จากข้อมูลระบุว่า เมื่อปี 2551-2552 รัฐบาลอินเดียจัดสรรงบประมาณด้านบริการสาธารณสุขไว้น้อยมาก อยู่ที่ 1.28% ของตัวเลขจีดีพี แม้จะเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนอย่างมาก แต่ก็ยังน้อยจนน่าตกใจ เทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ 17% ซึ่งนี่เป็นตัวเลขงบประมาณสำหรับใช้เพียงพอเฉพาะในยามสถานการณ์ปกติเท่านั้น เรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาที่รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างยาวนาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เคยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณด้านบริการสาธารณสุขให้มาอยู่ที่ 2.5% ภายในปี 2568
ข่าวแนะนำ
ระหว่างปี 2552-2553 อินเดียมีแพทย์โดยเฉลี่ย 1 คนต่อประชากร 1,456 คน แต่ถ้าไปดูตามเมืองเล็กๆ เมืองในชทบทพื้นที่ห่างไกล สถานการณ์จะเลวร้ายกว่านั้นมาก ประชาชนที่เจ็บป่วยต้องเดินทางหลายสิบกิโลเมตรไปรักษายังอนามัยชุมชนเล็กๆ ที่ขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ อย่างในรัฐอุตรประเทศ ในระดับหมู่บ้านที่มีคนอยู่เป็นหมื่นคน แต่มีศูนย์บริการสาธารณสุขขนาดเล็กไว้รองรับเพียง 5 แห่ง หมอ พยาบาล ก็ไม่เพียงพอ ส่วนในกรุงนิวเดลี ซึ่งมีประชากร 20 ล้านคน มีเตียงผู้ป่วยไอซียูเพียง 5,000 เตียง
อินเดียผลิตออกซิเจนเพียงพอหรือไม่
ความต้องการใช้ออกซิเจนในอินเดียจะพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้ป่วย ล่าสุดมีความต้องการใช้ออกซิเจนกว่า 14 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อินเดียสามารถผลิตออกซิเจนที่ใช้ตามรพ. และใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้วันละกว่า 7,000 ตัน ซึ่งนับว่าเพียงพอ แต่สาเหตุที่ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ไม่มีออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย เป็นเพราะเกิดปัญหาคอขวดในระบบการขนส่งและจัดเก็บ โดยออกซิเจนเหลว (Liquid oxygen-LOX) เป็นออกซิเจนในรูปของเหลวอุณหภูมิต่ำมาก ต้องขนส่งด้วยรถบรรทุกถังแช่แข็ง ก่อนนำไปส่งแล้วค่อยไปแปลงเป็นก๊าซบรรจุถัง
ปรากฏว่าอินเดียมีรถบรรทุกถังแช่แข็งไม่เพียงพอ และยังต้องขนส่งด้วยรถชนิดพิเศษนี้ทางถนนเท่านั้น ไม่สามารถขนส่งทางอากาศได้เพื่อความปลอดภัย
สิทธารถ ไช ผู้จัดการของ Inox Air Products หนึ่งในบริษัทขนส่งออกซิเจนทางการแพทย์รายใหญ่ของอินเดีย เปิดเผยว่า ขณะที่ผู้ผลิตออกซิเจนของอินเดียส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ส่วนพื้นที่แพร่ระบาดหนักคือนครมุมไบ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตก และกรุงนิวเดลี ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือ ทำให้ระบบการขนส่งต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการเร่งด่วนมากที่สุด
ขณะที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่ได้มีโรงงานออกซิเจนอยู่ใกล้เคียง เพราะไม่มีงบประมาณเพียงพอ เนื่องจากต้องใช้ต้นทุนสูงและต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แม้ว่าเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วรัฐบาลจะมีแผนให้เอกชนเปิดประมูลสร้างโรงงานออกซิเจนในพื้นที่ใกล้โรงพยาบาล แต่แผนการก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ ผู้ป่วยอาการโคม่าจำนวนมากต้องเสียชีวิตระหว่างรอเครื่องช่วยหายใจ
ความพยายามในการแก้ปัญหา
รัฐบาลนำเข้าเครื่องผลิตออกซิเจนเคลื่อนที่รวมไปถึงรถบรรทุกถังแช่แข็ง ตั้งโรงงานขนาดเล็กกว่า 500 แห่งตามเมืองต่างๆ ส่ังห้ามอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้ออกซิเจนเหลว จัดเส้นทางขนส่งออกซิเจนโดยรถไฟไปยังพื้นที่โควิดระบาดหนัก นอกจากนี้ยังระดมกำลังทหารช่วยเหลือเรื่องการขนส่งออกซิเจนในประเทศ และรับออกซิเจนจากต่างประเทศ
ขณะที่จนถึงตอนนี้หลายประเทศเริ่มทยอยจัดส่งออกซิเจนเหลว รถบรรทุกถังออกซิเจน เครื่องผลิตออกซิเจน และเครื่องช่วยหายใจ เพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนอย่างหนักของอินเดียในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามแก้ปัญหาระบบการผลิต และขนส่ง แต่ปัญหาขาดแคลนออกซิเจนยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของอินเดีย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 400,000 ราย ในรอบ 24 ชม. ขณะที่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา อินเดียมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3,684 ราย เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ผู้ป่วยจำนวนมากยังคงนอนรอออกซิเจน และเสียชีวิตไม่กี่วันหลังจากที่ได้แอดมิทเข้ารพ.
ในโซเชียลมีเดียของอินเดียมีประชาชนจำนวนมากโพสต์ข้อความหาซื้อถังออกซิเจน มีคนขายออกซิเจนราคาสูงลิ่วในตลาดมืด ประชาชนส่วนใหญ่ต่างโกรธแค้นกับภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเพราะรัฐบาลไม่มีการวางแผนที่ดี เพราะหากมีการเตรียมพร้อมรับมืออย่างดี ประชาชนคงไม่ต้องรับกรรมป่วยแล้วไม่มีเตียงรพ. ไม่มีออกซิเจนช่วยประคับประคองอาการ
การเตรียมพร้อมรับมือของรัฐบาล
สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นของอินเดีย รายงานว่า คณะกรรมการด้านสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว เคยออกรายงานเมื่อเดือนพ.ย.2563 และได้นำเสนอรายงานฉบับนี้ต่อราชสภา (วุฒิสภา) และโลกสภา (รัฐสภา) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ที่รุนแรงกว่ารอบแรกอย่างมาก และในครั้งนี้จะเกิดวิกฤติขาดแคลนออกซิเจน ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์
โดยในวันที่นำเสนอรายงานต่อทั้งสองสภา อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 45,301 ราย ต่อมาในวันที่ 27 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 3 แสนราย และเมื่อวันที่ 1 พ.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 4 แสนราย คณะกรรมการฯระบุว่า รัฐบาลไม่ออกมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันประชาชนออกมาชุมนุมกัน ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดรุนแรง นอกจากนี้ในการจัดสรรงบประมาณยังไม่มีการมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบเฉพาะเจาะจง
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางวิกฤติขาดแคลนออกซิเจน บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น ทั้งในศูนย์อนามัยชุมชน และตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่.
ผู้เขียน : เพ็ญโสภา สุคนธรักษ์
ข้อมูล : Free Press Journal Aljazeera Worldometer
ผ่าวิกฤติอินเดียขาดออกซิเจน เตียงรพ. วัคซีนไม่พอ ทำโควิดรอบ 2 ตายเป็นใบไม้ร่วง - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment