้าวคลุกกะปิหมูหวาน" ซึ่งมีขั้นตอนวิธีทำดังนี้

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวคลุกกะปิ

  • ข้าวสวย
  • กะปิหวาน
  • น้ำพริกเผา
  • น้ำตาลทราย
  • หัวหอมสับ
  • กระเทียมสับ
  • น้ำมัน

เครื่องเคียงสำหรับทำข้าวคลุกกะปิ

  • หมูหวาน, กุ้งหวาน, กุนเชียง
  • ไข่เจียวซอย
  • มะม่วงซอย
  • หอมแดงซอย
  • พริกขี้หนูซอย
  • ถั่วฝักยาว, ถั่วพู หรือผักตามชอบ

วิธีทำหมูหวานสำหรับทำข้าวคลุกกะปิ

1. หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ พอดีคำ (แนะนำหมูสันใน เพราะไม่มีพังผืด)

2. เจียวหอมแดงซอยในกระทะให้พอมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนสุก

3. ใส่ซีอิ๊วดำลงเพื่อให้มีสีสันน่ารับประทาน 

4. ใส่น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาวเพื่อปรุงรสชาติตามชอบ (เคล็ดลับ : ใส่สับปะรดหั่นชิ้นเล็กๆ ลงไปเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มความหวานและความนุ่มให้เนื้อหมู)

5. ผัดต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำแห้งขลุกขลิก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

วิธีทำข้าวคลุกกะปิแบบง่ายๆ

1. นำหัวหอมและกระเทียมสับ มาเจียวในน้ำมัน ตั้งไฟอ่อน เจียวไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีสีเหลือง

2. ตักกะปิหวานลงไป ผัดรวมกับหัวหอมและกระเทียมสับจนมีกลิ่นหอม

3. ใส่น้ำพริกเผา เพื่อเพิ่มรสชาติกลมกล่อม ผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน

4. ใส่น้ำตาลทรายเพื่อปรุงรสชาติ

5. นำข้าวสวยใส่ลงในกระทะ ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ ผสมเข้ากัน

6. ตักข้าวใส่จาน นำหมูหวานที่เตรียมไว้มาวางบนจาน พร้อมกับเครื่องเคียงอื่นๆ 

9. ยกเสิร์ฟพร้อมรับประทานได้เลย

หมายเหตุ : เคล็ดลับความอร่อยของข้าวคลุกกะปิอยู่ที่กะปิหวาน ที่ไม่มีกลิ่นฉุน และเครื่องเคียงที่ครบครัน ซึ่งจะช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยกลมกล่อม อีกทั้งช่วยตกแต่งหน้าตาของเมนูข้าวคลุกกะปิให้น่ากินยิ่งขึ้น 

ข้าวคลุกกะปิ กี่แคล กินแล้วอ้วนไหม?

ข้าวคลุกกะปิ 1 จาน มีปริมาณอยู่ที่ 400-600 กิโลแคลอรี ซึ่งปริมาณที่ร่างกายต้องการ ผู้ชายอยู่ที่ 1,800-2,500 กิโลแคลอรี ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ 1,500-2,000 กิโลแคลอรี หากใครชอบกินเมนูนี้บ่อยๆ ก็ควรกินในปริมาณที่พอดี และอย่าลืมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอยู่เสมอ

ข้าวคลุกกะปิเป็นเมนูที่เป็นจานที่มีรสชาติต่างๆ ครบครันในจานเดียว ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน และเค็ม อีกทั้งส่วนผสมที่ใช้ทำอาหารยังหาง่าย ราคาไม่แพง แถมวิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก นำเคล็ดลับความอร่อยไปปรับใช้กันได้เลย 

Adblock test (Why?)


วิธีทำข้าวคลุกกะปิ สูตรอร่อยเด็ด อิ่มอร่อยแบบง่ายๆ - ไทยรัฐ
Read More

กองทัพบก โต้ข่าวทำรัฐประหาร ผบ.ทบ. มอบหมายแจ้งความคนปล่อยข่าวเท็จ กองทัพบก - ไทยรัฐ

(แฟ้มภาพ)

กองทัพบก โต้ข่าวปล่อยในโซเชียล ผบ.ทบ. ทำรัฐประหาร นำกำลังควบคุมบุคคลสำคัญ “บิ๊กบี้” มอบหมายแจ้งความดำเนินการคนปล่อยข่าวเท็จ

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกขอเรียนว่า เรื่องดังกล่าว “เป็นข่าวเท็จ” เป็นการสร้างเรื่องหวังให้เกิด ความวุ่นวายในสังคม เป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย ทําลายชื่อเสียงของกองทัพและรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มอบให้ ผู้อํานวยการสํานักงานพระธรรมนูญทหารบก เข้าดําเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จดังกล่าวแล้ว.

Adblock test (Why?)


กองทัพบก โต้ข่าวทำรัฐประหาร ผบ.ทบ. มอบหมายแจ้งความคนปล่อยข่าวเท็จ กองทัพบก - ไทยรัฐ
Read More

ผู้ว่าฯสมุทรสาคร เล็งสั่งปิดโรงงานในสมุทรสาครไม่ทำ รพ.สนาม FAI 10% - ประชาชาติธุรกิจ

ผู้ว่าฯสมุทรสาคร

ผู้ว่าฯสมุทรสาครเล็ง ”สั่งปิดโรงงาน” ไม่ทำ รพ.สนาม FAI 10% ภายใน 7 วัน เผย โรงงานทั้งจังหวัดเกือบ 7 พันแห่ง แจ้งทำ FAI 674 แห่ง รวม 16,445 เตียง ชี้หากโรงงานใดทำแค่โชว์ แต่ไม่มีมาตรการดูแลรักษา ต้องถูกสั่งปิดทันทีเช่นกัน

วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 รายงานข่าวจากสมุทรสาคร เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 24.00 น. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,178 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 240 ราย โรงพยาบาล 938 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นในจังหวัด 728 ราย และนอกจังหวัด 210 ราย เสียชีวิต 4 ราย เสียชีวิตสะสม 127 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 48,389 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างรักษา 17,831 ราย รักษาหาย 13,144 ราย

วานนี้ (30 ก.ค.) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ที่ประชุมได้มีการหารือติดตามปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำสถานที่กักตัว หรือโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ( Factory Accommodation Isolation : FAI ) หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งการให้สถานประกอบการทุกแห่งที่มีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือใช้เครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไปต้องจัดทำพื้นที่รองรับการกักตัวผู้ติดเชื้อของโรงงานให้มีเตียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และต้องเพียงพอต่อการแยกกักตัวของผู้ติดเชื้อในโรงงานตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้เร่งจัดทำ FAI ให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ หรือขีดเส้นตายภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564

ในที่ประชุมได้มีรายงานว่า ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสถานประกอบการต่าง ๆ ได้แจ้งสถานที่เพื่อจัดทำ FAI มาแล้วประมาณ 674 แห่ง มีเตียงโดยรวมราว ๆ 16,445 เตียง ซึ่งสถานประกอบการหลาย ๆ แห่งใช้วิธีการรวมตัวกันแล้วจัดตั้ง FAI ขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว เพื่อให้สะดวกในการวางมาตรการด้านสาธารณสุขทั้งเรื่องระบบการให้บริการทางการแพทย์ ลดจำนวนแพทย์-พยาบาลที่ต้องมาดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และการกำจัดขยะติดเชื้อ เป็นต้น ส่วนโรงงานที่อ้างว่าไม่มีสถานที่จัดทำ FAI หรือ ยังไม่พร้อมนั้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่ออยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อสั่งปิดโรงงานตามมาตรการต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการหารือถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดสมุทรสาคร และการปรับมาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในชุมชนเข้าสู่ศูนย์พักคอยคนสาคร หรือโรงพยาบาล สนามในชุมชน CI – Community Isolation และการดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการที่ยังนอนรอเตียงอยู่ในที่พัก หรือกักตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อรักษาตนเองตามมาตรการ HI – Home Isolation โดยในส่วนของการรับผู้ติดเชื้อเข้าสู่ศูนย์พักคอยคนสาคร CI – Community Isolation นั้น ที่ประชุมเห็นสมควรว่า ผู้ที่จะเข้าสู่ศูนย์ CI จะต้องผ่านการตรวจด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kits (ATK) มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป็นผู้ตรวจให้เท่านั้น

ส่วนประชาชนที่ซื้อมาตรวจเอง ไม่สามารถนำมายืนยันเพื่อขอเข้าศูนย์ CI ได้โดยตรง เพียงแต่เป็นตัวแสดงที่บ่งบอกว่า มีความเสี่ยงสูงเป็นผู้ติดเชื้อเท่านั้น และจะได้รับการตรวจยืนยันอีกครั้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ทั้งนี้เพื่อให้ รพ.สต.ที่เป็นเสมือนโรงพยาบาลด่านหน้า เป็นผู้ทำหน้าที่คัดกรองอาการของผู้ติดเชื้อก่อนว่า มีอาการอยู่ในระดับใด สมควรให้เข้าสู่ศูนย์ CI หรือ HI หรือ โรงพยาบาลสนาม หรือเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

อีกทั้งผู้ที่ผ่านการตรวจหาเชื้อจาก รพ.สต. นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบได้ทันที รวมถึงยังสามารถระบุได้ด้วยว่า สมควรที่จะได้รับยาหรือไม่ หากต้องรับยาจะเป็นฟ้าทะลายโจร หรือ ฟาวิพิราเวีย ที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ซึ่งจะได้ส่งข้อมูลต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์สั่งยาฟาวิพิราเวีย ให้กับผู้ติดเชื้อต่อไป นับเป็นการดำเนินงานเชิงรุกและรวดเร็วต่อการรับยาเพื่อการยับยั้งความรุนแรงโรคไม่ให้กลุ่มสีเขียวกลายเป็นสีเหลือง

ในช่วงต้นเดือนนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครจะได้รับยาฟาวิพิราเวีย เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อการให้ยากับผู้ติดเชื้อบางส่วน ดังนั้นเรื่องของการคัดกรองจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำแบบเข้าถึง และรวดเร็วมากที่สุด

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการปิดเมือง แต่เน้นไปที่มาตรการควบคุมสถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งการจัดตั้ง FAI หรือสถานที่กักตัวของโรงงาน เพราะทุกวันนี้พบกลุ่มผู้ติดเชื้อในโรงงานเป็นจำนวนมาก จึงต้องควบคุมกลุ่มคนเหล่านี้ก่อน ไม่ให้ออกมาปะปนกับคนในชุมชน

การทำ FAI ในโรงงานนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำ 1 สถานประกอบการต่อ 1 แห่ง แต่หลาย ๆ สถานประกอบการอาจจะรวมตัวกันจัดทำ FAI หรือสถานที่กักตัวเพียง 1 แห่งก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามเกณฑ์มาตรการฐานของสาธารณสุขคือ มีจำนวนเตียงที่เพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 หรือให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ติดเชื้อนั่นเอง และถ้าในโรงงานมีสถานที่ไม่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทำในโรงงาน แต่ต้องหาสถานที่ ๆ เหมาะสมจัดทำเพื่อรองรับพนักงานของโรงงานตัวเองให้ได้ โดยการประชุมในวันนี้ได้มีการพิจารณาว่า จะมีสถานประกอบการใดถูกสั่งปิดหรือไม่นั้น จะต้องรอให้การประชุมเสร็จสิ้นลงและออกคำสั่งให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน จึงจะประกาศให้ทราบต่อไป

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อยากจะบอกถึงสถานประกอบการทุกแห่งว่า การทำ FAI หรือสถานที่กักตัวของโรงงานนั้น คือความรับผิดชอบของสถานประกอบการทุกแห่งที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และต้องปฏิบัติตามให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วย อีกทั้งจะต้องมีมาตรการในการดูแลผู้ติดเชื้อตามมาตรการของสาธารณสุขและคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ไม่ใช่ทำขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพ หรือทำขึ้นมาเพียงแค่ต้องการแสดงให้เห็นว่าโรงงานได้ทำแล้ว จากนั้นปล่อยปละละเลย โดยหากโรงงานใดปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดยังสามารถเปิดโรงงานทำงานได้ต่อไป แต่หากโรงงานใดทำขึ้นมาเพียงแค่ถ่ายภาพโชว์ หรือทำแล้ว แต่ไม่มีมาตรการในการดูแลรักษา จะต้องถูกสั่งปิดทันที

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นสูงมากทุกวันนั้น ไม่อยากให้ทุกคนไปกังวลใจกับยอดตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพราะตัวเลขที่สูงขึ้นมาจากการเร่งตรวจเพิ่มมากขึ้นและทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อแยกคัดกรองและแยกผู้ติดเชื้อออกมาให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด

Adblock test (Why?)


ผู้ว่าฯสมุทรสาคร เล็งสั่งปิดโรงงานในสมุทรสาครไม่ทำ รพ.สนาม FAI 10% - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

แถลงการณ์ เพื่อไทย จี้รัฐบาล ยกเลิกห้ามสื่อเสนอข่าว ทำประชาชนหวาดกลัว - ไทยรัฐ

แถลงการณ์ เพื่อไทย อัด รัฐบาล ออกข้อกำหนด ฉบับที่ 29 ห้ามสื่อเสนอข่าว ที่มีข้อความทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ชี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ละเมิดต่อเสรีภาพของสื่อมวลชนในการเสนอข้อมูล

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 29) ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีเนื้อหาห้ามเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและยังกำหนดต่อไปว่า กรณีมีการเผยแพร่ ทางอินเทอร์เน็ตให้สำนักงาน กสทช.แจ้งผู้รับใบอนุญาตการให้บริการอินเทอร์เน็ตตรวจสอบ IP Address ของผู้นั้น และให้ระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้นั้นได้ทันที นั้นพรรคเพื่อไทยเห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นการละเมิด ต่อเสรีภาพของสื่อมวลชนในการเสนอข้อมูล ข่าวสาร และเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นอย่างร้ายแรง กล่าวคือ

1. การออกข้อกำหนดดังกล่าวต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงโดยเร็ว หรือป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 วรรคแรก แต่การจำกัดการเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน และการจำกัดเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจะทำให้การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ยุติลงโดยเร็วหรือไม่ให้โรคระบาดรุนแรงขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น การออกข้อกำหนดดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

2. ข้อความที่ว่าห้ามเสนอข่าวที่มีข้อความอันทำให้ประชาชนเกิดความกลัว นั้น มีความหมายไม่ชัดเจน ไม่มีมาตรวัดใดที่จะใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานได้ ข้อความข้างต้นจึงขาด ความชัดเจนแน่นอน ปล่อยให้เกิดการใช้ดุลยพินิจและการเลือกปฏิบัติได้ ข้อกำหนดดังกล่าวจึงขัดต่อหลักการตรากฎหมายที่มีโทษทางอาญาและกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และยังเป็นการจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนและเสรีภาพของประชาชนเกินสมควรแก่เหตุอันขัด ต่อรัฐธรรมนูญด้วย


3. ข้อกำหนดที่ให้อำนาจแก่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตตรวจสอบและวินิจฉัยว่า การเสนอข้อมูลข่าวสารของบุคคลใดเป็นการต้องห้ามตามข้อกำหนดหรือไม่ และให้อำนาจในการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้นั้น เป็นการมอบอำนาจให้องค์กรเอกชนซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้วินิจฉัยว่าบุคคลใดกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดหรือไม่ ผิดหลักการ ของกฎหมายมหาชน และการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างร้ายแรง เพราะอำนาจการวินิจฉัยว่าผู้ใดกระทำความผิดและต้องระงับการใช้อินเทอร์เน็ตควรเป็นอำนาจของศาลหรือ กสทช.ตามกรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้เท่านั้น


4. เหตุผลของการออกข้อกำหนดระบุไว้ชัดเจนว่า “โดยที่มีการเผยแพร่โดยทั่วไปซึ่งข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเกิดความกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน...” ดังนั้น หากจะออกข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องจำกัดการเสนอข่าวว่าต้องเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จเท่านั้น การเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงไม่ควรถูกห้ามไปด้วย การออกข้อกำหนดเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ พูดความจริงจึงมีเจตนาเพื่อปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชน

5. เมื่อพิจารณาเหตุผลเบื้องหลังของการออกข้อกำหนดนี้จะเห็นได้ว่า รัฐบาล และ ศบค. บริหารงานล้มเหลวในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทุกภาคส่วน จนกระทบต่อสถานะการดำรงอยู่ของรัฐบาล โดยเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ส่วนสื่อมวลชนก็ไม่ปรากฏว่ามีสื่อสำนักใดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับโรคโควิด-19 จึงเห็นได้ว่า เหตุผลที่แท้จริงในการออกข้อกำหนดนี้มิได้เกี่ยวกับความจำเป็นที่จะทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยุติลงโดยเร็ว หรือเพื่อป้องกันมิให้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวรุนแรงขึ้นตามเงื่อนไขของกฎหมายแต่อย่างใด แต่เป็นการดำเนินการโดยมีเหตุผลทางการเมืองแอบแฝงโดยมิได้คำนึงว่าการกระทำเช่นนี้ จะไปจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนอย่างไร

6. การแก้ไขปัญหาและต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรงเช่นนี้มีความจำเป็นที่ต้องเข้าใจสถานการณ์และรับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างรอบด้าน เพื่อให้ทั้งภาครัฐและประชาชนเข้าใจในความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะสามารถเห็นถึงปัญหาและประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง ตรงกับสภาพของปัญหาที่เกิดขึ้น การระงับ ยับยั้ง หรือปิดกั้นการรับรู้ข้อเท็จจริงด้วยการ ออกข้อกำหนดดังกล่าว นอกจากจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อการระดมความร่วมมือของประชาชนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาด้วย

พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า ไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่นายกรัฐมนตรีจะต้องออกข้อกำหนดนี้ และการออกข้อกำหนดก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ พรรคจึงขอเรียกร้องให้ยกเลิกข้อกำหนดฉบับนี้เสีย จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

Adblock test (Why?)


แถลงการณ์ เพื่อไทย จี้รัฐบาล ยกเลิกห้ามสื่อเสนอข่าว ทำประชาชนหวาดกลัว - ไทยรัฐ
Read More

Friday, July 30, 2021

กรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวชื่อดัง เผยวิธีปฏิบัติตัวขณะทำข่าวพื้นที่สงคราม - Sanook

กรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวที่มีประสบการณ์สูงเกี่ยวกับการทำข่าวในต่างประเทศ โพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) ถึงวิธีการปฏิบัติตัวขณะทำข่าวในพื้นที่สงคราม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตว่า วิธีหนึ่งคือการฝังตัวไปกับกองกำลังของประเทศนั้นหรือของประเทศพันธมิตร

ผู้สื่อข่าวรายนี้ ระบุต่อไปว่า การฝังตัวดังกล่าว จะมีกติกากำหนดว่าปฏิบัติตัวอย่างไรได้หรือไม่ได้บ้าง ซึ่งเป็นกติกาที่ตั้งขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของชีวิต และจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย

"มีคนถามหลังไมค์ว่า ทำอย่างไรเมื่อต้องเข้าไปทำข่าวในพื้นที่สงคราม ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย อัฟกานิสถาน อิรัก วิธีหนึ่งที่เราและนักข่าวต่างชาติส่วนใหญ่ใช้ คือการ embedded หรือฝังตัวไปกับกองกำลังของประเทศนั้นๆ หรือกองกำลังของประเทศพันธมิตร เช่น สหรัฐ อังกฤษ หรือกองกำลังนาโต้ โดยจะมีกฎกติกาที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าอะไรทำได้ และอะไรทำไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อรักษาชีวิตของทุกคน" กรุณา บัวคำศรี โพสต์

การแสดงความเห็นในโซเชียลมีเดียนี้ เกิดขึ้นหลังจากผู้มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการท่องเที่ยวรายหนึ่งเดินทางไปถ่ายรายการที่ประเทศอัฟกานิสถาน โดยระบุว่ามีคนในพื้นที่เป็นคนดูแล แม้ว่าขณะนี้หลายพื้นที่ในอัฟกานิสถานค่อนข้างไร้เสถียรภาพ จากการที่กลุ่มติดอาวุธตาลิบันกำลังแย่งชิงพื้นที่จากกองกำลังของรัฐบาล ในช่วงที่สหรัฐกำลังถอนทหารทั้งหมดออกมาภายในเดือน ส.ค. นี้

ผู้มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตรายดังกล่าวโพสต์เมื่อช่วงที่ผ่านมาของวันศุกร์ (30 ก.ค.) ว่าตนอยู่ในพื้นที่ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง และไม่มีเครื่องบินให้บินออกจากเมืองที่ตนอยู่

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายคนท้วงติงถึงความปลอดภัยของการเดินทางดังกล่าว หนี่งในนั้นที่สอบถามว่า ตนได้แจ้งสถานทูตไทยที่รับผิดชอบพื้นที่ประเทศอัฟกานิสถานหรือไม่ แต่ผู้มีชื่อเสียงรายดังกล่าวกลับตอบว่า ตนติดต่อสถานทูตอัฟกานิสถานในต่างประเทศที่เช็กข่าวได้ และทำไมตนถึงต้องติดต่อสถานทูตไทย 

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายดังกล่าว ที่ภายหลังทราบว่ามีอาชีพนักการทูต จึงตอบกลับไปว่า เมื่อเกิดสถานการณ์คับขันหรือความเสียหายต่างๆ ผู้ที่ช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในอันตรายได้ก็คือเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทย ซึ่งสถานทูตไทยที่รับผิดชอบอัฟกานิสถาน คือ สถานทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัด ของปากีสถาน การติดต่อสถานทูตอัฟกานิสถานในต่างประเทศจึงไม่น่าจะช่วยอะไรได้

Adblock test (Why?)


กรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวชื่อดัง เผยวิธีปฏิบัติตัวขณะทำข่าวพื้นที่สงคราม - Sanook
Read More

เปแอสเช ประกาศทำทีมอีสปอร์ตในไทย ส่งทัพ RoV ลุยโปร ลีก - ข่าวสด - ข่าวสด

เปแอสเช – ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรกีฬาจากฝรั่งเศส ประกาศทำทีมอีสปอร์ตในประเทศไทย ในส่วนของเกม RoV ซึ่งจะลงแข่งขันในรายการ โปร ลีก

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เพจPSG Esports ซึ่งเป็นเพจอีสปอร์ตทางการของเปแอสเช ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าพวกเขาจะเข้ามาทำทีมอีสปอร์ตในประเทศไทย

โดยจะส่งทีมเกม RoV เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ RoV Pro League ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศไทย

ซึ่งเปแอสเชถือเป็นสโมสรฟุตบอลจากยุโรปทีมที่สองที่เข้ามาทำทีมRoV ในประเทศไทย ต่อจาก บาเลนเซีย

Adblock test (Why?)


เปแอสเช ประกาศทำทีมอีสปอร์ตในไทย ส่งทัพ RoV ลุยโปร ลีก - ข่าวสด - ข่าวสด
Read More

อั้ม พัชราภา นั่งแพ็กของทำกล่องปันน้ำใจให้ประชาชน 2,000 ชุด (คลิป) - ไทยรัฐ

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ยังคงทำดีเพื่อสังคมมาตลอด สำหรับนางเอกซุป'ตาร์สาว อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้อั้มก็ได้มอบเครื่องผลิตออกซิเจนให้กับ รพ. ต่างๆ

ล่าสุดนางเอกสาวก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ด้วยการชวนหนุ่มคนสนิทอย่างไฮโซหนุ่ม พก ประธานวงศ์ พรประภา รวมไปถึง เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการส่วนตัว และไฮโซหนุ่ม ณัฐ ณัฐพล จุฬางกูร ทำกล่องปันน้ำใจเพื่อแจกให้กับประชาชนจำนวน 2,000 ชุด

ข่าวแนะนำ

อั้ม พัชราภา ขอบคุณภาพจากไอจี @aum_patchrapa
อั้ม พัชราภา ขอบคุณภาพจากไอจี @aum_patchrapa

โดย อั้ม พัชราภา ได้โพสต์ภาพบรรยากาศหลังแพ็กของเสร็จเรียบร้อย พร้อมทั้งเขียนข้อความขอเป็นกำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการขอส่งมอบกล่องปันน้ำใจจำนวนทั้งหมด 2,000 ชุด เป็นทางออนไลน์ 1,000 ชุด และกระจายทางชุมชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,000 ชุด

ด้าน เอ ศุภชัย ก็ได้โพสต์คลิปบรรยากาศตอน อั้ม-เอ นั่งพื้นช่วยกันแพ็กของ โดยมีไฮโซณัฐมาช่วยแพ็กด้วย พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า “ขอบคุณน้องอั้มมากๆๆนะคะ น้องพกน้องนัทด้วยนะคะ มาอุดหนุนข้าว เอโอเค ไปทำบุญกัน ขอบคุณน้องอั้มที่เป็นสะพานบุญ มาชวนพี่เอร่วมกิจกรรมดีๆ กับคนสวยนะคะ @aum_patchrapa @nut_nuttapol @pokphornprapha

ตอนนี้กล่องปันน้ำใจที่จะส่งให้พี่น้องที่เดือดร้อนมีคนลงทะเบียนครบแล้วค่ะ ส่วนที่จะส่งตามชุมชนเราก็จะทำกันอีกต่อไป รอหน่อยนะคะ ขอบคุณน้องๆ น้องอั้ม น้องนัท น้องพก ที่ชวนพี่เอมาร่วมในครั้งนี้ด้วยนะคะ พวกเราจะพยายามทำกันต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ”.

Adblock test (Why?)


อั้ม พัชราภา นั่งแพ็กของทำกล่องปันน้ำใจให้ประชาชน 2,000 ชุด (คลิป) - ไทยรัฐ
Read More

ฝนทำกอล์ฟโอลิมปิก 2020 รอบ 2 ตีไม่จบ "โปรแจ๊ส" รั้งที่ 7 ร่วม "เชาฟ์เฟล" นำ - ไทยรัฐ

จบการแข่งขันประเภทบุคคลชายวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. 2564 การออกรอบต้องหยุดกลางคันถึง 2 ครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนตกหนักและประจุไฟฟ้า จนไม่สามารถแข่งขันได้ ก่อนที่ในเวลา 15.45 น. ต้องหยุดแข่งไปอีกรอบ จนต้องประกาศยุติการแข่งขันในวันนี้ โดยนักกอล์ฟที่ยังแข่งไม่จบต้องมาหวดในหลุมที่เหลือในช่วงเช้าวันเสาร์ 31 ก.ค. 2564 ก่อนเริ่มการแข่งในรอบที่ 3 ในวันเดียวกันต่อไป

ด้านสวิงชาวไทย "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ นักกอล์ฟวัย 25 ปี จากหัวหิน พัตเตอร์ไม่ทำงาน ทำสกอร์อีเวนพาร์ 71 ในวันนี้จากผลงาน 1 เบอร์ดี้ที่หลุม 6 และ 1 โบกี้ ที่หลุม 11 ทำสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 135 รั้งอันดับ 7 ร่วมกับ 2 สวิงจากไอร์แลนด์อย่าง รอรี่ย์ แม็คอิลรอย กับ แชน ลอว์รี่

โดยโปรแจ๊ส กล่าวว่า "อะไรมันก็ไม่เป็นใจไปเสียหมด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีวันที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้างในบางวัน แต่วันนี้อะไรมันก็ดูเหมือนจะอยู่กลางๆ ผมเล่นไม่ค่อยดี และตีไม่ดี รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองเท่าไร สับสนในการอ่านไลน์ และการเลือกเล่น รวมถึงการแต่งชอตต่างๆ จนแทบจะควบคุมไม่อยู่ แต่ก็ไม่ได้หวั่นใจอะไร เพราะผมรู้ตัวเองดี และพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์มาได้แบบไม่เสียหายมากนัก"

"บางครั้งมันก็ดี บางครั้งมันก็ไม่ดี คุณอาจจะลองอะไรได้หมดในสนาม แต่เมื่อเป็นวันที่แย่คุณไม่สามารถจะแก้ไขอะไรมันได้ แค่ต้องยอมรับมันและพยายามเล่น พยายามมีความสุขกับมัน เพราะบางครั้งคุณให้ความสำคัญมากเกินไปกับกอล์ฟ ต้องลืมว่าทำไมคุณจะต้องทำอะไรแบบนี้เพื่อมีชีวิตอยู่ พยายามถามว่าทำไมคุณจึงเริ่มเล่นกอล์ฟ เพราะมันทำให้คุณมีความสุข และบางคนก็จริงจังกับมันจนมากเกินไปจนทำให้ตึงเครียดไปหมด" โปรแจ๊สกล่าว

ผู้นำในรอบนี้เป็นของ ซานเดอร์ เชาฟ์เฟล จากสหรัฐอเมริกา ที่จบการแข่งขันวันนี้ด้วยการทำเพิ่มเข้ามาอีก 8 อันเดอร์พาร์ 63 จากผลงาน 2 อีเกิล 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี ทำสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 131 โดยมี การ์ลอส ออร์ติซ สวิงชาวเม็กซิกัน ที่รอบนี้ทำเพิ่มเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 67 ทำสกอร์ตาม 10 อันเดอร์พาร์ 132 ตามหลังแต้มเดียว

มิโต เปเรรา จากชิลี, อเล็กซ์ โนเรน จากสวีเดน และ เซปป์ สตรากา ผู้นำในรอบแรกจากออสเตรีย ตามหลังเข้ามาที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 ด้านสวิงอีกรายของไทยอย่าง กัญจน์ เจริญกุล ที่จัดอยู่ในกลุ่มสุดท้ายของวัน ยังเล่นอยู่ที่หลุม 14 โดยยังทำสกอร์ อีเวนพาร์ และต้องมาหวดต่ออีก 4 หลุมที่เหลือในเช้าวันเสาร์ต่อไป

สรุปผลการแข่งขัน (เฉพาะนักกอล์ฟที่แข่งจบแล้ว)

(-11) 131 ซานเดอร์ เชาฟ์เฟล (สหรัฐ) 68-63
(-10) 132 การ์ลอส ออร์ติซ (เม็กซิโก) 65-67
(-8) 134 มิโต เปเรรา (ชิลี) 69-65, อเล็กซ์ โนแรน (สวีเดน) 67-67, เซปป์ สตรากา (ออสเตรีย) 63-71
(-7) 135 อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (ไทย) 64-71, รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์) 69-66, เชน โลว์รี (ไอร์แลนด์) 70-65

Adblock test (Why?)


ฝนทำกอล์ฟโอลิมปิก 2020 รอบ 2 ตีไม่จบ "โปรแจ๊ส" รั้งที่ 7 ร่วม "เชาฟ์เฟล" นำ - ไทยรัฐ
Read More

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย เหนียวนุ่มน่ากิน ทำง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน - ไทยรัฐ

ข้าวญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น มีจุดเด่นอยู่ที่เม็ดข้าวเหนียวหนึบ เคี้ยวอร่อย ทำให้คีบด้วยตะเกียบขึ้นมารับประทานได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีรสชาตินุ่มอร่อย จึงนิยมนำมาทำซูชิ เมนูข้าวหน้าเนื้อ และข้าวแกงกะหรี่หลากหลายรสชาติ ในปัจจุบันข้าวญี่ปุ่นกำลังได้รับความสนใจในกลุ่มคนชอบทำอาหาร เพราะสามารถทำเมนูต่างๆ ได้มากมาย ไทยรัฐออนไลน์ขอนำวิธีหุงข้าวญี่ปุ่นแบบง่ายๆ มาฝากกัน

เคล็ดลับวิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย ทำเองง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

ข้าวญี่ปุ่นมีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ลักษณะเมล็ดสั้น ใช้สำหรับทำอาหารญี่ปุ่น สามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต มีทั้งที่นำเข้าจากญี่ปุ่นและปลูกในประเทศไทย นิยมหุงข้าวญี่ปุ่นด้วยหม้อดิจิทัล เนื่องจากสะดวกและช่วยประหยัดเวลา เทคนิคสำคัญอยู่ที่การซาวข้าวด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง เนื่องจากข้าวญี่ปุ่นมีความเหนียวกว่าข้าวไทย และต้องแช่น้ำไว้ก่อนนำไปหุง ในขณะที่ข้าวไทยสามารถนำไปหุงได้เลย สำหรับวิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อยแบบง่ายๆ มีดังนี้

1. ตวงข้าวสารสำหรับหุงในปริมาณที่ต้องการ ลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า หรือหม้อดิจิทัล

2. ใส่น้ำล้างทำความสะอาด แล้วเทน้ำทิ้งครั้งที่ 1

3. ใช้มือนวดข้าวสารเบาๆ ประมาณ 5-10 ครั้ง หลังจากนั้นให้ล้างน้ำเปล่า แล้วเทน้ำทิ้งครั้งที่ 2

4. ใช้มือนวดข้าวสารเบาๆ อีกประมาณ 5-10 ครั้ง แล้วล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเทน้ำทิ้งครั้งที่ 3

5. นำข้าวสารใส่หมอหุง เติมน้ำสะอาดลงไป (ใช้น้ำเย็นได้) ปริมาณน้ำประมาณ 1.2-1.4 เท่าของข้าวสาร เช่น หากหุงข้าวสาร 200 กรัม ก็ควรเติมน้ำ 240-280 กรัม เพื่อไม่ให้ข้าวแฉะเกินไป

6. เทคนิคสำคัญเพื่อให้ข้าวเหนียวหนึบคือ การแช่ข้าวทิ้งไว้ในหม้อประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้เม็ดขาวดูดซึมน้ำจนเม็ดฟูอิ่มน้ำ

7. หลังจากนั้นกดหุงข้าวได้ตามปกติ อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดขอบและก้นหม้อให้แห้งก่อนหุง

8. เมื่อข้าวสุก ให้ใช้ทัพพีค่อยๆ ซุยข้าว แล้วตักใส่ภาชนะ จะได้ข้าวเม็ดสวย หอมนุ่ม ความเหนียวหนึบของข้าวญี่ปุ่น จะช่วยให้ใช้ตะเกียบคีบข้าวรับประทานได้ง่ายขึ้น

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่น สำหรับทําซูชิ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

การหุงข้าวญี่ปุ่นสำหรับทำซูชิมีความแตกต่างจากการหุงข้าวแบบทั่วไปเล็กน้อย เนื่องจากจำเป็นต้องเติมส่วนผสมน้ำส้มสายชูเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวอ่อนๆ การใช้ข้าวญี่ปุ่นทำซูชิจะทำให้รู้สึกนุ่มหนึบเวลาเคี้ยว วัตถุดิบ รวมถึงแผ่นสาหร่ายที่ใช้ห่อก็ยังติดแน่นอีกด้วย โดยจะต้องเตรียมส่วนผสมต่อไปนี้ให้พร้อม

ส่วนผสม
- ข้าวสวย 2 ถ้วย
- น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นทำซูชิ
1. นำข้าวสารญี่ปุ่นมาซาวน้ำให้สะอาดประมาณ 2-3 รอบ เพราะข้าวสารญี่ปุ่นมียางและค่อนข้างมีความเหนียว
2. ใส่น้ำเปล่าสะอาดลงไปในหม้อหุง ไม่ควรใส่น้ำเยอะเกินไป
3. เติมเกลือ และน้ำมันมะกอกลงไป
4. กดหุง รอจนกระทั่งข้าวสุก
5. หลังจากนั้น ตักข้าวออกมาใส่ภาชนะหรือโถข้าวที่เตรียมไว้
6. เติมน้ำส้มสายชู และน้ำตาลลงไป คลุกเคล้าจนเข้ากัน
7. พักให้ข้าวคลายความร้อน
8. นำไปทำห่อสาหร่าย หรือทำซูชิหน้าต่างๆ สำหรับรับประทานได้เลย

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์และส่วนผสมให้พร้อม นอกจากจะได้ฝึกฝนรสมือการหุงข้าวให้อร่อยแล้ว ถือว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว เพราะหุงข้าวญี่ปุ่น 1 หม้อ ก็สามารถเก็บไว้กินได้หลายมื้อเลยทีเดียว

Adblock test (Why?)


วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย เหนียวนุ่มน่ากิน ทำง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน - ไทยรัฐ
Read More

SCG โชว์แกร่ง Q2/64 กำไรโต 15% เข้มทำ Bubble & Seal สู้โควิด - ประชาชาติธุรกิจ

SCG แถลงผลประกอบการไตรมาส 2/64 มีกำไรเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาส 1/64 พร้อมมุ่งปรับตัวให้ทันตลาด ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจับเทรนด์ปรับปรุงบ้าน พัฒนานวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง รุกตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียน และเร่งเครื่องขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ สร้างการเติบโตระยะยาว รวมถึงยกระดับมาตรการ “Bubble & Seal” สู้โควิด คุมเข้มความปลอดภัยของพนักงาน-กระบวนการผลิตขั้นสูงสุด

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เปิดเผยว่า งบการเงินรวมไตรมาส 2/64 มีรายได้จากการขาย 133,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาส 2/63 สาเหตุหลักจากราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นตามการปรับตัวของราคาน้ำมันโลก และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาส 1/64 มีกำไร 17,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากไตรมาส 2/63 และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาส 1/64 จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส

สินค้า HVA ดันกำไรโต

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 SCG มีรายได้จากการขาย 255,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2563 มีกำไร 32,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

โดยครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services-HVA) 86,861 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของรายได้จากการขายรวม มีสัดส่วนการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products Development-NPD) และ Service Solution เช่น โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy Solution) โซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart and Functional Solutions) คิดเป็น 15% และ 5% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทยในครึ่งปีแรก 2564 ทั้งสิ้น 112,272 ล้านบาท คิดเป็น 44% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 30% ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีมูลค่า 812,051 ล้านบาท โดย 39% เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน

3 ธุรกิจหลักค้ำยันรายได้

รายละเอียดแยกรายธุรกิจ ดังนี้ 1.ธุรกิจเคมิคอลส์ ในไตรมาส 2/64 มีรายได้จากการขาย 60,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% จากไตรมาส 2/63 และเพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 1/64 เนื่องจากราคาขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น กำไร 10,392 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128% จากไตรมาส 2/63 และเพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 1/64

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้จากการขาย 112,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาส 2/63 เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยมีกำไร 19,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203% จากไตรมาส 2/63

2.ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ไตรมาส 2/64 มีรายได้จากการขาย 46,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาส 2/63 และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาส 1/64 เนื่องจากยอดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดอาเซียนและตลาดอื่น ๆ นอกอาเซียนเพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามงานปรับปรุงและซ่อมแซมภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น มีกำไร 2,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาส 2/63 เนื่องจากในไตรมาส 2/63 มีขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เป็นจำนวน 699 ล้านบาท ในขณะที่ลดลง 12% จากไตรมาส 1/64

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้จากการขาย 92,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 2/63 กำไร 5,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 2/63

3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ในไตรมาส 2/64 มีรายได้จากการขาย 29,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาส 2/63 จากความต้องการซื้อสินค้าปรับเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ ในขณะที่ภาคการส่งออกของอาเซียนปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป และจากการขยายธุรกิจทั้งแบบ M&P (SOVI และ Go-Pak) และการเติบโตจากภายในอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 1/64 โดยมีกำไรสำหรับงวด 2,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาส 2/63 และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาส 1/64

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้จากการขาย 57,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาส 2/63 จากการขยายธุรกิจทั้งแบบ M&P (SOVI และ Go-Pak) และการเติบโตจากภายใน กำไร 4,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาส 2/63

“ไข่แดง-ไข่ขาว” รับมือโควิด

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกมีความไม่แน่นอนสูงมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่เผชิญกับเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า จนทำให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น หลายประเทศจึงบังคับใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง SCG จึงได้ยกระดับความเข้มข้นจากมาตรการ “ไข่แดง ไข่ขาว” ที่แยกพนักงานในสายการผลิตไม่ให้สัมผัสกับกลุ่มพนักงานทั่วไป โดยพนักงานสายการผลิตให้ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงงานและโรงแรมที่บริษัทจัดให้
เพราะพนักงานเหล่านี้ทำหน้าที่ควบคุมระบบ หากใครป่วยก็จะมีผลกระทบต่อกระบวนการผลิต ซึ่งอาจทำให้ส่งงานได้ไม่ตรงตามแผนที่วางไว้ได้

และการทำ “Bubble & Seal” ในโรงงานทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการตรวจเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พร้อมจัดที่พักให้ภายในโรงงาน ควบคู่กับแนะนำให้พนักงานที่มีอาการป่วยกักตัวที่บ้านตามคำแนะนำของแพทย์ (Home Isolation) เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19

ทั้งยังได้จัดเตรียมหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) สำหรับพนักงานที่ป่วย เพื่อให้เข้าถึงการรักษาที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็วที่สุด จึงทำให้ SCG สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

เขย่าพอร์ตลงทุนต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ทั้งการปรับสัดส่วนการขาย กระจายสินค้าไปยังตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยทั้งในและต่างประเทศ และเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งยังขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Merger & Partnership-M&P) รวมถึงการสร้างความร่วมมือใช้นวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin-PCR) เปลี่ยนขวดบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วจากครัวเรือนหมุนเวียนกลับมาผลิตเป็นขวดบรรจุภัณฑ์ใหม่ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นับเป็นการเร่งธุรกิจเข้าสู่เทรนด์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เติบโตสูง

พร้อมรุกเข้าสู่ธุรกิจระบบอัตโนมัติ (Automation System) เพื่อนำเสนอโซลูชันด้านออโตเมชันแก่ลูกค้า ซึ่งจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถและยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory 4.0)

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมดเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน PT. Chandra Asri Petrochemical Tbk (หรือ “CAP”) ประเทศอินโดนีเซีย 434 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือ 14,260 ล้านบาท) เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน CAP ที่ร้อยละ 30.57 โดยจะนำไปลงทุนในโครงการ Petrochemical Complex แห่งที่ 2 (CAP2) เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อขยายธุรกิจปิโตรเคมีไปยังอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดสินค้าปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและมีอัตราการเติบโตสูง

ขณะเดียวกัน SCG ห่วงใยสถานการณ์โควิดจึงเร่งช่วยเหลือคู่ค้า-คู่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ด้วยการขยายเวลาการชำระเงิน, ให้คำปรึกษานำเทคโนโลยีดิจิทัลมาบริหารจัดการภายในโรงงาน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง, ร่วมกับคู่ค้าจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับแยก-กัก-รักษาผู้ป่วยโควิด-19, สนับสนุนเครื่องใช้อุปโภคบริโภคสำหรับช่างภายในแคมป์ก่อสร้างของคู่ค้า รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำสินค้ามาจำหน่ายที่ร้านเอสซีจี โฮม SCGHOME.com และช่องทางของพันธมิตร เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และช่วยให้รักษาธุรกิจให้คงอยู่ต่อไปได้

SCG ได้เร่งพัฒนานวัตกรรมป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้น เกิดวิกฤตขาดแคลนเตียงสนามและห้องไอซียูสำหรับผู้ป่วยหนัก SCG ได้มอบเตียงสนามกระดาษกว่า 60,000 เตียงทั้งในไทยและต่างประเทศ และมอบห้องไอซียูโมดูลาร์ 60 เตียง รวมทั้งห้องผู้ป่วยฉุกเฉินโมดูลาร์ขนาด 10 เตียง เพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ บรรเทาความเดือดร้อนของผู้ป่วย

นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) และชุมชนกว่า 300 ราย ให้สร้างรายได้ พัฒนาอาชีพ แปรรูปสินค้า และเพิ่มช่องทางการขาย ผมขอเชิญชวนทุกท่านช่วยกันสนับสนุนสินค้า SMEs หากพวกเราช่วยเหลือกัน ก็จะนำพาประเทศรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้

ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจได้ยกระดับมาตรการ BCM ทั้งบริษัทในไทยและต่างประเทศให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในกระบวนการจัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิตและการขนส่ง รวมถึงการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น ปรับปรุงแผนการผลิตและขนส่งสินค้า รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถส่งมอบบรรจุภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าได้ทันต่อความต้องการ

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 ในอัตรา 8.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 10,200 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลวันศุกร์27 สิงหาคม 2564 กำหนดผู้ที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันศุกร์ 13 สิงหาคม 2564 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันจันทร์ 16 สิงหาคม 2564

Adblock test (Why?)


SCG โชว์แกร่ง Q2/64 กำไรโต 15% เข้มทำ Bubble & Seal สู้โควิด - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

โรงงานเริ่มทำ Bubble and seal จี้ขอวัคซีนจากรัฐให้แรงงาน ม.33 - ประชาชาติธุรกิจ

ส.อ.ท. เตรียมแนวทางการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ในภาคอุตสาหกรรม เผยโรงงานขนาดใหญ่เริ่มทำ Bubble and seal ในสถานประกอบการ และการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแบบ Community Isolation ขอรัฐเร่งหาวัคซีนให้แรงงาน ม.33 ในเดือน ส.ค. อีก 1.5 ล้านโดส 

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  จากการร่วมหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกระทรวงแรงงาน  โดย ส.อ.ท.ได้ชี้แจงถึงความเดือนร้อนด้วยสถานการณ์ตอนนี้คือแรงงานภาคอุตสาหกรรม ม.33 เคว้ง มีอัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างต่ำเพียงแค่ 10% เท่านั้นเพราะไม่มีวัคซีนให้ฉีด ขณะที่กระทรวงแรงงานเองจะพยายามจัดสรรให้ภายในเดือน ส.ค. 2564 นี้ 8 แสนโดส แต่ยังคงไม่เพียงพอ จึงขอเพิ่มเป็น 1.5 ล้านโดส ขณะเดียวกันก็ได้หารือกับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ขอวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติมอีก 

ทั้งนี้หลังจากที่ ส.อ.ท. ได้จัดตั้ง “คณะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19” อย่างเร่งด่วนภายใต้มาตรการ “ป้องกัน รักษา เยียวยา” เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สังคม สมาชิกและผู้ประกอบการไทยนั้น ส.อ.ท. ยังได้จัดเตรียมแนวทางการป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในภาคอุตสาหกรรม โดยจะเริ่ม 3 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.การจัดอบรมวิธีการใช้ชุดตรวจโควิดแบบเร่งด่วน ATK อย่างถูกต้อง โดยให้ตรวจอย่างน้อย 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

2.การจัดอบรมการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการด้วยการทำ Bubble and seal โดยไม่ต้องปิดโรงงานสำหรับสถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ส่วนสถานประกอบการที่มีพนักงานน้อยกว่า 200 คน แนะนำให้ใช้มาตรฐาน Thai Stop Covid ของกระทรวงอุตสาหกรรม และ 3.การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการรูปแบบ Community Isolation รับรองโดยสาธารณสุขจังหวัดและดูแลโดยโรงพยาบาลในสังกัดประกันสังคม ซึ่งสถานประกอบการแต่ละแห่งจะต้องมี Heathy Leader อย่างน้อย 2 คน 

นอกจากนี้ จะมีการนำระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (Exposure Notification Express: ENX) ที่พัฒนาขึ้นโดย Google และ Apple มาใช้เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดลดการติดเชื้อและการเสียชีวิต ซึ่ง ส.อ.ท. เสนอตัวเป็นผู้ดูแลระบบและประสานงาน โดยจะนำร่องเพื่อใช้งานในภาคอุตสาหกรรมก่อน

QR Code LINE@ Prachachat

ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat

ติดตามข่าวธุรกิจ

Adblock test (Why?)


โรงงานเริ่มทำ Bubble and seal จี้ขอวัคซีนจากรัฐให้แรงงาน ม.33 - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

มาร์ค พิทบูล ซัดแรง “ป๋าเทพ" ความรู้ต่ำ ควรหุบปาก กระจอก ทำอะไรก็เจ๊ง อย่าเลียให้มาก - ข่าวสด

มาร์ค พิทบูล อัดคลิป ซัดแรงถึง “ป๋าเทพ” ควรตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงา ชี้ความรู้ต่ำ ควรหุบปาก กระจอก ด่าประชาชน อย่าเลียให้มาก ทำอะไรก็เจ๊ง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

กลายเป็นดราม่าเดือดถล่มยับ หลัง “ป๋าเทพ หรือ เทพ โพธิ์งาม” ออกมาด่าหยาบคนรุ่นใหม่ ที่ชูสามนิ้ว รวมถึงชื่นชมการทำงานของรัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าทำงานโอเคกว่าชุดก่อน และระบอบไทยดีที่สุดในโลก

ด้าน มาร์ค พิทบูล หรือ มาร์ค ณัชพล สุพัฒนะ ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล และ เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ที่หลายคนรู้จักในนามนักวิจารณ์ทางสังคม

ก็ได้ออกมาจัดหนัก “ป๋าเทพ” ผ่านเพจเฟสบุ๊ก DUDUN บอกว่า … “ป๋าเทพ หุบปากดีกว่า ควรตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงา”

ป๋าเทพเป็นคนมีชื่อเสียงจากการขายความไร้สาระ ป๋าจะโกรธผมก็ไม่ว่า เพราะผมเป็นคนที่ชื่นชอบป๋าตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆ

คุณมีแต่เรื่องไร้สาระ ทำให้คนขำไปวันๆ แต่เรื่องบางเรื่อง ป๋าเทพไม่รู้ ป๋าเทพควรหุบปาก อดีตที่ผ่านมา ป๋าเทพมีกินมีใช้ ก็เพราะประชาชน เพราะฉะนั้นอย่าด่าประชาชน

เป็นดาราจะเสือกด่าประชาชน ประชาชนวิจารณ์ยังไงก็ต้องทน เพราะอาชีพคุณ ถ้าไม่มีประชาชนคุณไม่มีแดกหรอก เอาแค่นี้ละกัน

ป๋าเทพ ทำธุรกิจอะไรก็เจ๊ง การมีชื่อเสียง การเป็นคนดัง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะประสบความสำเร็จไปซะทุกเรื่อง นายกคนนี้ ถ้าป๋าเทพบอกว่าเก่ง ก็เหมือนป๋าเทพนั่นแหละ

เล่นตลกขายความไร้สาระจนรวย ทำธุรกิจก็เจ๊งหมด เห็นไหม เพราะเรื่องบางเรื่องมันสำหรับมืออาชีพ ไม่ใช่มือสมัครเล่น เพราะฉะนั้น แก่แล้วอย่าเลอะเทอะ

เอาชีวิตของตัวเองให้รอด ทุกวันนี้มีงานแสดงหรือเปล่า ล่าสุด ธุรกิจขายขนมเปี๊ยะ เจ๊งหรือยัง เรื่องบางเรื่องไม่เสือกดีสุด

ถ้ามีปัญหาด่ามาก็ได้ผมรับประกันไม่ฟ้องกลับ เพราะผมถือว่าโอเค แฟร์เกม เพราะฉะนั้น อย่าด่าประชาชน กระจอก! อย่าเลียให้มาก ตอนนี้คนตายเป็นเบือ

ผมรอแล้วกัน ถ้าป๋าไม่พอใจผม จัดมาเลยสักคลิปนึงยาวๆ เดี๋ยวสวนให้ ถ้าป๋าเหงาเดี๋ยวจัดให้

บางทีป๋าเทพไม่มีความรู้ เป็นคนความรู้ต่ำ แต่โอเค ด้วยความมีพรสวรรค์ในการเป็นศิลปิน เล่นตลกฮาดีหน้าตาย มีมุขรับมุกอะไรได้เร็ว แต่ว่าเรื่องของการบริหาร มันคนละเรื่องกันนะ

ป๋าเทพสอนใครไม่ได้หรอก เล่นตลกให้คนหัวเราะอ่ะดีแล้ว อย่าทำให้คนเครียดเลย

Adblock test (Why?)


มาร์ค พิทบูล ซัดแรง “ป๋าเทพ" ความรู้ต่ำ ควรหุบปาก กระจอก ทำอะไรก็เจ๊ง อย่าเลียให้มาก - ข่าวสด
Read More

Thursday, July 29, 2021

Cooking at Home 'น้ำพริกอ่อง' แสนง่ายใครทำก็อร่อย - กรุงเทพธุรกิจ

30 กรกฎาคม 2564 | โดย หมูหวานชวนชิม

11

ล็อกดาวน์ มีทีท่าว่าจะยาวนาน ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปแอ่วเมืองเหนือ แม้แต่จะออกไปรับประทาน “อาหารเหนือ” แถวๆบ้านก็ยังหวั่น “โควิด-19” ว่าแล้วเข้าครัวลงมือทำ น้ำพริกอ่อง แบบง่ายๆกันดีกว่า

162761955328

"น้ำพริกอ่อง" เมนู Cooking at Home ในวัน "ล็อกดาวน์"

ช่วง “ล็อกดาวน์” วันนี้หมูหวานจะมาชวนเข้าครัว Cooking at Home ทำ น้ำพริกอ่อง เมนูยอดนิยมของภาคเหนือของประเทศไทย หนึ่งในอาหารประจำสำรับ หรือ “ขันโตก”พื้นเมือง ที่มักจะมี “น้ำพริกอ่อง” แคบหมู, หมูยอ,แหนม,ไส้อั่ว,น้ำพริกหนุ่ม, ลาบหมู, แกงฮังเล ฯลฯ  วันนี้เราจะมาทำเมนู “น้ำพริกอ่อง” ที่มีส่วนผสมหลักคือ หมูสับ และ มะเขือเทศ รับประทานแกล้มกับผักสด หรือผักนึ่ง ถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะ “มะเขือเทศ” มีวิตามินเอ โปแตสเซียม  ฟอสฟอรัส แมกนีเซี่ยมและแร่ธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด เช่นไลโคปีน บำรุงผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส

162761955279

ส่วนประกอบเมนู "น้ำพริกอ่อง" 

อีกส่วนสำคัญของเมนู “น้ำพริกอ่อง” นั่นก็คือ “น้ำพริก” มีส่วนประกอบก็คือ พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ และถั่วเน่า หลายคนได้ยินชื่อ “ถั่วเน่า” แล้วรู้สึกแปลกใจ ทว่าพอทราบกรรมวิธีการทำแล้วก็จะสามารถเข้าใจได้ว่าไม่ได้น่ารังเกียจ เป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของชาวเหนือ ซึ่งถั่วเน่าทำมาจาก “ถั่วเหลือง” นำไปต้มจนเปื่อย จากนั้นนำไปหมัก แล้วบดละเอียด ทำเป็นแผ่นกลมๆ บางเฉียบ ตากแห้งเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน พอจะปรุงอาหารก็นำมาปิ้งไฟจนเหลืองกรอบสุกทั้งแผ่น ใช้โขลกรวมกับส่วนประกอบอื่นๆของ “น้ำพริก” มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารเช่นโปรตีนจากพืช ใน “ถั่วเน่า” มีเอนไซม์ ช่วยให้เลือดไม่จับตัวเป็นก้อน  เสริมสร้างกระดูกและฟันแข็งแรง เพราะมีแคลเซียมสูง มีวิตามินอี มีสารเลซิตินสูง มีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำและไขมันบริเวณผิวหนัง ฯลฯ เป็นต้น

162761955281

ขั้นตอนแรก : เทน้ำมันพืชลงในกระทะ 

ว่าด้วยเรื่อง Cooking at Home ในวัน “ล็อกดาวน์” เรามาเตรียมส่วนประกอบในการทำ น้ำพริกอ่อง กันดีกว่า อันดับแรกก็คือ “หมูสับ” ถัดมาเป็น “มะเขือเทศ” ที่เหลือเป็น “น้ำพริก” (พริกแห้ง โขลกกับกระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ และถั่วเน่า) “กระเทียม” “น้ำมันพืช” และ เครื่องปรุงรส “ซีอิ๊วขาว”

162761955294

ขั้นตอนที่สอง : ใส่กระเทียมสับ หรือโขลกลงไป 

162761955274

เจียวกระเทียมให้สุกมีสีเหลืองทองหอมกรุ่น

162761955276

นำน้ำพริกลงไปผัดคลุกเคล้า

162761955339

ใส่หมูสับลงไปผัดกับน้ำพริก

162761955383

พอหมูเริ่มสุกเข้ากันกับน้ำพริกแล้วใส่มะเขือเทศลงไป 

162761955381

ผัดหมูสับและมะเขือเทศคลุกเคล้าให้เข้ากัน

162761955374

ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ปิดฝา เพื่ออบให้มะเขือเทศสุกเร็วขึ้น 

162761955378

หั่นผักชีต้นหอมเตรียมโรยหน้า "น้ำพริกอ่อง"

162761955399

ตักน้ำพริกอ่องใส่ชามโรยหน้าด้วยผักชีต้นหอม เสิร์ฟพร้อมผักเคียง 

Cooking at Home กับเมนู “น้ำพริกอ่อง” วันนี้แสนง่าย ใครทำก็อร่อย หากต้องการงดเว้นเนื้อสัตว์ เปลี่ยนจาก “เหนือหมู” เป็นเต้าหู้ หรือ ไข่ไก่ก็ได้นะคะ สุดท้ายตัก “น้ำพริกอ่อง” ใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอมซอย รับประทานแกล้มกับผักสดตามชอบ เช่น แตงกวา ผักกาดขาว มะเขือเปราะ ถั่วพู ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด หรือจะแกล้มกับผักนึ่ง เช่น กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ฟักทอง ฯลฯ ก็อร่อยอย่างมีคุณค่าในวัน “ล็อกดาวน์”

162761955476

หากต้องการงดเนื้อสัตว์ เปลี่ยนจาก "หมูสับ" เป็นเต้าหู้อ่อน หรือ "ไข่ไก่" ก็ได้นะคะ

162761955467

"น้ำพริกอ่องเต้าหู้อ่อน" 

Adblock test (Why?)


Cooking at Home 'น้ำพริกอ่อง' แสนง่ายใครทำก็อร่อย - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

10 วิธีป้องกัน “โควิด-19” ทำทันทีเมื่อไปข้างนอกแล้วกลับถึงบ้าน - Sanook

หากออกไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปใกล้ไกลแค่ไหน ควรปฏิบัติตามนี้ เพื่อป้องกันโควิด-19 ที่เข้ามาใกล้เรามากขึ้นทุกทีๆ

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะแนวทางปฏิบัติ 10 ประการ สำหรับทุกบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 เข้าบ้าน ย้ำให้ทุกคนปฏิบัติทันทีหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนอกบ้าน อาทิ ทำความสะอาดรถยนต์ ถอดรองเท้านอกบ้าน ล้างมือฟอกสบู่นานไม่น้อยกว่า 20 วินาที ไม่สัมผัสสัตว์เลี้ยง หรือคนในบ้านก่อนอาบน้ำ เผยขณะนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 มีการแพร่กระจายในวงกว้าง อาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย

จากการสอบสวนโรคในผู้ที่ติดเชื้อ มีข้อสังเกตพบว่าผู้ติดเชื้อไม่สามารถระบุพิกัดหรือแหล่งของการติดเชื้อเหมือนที่ผ่านมาได้ ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงมุ่งเน้นที่การป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโควิดเข้าสู่บ้านเรือนที่พักอาศัยทุกประเภทให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บ้านหรือที่พักเป็นพื้นที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อ จึงขอแนะแนวทางปฏิบัติ 10 ประการ เพื่อให้ประชาชนนำไปปฏิบัติทันทีหลังจากออกไปทำกิจกรรมหรือทำธุระนอกบ้าน เนื่องจากขณะอยู่นอกบ้านอาจสัมผัสเชื้อโรคโควิด-19 และนำเชื้อเข้ามาสู่ในบ้านหรือที่พักอาศัยโดยไม่รู้ตัว โดยขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. ทำความสะอาดรถยนต์ทุกครั้งหลังใช้งาน โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอกทั่วไปหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดทำความสะอาดที่ปิดเปิดประตูรถและห้องโดยสารภายในเช่น เบาะที่นั่ง พวงมาลัย ปุ่มเปิด-ปิดแอร์ วิทยุ เป็นต้น     
  2. เก็บรองเท้าไว้นอกบ้าน นอกห้อง
  3. ถอดหน้ากากอนามัยใส่ถุงให้มิดชิด และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดแยกเฉพาะ
  4. เช็ดทำความสะอาดกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาข้อมือ แว่นตา กุญแจบ้าน กุญแจรถ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
  5. ล้างมือฟอกสบู่นานอย่างน้อย 20 วินาที 
  6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของในบ้านหรือนั่งบนเก้าอี้ โซฟา ก่อนอาบน้ำ
  7. ไม่สัมผัสสัตว์เลี้ยง หรือบุคคลในบ้าน ก่อนอาบน้ำ
  8. แยกเสื้อผ้าที่ใส่ไปนอกบ้าน ออกจากเสื้อผ้าที่ใช้ใส่ในบ้าน ไม่ให้ปะปนกัน
  9. อาบน้ำสระผมทันที
  10. เมื่อรับประทานอาหารร่วมกันกับสมาชิกในบ้าน ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัวตักอาหาร      

นายแพทย์โสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อปฏิบัติ 10 ประการที่กล่าวมา จะเสริมกับมาตรการของรัฐบาล และขอให้ลดการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือจากประชาชน จะสามารถชะลอการติดเชื้อรายใหม่ได้ โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสารคำแนะนำของกรมควบคุมโรคได้ที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค และเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Adblock test (Why?)


10 วิธีป้องกัน “โควิด-19” ทำทันทีเมื่อไปข้างนอกแล้วกลับถึงบ้าน - Sanook
Read More

พระครู เชิญวิญญาณ เมียฝรั่ง เผยต้องทำพิธี 3รอบ ตร.เจอเรื่องแปลก - ข่าวสด - ข่าวสด

พระครู ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เมียฝรั่ง ถูกฆ่าทิ้งไร่ข้าวโพด เผยสิ่งผิดปกติ ต้องทำพิธีถึง 3 รอบ ด้าน พนักงานสอบสวน เล่าเรื่องแปลก ก่อนวันผู้ต้อ...