นศพ.เล่า ถูกเกณฑ์ไปทำอาสา 1668 จนรบกวนการเรียน พอวิจารณ์กลับ ถูกฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ ค่อนแคะ ว่า ไม่ควรเป็นแพทย์ ทั้งที่ปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอมาจากรัฐที่บริหารจัดการล้มเหลว
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 โซเชียลมีเดียทวิตเตอร์มีการรีทวีต ข้อความของบัญชีผู้ใช้หนึ่ง ที่ระบุว่า ตนเองเป็นนิสิตนักศึกษาแพทย์ ที่ถูกเกณฑ์ไปทำจิตอาสา ‘1668’ แม้ว่าจะรบกวนการเรียน แต่ก็ยอมทำ แต่เมื่อทำจิตอาสา ไปพร้อม ๆ กับวิจารณ์การจัดการระบบที่ล้มเหลวของรัฐ กลับถูกชาวเน็ตบางกลุ่มจำนวนหนึ่งเข้ามาค่อนแคะ
ทวีตดังกล่าว เริ่มจากที่ นิสิตนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง วิจารณ์การจัดการระบบที่ล้มเหลวของรัฐ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการบุคลากรได้ จนเข้ามารบกวนการเรียนของนิสิตนักศึกษาแพทย์ ทำให้เริ่มตั้งคำถามว่า หน้าที่ของนิสิตนักศึกษาแพทย์ในเวลานี้คือการตั้งใจเรียน และเรียนรู้จากวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด แต่การถูกเกณฑ์ไปทำจิตอาสา จนรบกวนเวลาเรียน โดยที่ค่าเล่าเรียนก็ยังต้องจ่ายเต็มจำนวน วัคซีนก็ยังไม่ได้รับการฉีด และ เพราะเหตุใดเมื่อบุคลากรไม่พอ ต้องผลักภาระมาให้นิสิตนักศึกษาแพทย์ พร้อมย้ำว่า แม้ว่าจะวิจารณ์ก็ยินดีทำ เพราะได้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก แต่ไม่มีเหตุผลในการห้ามนิสิตนักศึกษาแพทย์ตั้งคำถาม
โดยระบุข้อความ ดังนี้ “สรุปที่ให้นิสิตแพทย์ไปทำ 1668 นี่เรื่องจริงนะ คือจริงๆก็ช่วยได้คงช่วยแหละ แต่ก็สงสัยว่าหน้าที่กูเหรอ ค่าเทอมก็จ่าย วัคซีนก็ให้กูทีหลัง เรียนก็อดเรียนเพราะมึง ยังจะให้ไปทำงานให้มึงอีกเหรอ พวกมึงทำอะไรบ้างอะ ทำไมนิสิตเป็นคนรับผิดชอบหมดเลยวะ 55555 ส้นตีนนะค้าบบบ”
หลังจากทวีตข้อความเหล่านี้ ก็ถูกผู้ใช้ทวิตเตอร์ในฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาพูดจาค่อนแคะ เช่น ต่อไปคงจะเป็นแพทย์ที่มีอคติ ต่อไปคงจะเป็นแพทย์ที่ขาดน้ำใจและเมตตา ควรไปเปลี่ยนอาชีพดีกว่า เป็นต้น
เจ้าของทวิตเตอร์จึงทวีตข้อความต่อเพื่อตอบโต้ ดังนี้ “ไม่เคยบอกว่าจะไม่ทำครับ ยินดีทำ แต่ควรตั้งคำถามได้แล้วครับ ว่าการผลักภาระมาแบบนี้มันถูกต้องแล้วจริงๆเหรอ มีเวลาเตรียมการตั้งนานไม่เตรียมสุดท้ายมาโยนให้คณะจัดการ คุณคิดว่าสิ่งนี้คือการทำงานที่มีประสิทธิภาพเหรอครับ ตรรกะที่บอกว่าไม่พอใจไม่ต้องทำเนี่ย ไปพักนะครับ ไม่พอใจก็จะทำครับ
ถ้าจะบอกว่าไม่มีจิตอาสา จรรยาบรรณแพทย์เสื่อมเสีย ผมคิดว่าคุณคงต้องคิดใหม่ เพราะการด่ารัฐบาลและการบ่นไม่ได้ผิดจรรยาบรรณครับ สุดท้ายคนที่ไม่ทำในส่วนนี้ก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวครับ เป็นสิทธิ์ที่เค้าจะทำได้ เค้าอาจจะไม่มีน้ำใจแต่เค้าไม่สมควรที่จะโดนด่าครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆ มีคนๆนึงมาขอเงินคุณ แต่คุณไม่ให้ คุณไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวครับ คุณอาจจะแค่ไม่ไ้มีน้ำใจให้เค้า และคุณก็ไม่ได้ผิดครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะไม่ให้เงินเค้า รบกวนเอากลับไปคิดและวิเคราะห์ทีครับ คนเราสามารถฉลาดขึ้นได้ในทุกช่วงวัยครับ”
โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาสนับสนุนการตั้งคำถามต่อการทำงานและประสิทธิภาพในการจัดการวิกฤตของรัฐบาลที่ล้มเหลว เช่น “ถ้าอยากให้นิสิตนักศึกษาแพทย์ทำงานก็ควรจ้าง”, “มีผู้ที่เหมาะสมกว่าในการทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลไม่สามารถจัดสรรบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ได้ หน้าที่นิสิตนักศึกษาแพทย์คือทุ่มเทให้การเรียนจนเติบโตเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ไม่ควรสละเวลา มาทำหน้าที่นี้ ซึ่งรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์คนอื่น ๆ ด้วย”
“ในต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลี ทีมงานที่ทำหน้าที่รับสายก็ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงที่ เนเธอร์แลนด์ ก็จ้างงานผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์มาทำงานเป็นผู้ประสานงาน และให้ค่าแรงจำนวนมาก โดยให้ค่าแรงเป็นรายเคส”, “มีเวลาหนึ่งปีกว่าแต่แผนรองรับโควิดที่ข้าราชการภายใต้รัฐบาลนีคิดได้คือขอแรงนักศึกษามาช่วยงานข้าราชการประจำรับโทรศัพท์แล้วใช้กระดาษจดๆเอา กู้เงินมาจัดการโควิตตั้งเท่าไหร่ จริงๆควรถูกด่ามากกว่านี้อีกนะ”
“แพทย์จ่ายค่าเทอม ที่แม้ว่าจะมีภาษีจากประชาชนมาอุดหนุนก็จริง แต่ สุดท้ายเมื่อเรียนจบ แพทย์ทุกคนก็ต้องออกมาทำงานใช้ทุน ตามสัญญาที่ผูกมัดไว้ ถ้าไม่ได้ทำ ก็ต้องจ่ายค่าทุนคืนเป็นเงินจำนวนมาก และส่วนมาก แพทย์ที่ออกไปจากวงการแพทย์ ไม่ใช่เพราะไม่อยากช่วยประชาชนค่ะ แต่ทนระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้ ในทางกลับกัน รัฐบาลเองก็ใช้ภาษีประชาชน มากกว่าค่าเรียนแพทย์หลายเท่า แต่คนก็ติดเชื้อยังเพิ่มมากกว่า วันละ 2,000 คน” เป็นต้น
นศ.แพทย์ มึน! ถูกเกณฑ์ไปทำอาสา 1668 รบกวนเรียน พอบ่น ถูกคนเชียร์ลุงแซะ - ข่าวสด
Read More
No comments:
Post a Comment