Rechercher dans ce blog

Tuesday, May 31, 2022

“ยิ่งลักษณ์”สวน“ประยุทธ์”บริหารไม่เป็นทำหนี้พุ่ง-จำนำข้าวไม่เกี่ยว - กรุงเทพธุรกิจ

“ยิ่งลักษณ์”สวน“ประยุทธ์”บริหารไม่เป็น 8 ปี หนี้สาธารณะพุ่ง 4.4 ล้านล้านบาท ยันโครงการจำนำข้าวไม่เกี่ยว ซัดเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ได้

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม อภิปรายชี้แจงการจัดสรรงบประมาณ 2566 ระหว่างการประชุมสภาเมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยระบุถึงการใช้หนี้จำนำข้าว 9.5 แสนล้านบาท

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า จากที่คุณประยุทธ์ชี้แจงในการอภิปรายงบประมาณปี 2566 และได้มีการพาดพิงรัฐบาลดิฉันว่าต้องใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าวไปแล้วกว่า 7 แสนล้านบาท รู้สึกได้ทันทีว่าเป็นคำกล่าวหาเดียวกันที่เคยใช้มาเมื่อหลายครั้ง ซึ่งดิฉันก็ได้ชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 
 

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ดิฉันจึงอยากขอฝากอะไรไว้ให้เป็นแง่คิดระหว่างพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีว่า แม้รัฐบาลดิฉันถูกโจมตีอย่างหนักว่า “สร้างหนี้” ทั้งๆ ที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่เพียง 45.91% แต่หลังรัฐประหารผ่านไป 8 ปี หนี้ได้พุ่งขึ้นไปที่ 60.58% โดยรัฐบาลคุณประยุทธ์จัดทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้นๆ ทุกปี
 

“หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐบาลยังมีแผนการก่อหนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไร้ยุทธศาสตร์ของการเพิ่มรายได้ ผิดหลักการที่ต้องใช้เงินกู้เพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และเมื่อขณะนี้ประชาชนไม่มีรายได้เพิ่ม หนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เพียงพอ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณลง”

“ดิฉันจึงขอตั้งคำถามไว้ว่าการที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหายของรัฐบาลคุณประยุทธ์ เป็นเพราะโครงการรับจำนำข้าว หรือบริหารงานไม่เป็น หากมองย้อนกลับไปดิฉันก็ยังคงภูมิใจที่ได้บริหารประเทศภายใต้หลักการที่เพิ่มเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชน พร้อมกับสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น จนสามารถประกาศว่าจะทำงบประมาณให้สมดุลได้ใน ปี 2560 แตกต่างจากรัฐบาลปัจจุบันที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งและความหวังของประชาชนได้แม้แต่น้อยค่ะ” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
 

Adblock test (Why?)


“ยิ่งลักษณ์”สวน“ประยุทธ์”บริหารไม่เป็นทำหนี้พุ่ง-จำนำข้าวไม่เกี่ยว - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

อดีตดีเจหันเปิด 'ฟาร์มควาย' ทำเงินหลักล้าน! - กรุงเทพธุรกิจ

ขณะที่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนไม่ว่าอาชีพใดหลากหลายอาชีพ ต่างได้รับผลกระทบมายาวนานกว่า 3 ปี ที่ผ่านมา ความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอาชีพประจำที่เคยทำมา บางคนก็พลิกปรับเปลี่ยนให้เป็นโอกาส บางคนเสียโอกาส

อีกมุมของสาวอาชีพดีเจ หรือนักจัดรายการมืออาชีพ ที่ใครๆก็รู้จักนักจัดรายการนอกจากเสียงดี ยังเป็นนักพูดมืออาชีพที่คอยให้กำลังใจในการสู้ชีวิตกับประชาชนหลากหลายอาชีพ เองก็ต้องต่างหาวิธีการทำให้ตนเองมีแนวทางสู้ชีวิต อย่างดีเจ “กุ้งนาง” แห่งเมืองชัยภูมิ

หรือ น.ส.วิรัญญา ผาแดง หรือ ดีเจกุ้งนาง ในปัจจุบันท่ามกลางภาวะโควิด-19 ระบาด ซึ่งกลายมาเป็นเจ้าของ “กุ้งนางฟาร์มควายงามเมืองพญาแล” ซึ่งตั้งอยู่ถนน 201 ชัยภูมิ-ขอนแก่น กม.5 ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เป็นฟาร์มเลี้ยงวัวและควายงาม บนพื้นที่ดินเดิมของตนเองมีเพียงไม่กี่ไร่ ในช่วงประมาณ 2-3 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กลับได้มีการขยับขยายพื้นที่ฟาร์มในปัจจุบันกว้างเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบไร่ เพื่อเป็นพื้นที่เลี้ยงวัวและควายงาม ที่ปัจจุบันมีมูลค่ารวมสูงกว่า 50 ล้านบาท

ซึ่ง ดีเจกุ้งนาง เล่าให้ฟังเพื่อเป็นวิทยาทานว่า ตนเองเดิมเป็นคนจังหวัดอุดรธานี แล้วได้แบ่งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู ครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรมฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร ได้ใช้ชีวิตเป็นสาวโรงงานเย็บผ้าอยู่ใ่นเมืองหลวง ตลอดระยะของการทำงานตนจะคิดถึงและหวังจะเป็นเฒ่าแก่หรือเจ้าของกิจการให้ได้ ต้องพยายามอดทนมุมานะ หากชอบอะไรก็จะทำให้สำเร็จโดยรู้ให้จริง สิ่งไหนที่ไม่ชอบหรือทำไม่ได้ก็จะไม่ทำให้เสียเวลา หากทำจะต้องทำให้ดีที่สุด นี้เป็นสิ่งที่ตนเองคิดเป็นคติเตือนในมาโดยตลอด

ต่อมาได้มีโอกาสมาทำงานที่จังหวัดชัยภูมิ ได้เป็นเฒ่าแก่ร้านเย็บผ้าร้านใหญ่ในจังหวัดชัยภูมิ อย่างที่ตั้งใจไว้ จนกระทั่งมีโอกาสมาเป็นนักจัดรายงานวิทยุ อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ อีกด้วย ก็ได้ผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายเองสร้างรายได้เป็นจำนวนมากมาต่อเนื่อง

แต่ในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 รวมทั้งด้านการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ทางวิชาชีพของสถานีวิทยุ ต่างเกิดขึ้นมาตามมากขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการสื่อสารทางโลโซเชียลมีความหลากหลายมากขึ้น แต่รายได้กลับลดลง ตนเองซึ่งเป็นคนชอบการเกษตรและธรรมชาติ ที่มีความหวังอยากทำอยู่ในใจมานานอยู่แล้ว

พร้อมกับพอมีโอกาสที่มีเครือข่ายพี่ๆเพื่อนๆในกลุ่มการเลี้ยงวัว ตนจึงได้รวบรวมเงินทุนที่ได้เก็บจากอาชีพนักจัดรายการวิทยุหรือดีเจ มาซื้อที่ดินและปรับเป็นโรงเรือนเลี้ยงวัว ในช่วงระยะสั้นๆก็สามารถสร้างรายได้จากการเลี้ยงวัวพันธุ์ขายได้เป็นอย่างดีมาต่อเนื่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งคนอย่างไรก็ต้องกิน หรือรับประทานอาหาร การทำเกษตรเกี่ยวกับแหล่งต้นทุนอาหารก็ไม่มีผลกระทบมากเท่าที่ควร

จนเกิดการเลี้ยงวัวสร้างชื่อเสียงฟาร์มวัวพันธุุ์ดีให้กับพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และเมื่อช่วงประมาณ 1- 2 ปี ได้มีกระแสการเลี้ยง กระบือ หรือ ควายสวยงาม สายพันธุ์ที่มีผู้ซื้อเพื่อการปรับปรุงสายพันธุ์ในราคาที่สูงมากในหลักแสนถึงล้านบาท

ตนเองเห็นน่าจะเป็นจังหวะที่ดี ที่มีพื้นฐานการเลี้ยงวัวอยู่แล้วจึงได้ทดลองซื้อมาเลี้ยง แรกๆก็ซื้อควายพันธุ์ไทยโดยเลี้ยงแบบบ้านๆ หลังจากนั้นก็ได้คิดเลี้ยงแบบจริงจัง โดยการศึกษาจากช่องยูทูปและทางสื่อโซเชียลอื่นๆให้เป็นประโยชน์ตามยุคสมัยด้วยเช่นกัน เพื่อนำมาปรับทดลองจนสามารถได้ควายที่มีราคาสูง หลังจากนั้นจึงได้ควายที่มีสายพันธุ์ดีราคาแพงและมีชื่อเพื่อนำมาดูแล โดยรักเหมือนลูกของตนเองเลยทีเดียว

เพราะต้องมีการฝึกดูแลและนำสู่การประกวดในสนามต่างๆ จนกระทั่งได้รับรางวัลพระราชทาน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 งานเทศกาลควายไทย ครั้งที่ 10 ลุ่มนํ้าสะแกกรัง กระบือดังอุทัยธานี ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย ณ จังหวัดอุทัยธานี ที่ผ่านมา และเป็นผลให้ควายที่กุ้งนางฟาร์มควายงามเมืองพญาแล เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ จนขณะนี้มีผู้ให้ราคาควายบางตัวที่เลี้ยงจากหลัก 1 ล้าน เป็นราคา 6-8 ล้าน นับว่าเป็นการสร้างโอกาสและรายได้ที่น่าพอใจกับความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติได้อีกด้วย

ด้าน นายพิทักษ์ ไทพิกุล เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ได้รับคำแนะนำจาก ดีเจกุ้งนาง จนกระทั่งปัจจุบันได้เลี้ยงวัวพันธุ์ มูลค่าหลายล้านบาท เป็นเจ้าของฟาร์ม “พิทักษ์ฟาร์ม” ตั้งอยู่ที่เลขที่ 275 ซอยนาเจริญ ม.10 บ้านหนองหญ้ารังกา ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรประจำจังหวัดชัยภูมิ ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่สามารถสร้างความสำเร็จและมีรายได้มากกว่าคำว่า “เกษตรกร” และพร้อมต้อนรับสำหรับคนที่สนใจมาเรียนรู้ศึกษาดูงานนำไปขยายผลเลี้ยงสัตว์ประเภทโค กระบือ หรือวัว ควาย เป็นอาชีพได้ตลอดหากใครสนใจ

Adblock test (Why?)


อดีตดีเจหันเปิด 'ฟาร์มควาย' ทำเงินหลักล้าน! - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

"ผงพิเศษ" อุดฟัน อย่าหาทำเด็ดขาด อันตรายถึงชีวิต - กรุงเทพธุรกิจ

กรณีที่มีการเผยคลิปใน Tiktok เกี่ยวกับการใช้ "ผงพิเศษ" ไปอุดฟันนั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางเภสัชฯ ได้ออกมาเตือนว่าอย่าหาทำเด็ดขาด และอันตรายถึงชีวิตได้

สำหรับ "ผงพิเศษ" มีส่วนประกอบของซัลฟานิลาไมด์ (Sulfonamide) ถ้าแพ้ตัวยาชนิดนี้ขึ้นมาจะเกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดตุ่มพอง หนังลอก หรืออาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้เลย

สมาคมการค้าร้านขายยาจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีการโพสต์ประเด็น "ผงพิเศษ" ด้วย เมื่อมีคนเชื่อรีวิว Tiktok มาซื้อผงพิเศษเพื่อเอาไปอุดฟัน โชคดีที่เภสัชฯ ถามกลับไปว่า​จะเอาผงพิเศษไปทำอะไร คำตอบที่ได้เล่นเอาเภสัช ช็อกซีนีม่า ปรากฏว่า ได้คำตอบว่าเอา ผงพิเศษ ไปอุดฟันตาม​ Tiktok

ผงพิเศษเป็นยาใช้ภายนอก หมายความว่า ใช้ทาผิวภายนอก​ ไม่ใช่เอาไปกิน​ หรือใช้ทาปาก​ ทาเหงือกหรืออุดฟัน แต่สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​ ผงพิเศษมีตัวยาซัลฟานิลาไมด์ เป็นส่วนประกอบ​ รู้มั้ย​ว่าทำไมปัจจุบันเราถึงใช้ยาซัลฟานิลาไมด์กันน้อยมาก เพราะถ้าหากแพ้ยาขึ้นมา​ ปางตายเลยนะ

ซัลฟานิลาไมด์อาจทำให้แพ้ยารุนแรง​ เกิดตุ่มพอง หนังลอก ที่เรียกว่าการแพ้แบบ สตีเวนส์-จอห์นสัน ซินโดรม (Stevens-Johnson Syndrome หรือ SJS) หรือเกิดอาการแพ้ร่วมกับอาการแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ ได้ ที่เรียกว่า​ Toxic Epidermal Necrolysis หรือ TEN ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ส่วนการใช้ผงพิเศษพอกหน้ารักษาสิวนั้น​ สิ่งที่ควรระวังคือ เชื้อดื้อยา​ เนื่องจากผงพิเศษคือ ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลฟาที่นำมาใช้ภายนอก​ เมื่อนำมาใช้บ่อยๆ โดยไม่มีเหตุอันควร​ จะทำให้แบคทีเรียเจ้าถิ่นชินชา​ต่อยาดังกล่าว การดื้อยาจึงเกิดขึ้นได้​ ซึ่งไม่ใช่จะดื้อเฉพาะยาตัวนี้​ แต่เชื้ออาจพัฒนาให้ดื้อต่อยาฆ่าเชื้อตัวอื่นได้อีกด้วย​

เมื่อร่างกายแข็ง​แรงอยู่ก็จะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ​ของเชื้อดื้อยา​ แต่ถ้าร่างกายอ่อนแอ​มีความจำเป็น​ต้อง​ใช้​ยาฆ่าเชื้อ​ แล้วพบว่าไม่สามารถหายาฆ่าเชื้อมาใช้ได้เพราะดื้อยา​ เมื่อนั้นความตระหนักเรื่องเชื้อดื้อยาก็จะสายไปเสียแล้ว

ดังนั้น ก่อนที่จะใช้ยาใดๆ ก็ตาม​ เพื่อให้แน่ใจ​ว่าความเชื่อเรื่องยาที่ตัวเองได้มานั้นถูกต้องหรือไม่​ กรุณาสอบถามกับเภสัชกรประจำร้านยาก่อนทุกครั้ง​ เพื่อประเมินร่วมกันว่า​ ควรเชื่อถือข้อมูลนั้นได้มากน้อยแค่ไหน​ มีความปลอดภัยในการนำไปใช้หรือไม่

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์

Adblock test (Why?)


"ผงพิเศษ" อุดฟัน อย่าหาทำเด็ดขาด อันตรายถึงชีวิต - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

ข้อมูลส่วนตัว ถูกแฮก-รั่วไหล ทำยังไงได้บ้าง - ฐานเศรษฐกิจ

ข้อมูลส่วนตัว ถูกแฮกหรือรั่วไหล ทำอย่างไรได้บ้าง

  • ยกเลิก/ทำใหม่ ทำบัตรใหม่ ยกเลิกผูกบัตรกับแอปพลิเคชันอื่นๆ
  • เปลี่ยนพาสเวิร์ดใหม่ หากใช้พาสเวิร์ดชุดเดียวกันทุกระบบ บัญชี ต้องเปลี่ยนให้หมด
  • ติดต่อทันที

-คอลเซนเตอร์ธนาคาร หากเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน / online banking

-ตำรวจ เมื่อเกิดความเสียหายจากภัยออนไลน์

แจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/  

-ผู้ให้บริการอีเมล /แอปพลิเคชัน หากถูกแฮกบัญชีอีเมล์ ไลน์ เฟซบุ๊ก เพื่อกู้บัญชีกลับมา

  • แจ้งญาติ ผู้เกี่ยวข้องให้รู้ เพื่อป้องกันมิ๗ฉาชีพสวมรอยเป็นเรา

ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวหลังจากนี้ เพราะอาจถูกมิจฉาชีพมาหลอกเอาข้อมูลอีก

ที่มา :  ศคง. 1213

Adblock test (Why?)


ข้อมูลส่วนตัว ถูกแฮก-รั่วไหล ทำยังไงได้บ้าง - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

Monday, May 30, 2022

"ท็อปกัน มาเวอริค" ทำรายได้ถล่มทลาย หนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์คึกคักหลังโควิด : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์

พาราเมาต์ พิคเจอร์ส เปิดเผยว่า ภาพยนตร์เรื่อง ท็อปกัน มาเวอริค (Top Gun: Maverick) ซึ่งนำแสดงโดยซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างทอม ครูซ ทำรายได้อย่างถล่มทลายหลังเปิดตัวเพียงไม่กี่วัน นับเป็นข่าวดีสำหรับวงการภาพยนตร์ซึ่งกำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รายงานระบุว่า นับจนถึงเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) ท็อปกัน มาเวอริค กวาดรายได้ในอเมริกาเหนือไปประมาณ 124 ล้านดอลลาร์ใน 3 วันแรกของการออกฉาย และเมื่อรวมรายได้จากทั่วโลกแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้รวมกัน 248 ล้านดอลลาร์

พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์สื่ออาวุโสจากคอมสกอร์ กล่าวว่า “ผลงานของท็อปกัน มาเวอริค เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนได้อย่างน่าทึ่งว่า เมื่อคุณรวมดาวค้างฟ้าเข้ากับการบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นตำนานแล้ว คนทุกวัยก็จะรีบไปโรงหนังเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์ที่ทุกคนต่างพูดถึง”

นอกเหนือจากอิทธิพลของตัวนักแสดงและเส้นเรื่องแล้ว ท็อปกัน มาเวอริค ยังกวาดรายได้จากผู้ชมกลุ่มที่ค่อนข้างมีอายุด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่กลับมาดูหนังในโรงช้ากว่ากลุ่มอื่น แม้สหรัฐอนุญาตให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 โดยท็อปกัน มาเวอริค เป็นภาพยนตร์ที่คนกลุ่มนี้ให้ความสนใจเพราะเป็นภาคต่อของท็อปกันภาคแรกซึ่งออกฉายไปเมื่อปี 2529 หรือกว่า 36 ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ท็อปกัน มาเวอริค ยังมีโอกาสทำรายได้มากกว่านี้อีกในสหรัฐเพราะอยู่ในช่วงหยุดยาววัน Memorial Day ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 30 พ.ค. ซึ่งหากนับรายได้ในวันนี้แล้ว คาดว่าท็อปกัน มาเวอริค จะกวาดรายได้รวมกว่า 150 ล้านดอลลาร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 65)

Tags: , , , ,

Adblock test (Why?)


"ท็อปกัน มาเวอริค" ทำรายได้ถล่มทลาย หนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์คึกคักหลังโควิด : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Read More

หนึ่งเดียวในพะเยา! 'บัวรดน้ำ' แฮนด์เมด - กรุงเทพธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบพ่ออุ้ยน้อย  พรหมวงค์ อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 11 บ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ช่างวัยเก๋า ทำบัวรดน้ำแบบโบราณ ด้วยมือ โดยใช้แผ่นสังกะสี   ทำมาตั้งแต่วัยรุ่น อายุ 20 จนอายุใกล้ 80 ปี และถือว่าเป็นช่างทำบัว เหลือเพียงแห่งเดียว ของจังหวัด เพราะปัจจุบัน มีบัวสำเร็จรูป ที่ทำด้วยเครื่องมือสมัย มาทดแทนบัวรดน้ำรูปแบบเก่า

 พ่ออุ้ยน้อย ง กล่าวว่า ได้เปิดร้านเล็กๆ หน้าบ้านของตนเอง ทำบัวรดน้ำขายและรับซ่อมปะผุ  เครื่องใช้ครัวเรือน ที่เป็นอลูมิเนียม.สังกะสี แสตนเลส  ริมถนนสายพะเยา-ป่าแดด บ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ชึ่งผลิตบัดรดน้ำผักและต้นไม้แบบโบราณด้วยมือ แฮนด์เมด และยังรับช่อมอุปกรณ์ทำครัวที่ชำรุดในราคาที่ไม่แพงชึ่งเหลือเพียงเจ้าเดียวในจังหวัดที่ยังทำและซ่อม ด้วยสำหรับบัวรดน้ำแบบโบราณที่ทำจากสังกะสีจะทำขายในราคาอันละ 100  บาท ซึ่งเป็นรายได้ให้กับตัวเองเป็นอย่างดี


การทำบัวรดน้ำและช่อมอุปกรณ์ที่ทำจากสังกะสี อลูมิเนียม สืบทอดจากรุ่นพ่อในครอบครัวตั้งแต่อายุ 20 ปี จนถึงปัจจุบันตอนนี้ตนเองอายุ 78 ปีแล้วถ้านับแล้วตนเองก็ทำมากว่า 68 ปีแล้วชึ่งปัจจุบันจะหาคนทำบัวยากแล้วและก็เหลือแต่ตนเองเจ้าเดียวในจังหวัดที่ยังทำบัวรดน้ำสังกะสีและช่อมอุปกรณ์แบบนี้ ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านในและนอกพื้นที่ที่ผ่านมาก็จะแวะเวียนมาชื้อและนำอุปกรณ์ทำครัวมาให้ซ่อม ชึ่งที่ตนเองทำขายอยู่มีบัวรดน้ำสังกะสีจำหน่ายอันละ 100 บาท และทำกิโลตวงมี 3 ขนาด ขนาดเล็ก 30 กลาง 50  และใหญ่ 100 บาท และช่อมอุปกรณ์ทำครัวทุกชนิดที่เป็นอลูมิเนียมไม่ว่าจะรั่วจะขาดหรือบเป็นรอยบุ๋ม  หากซ่อมเหมือนของใหม่สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาวิธีทำและการช่อมแชมอุปกรณ์แบบโบราณสามารถมาศึกษาได้ที่บ้านตาน้อย  พรหมวงค์ อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 11 บ้านดอกบัวตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยาหรือโทร  0869147480

Adblock test (Why?)


หนึ่งเดียวในพะเยา! 'บัวรดน้ำ' แฮนด์เมด - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Sunday, May 29, 2022

"ก้อง-สมเกียรติ" สตาร์ทแถวที่ 8 ลุ้นทำศึก "โมโตทู" มูเจลโล - คมชัดลึก

"ก้อง-สมเกียรติ" นักบิดหนึ่งเดียวจากไทยในการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รุ่น "โมโตทู" จาก "อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย" ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์สนาม ที่ 2 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ , ทำผลงานขึ้นโพเดียม อันดับที่ 2 สนาม 3 รายการ กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา รวมถึงล่าสุด สนามที่ 7 ทำผลงานขึ้นโพเดียม อันดับที่ 3 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์  ทำให้ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 7 ของตาราง มี 61 คะแนน 

โดย "ก้อง สมเกียรติ จันทรา" นักแข่งหมายเลข 35 มีคิวทำศึก การแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รุ่น "โมโตทู" รายการ  "อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ "

ก่อนทำการแข่งขันสนามที่ 8 ที่ ออโตโดรโม อินเตอร์นาซินาเล เดล มูเจลโล ประเทศอิตาลี  "ก้อง-สมเกียรติ" ยอดนักบิดไทยจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม"  แข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตเมื่อวันเสาร์ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีฝนปรอยลงมาสลับแห้ง ส่งผลให้นักบิดทุกคนต้องเจอความยากลำบากอย่างมาก

ซึ่งผลการควอลิฟายในรุ่นโมโตทู ถือเป็นงานสุดท้าทายของ "ก้องสมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย อย่างแท้จริง เนื่องจากเจ้าตัวต้องออกสตาร์ตจากกริดที่ 24 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 52.522 วินาที ได้เริ่มเกมจากแถวที่ 8 ก่อนดวลรอบไฟนอลคืนวันอาทิตย์นี้ 

สำหรับการแข่งขัน จักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก 2022 สนาม 8 จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ เริ่มต้นในรุ่น "โมโตทู" เวลา 17.20 น. และปิดท้ายด้วย "โมโตจีพี" 19:00 น. ตามเวลาประเทศไทย  

"ก้อง-สมเกียรติ" สตาร์ทแถวที่ 8 ลุ้นทำศึก "โมโตทู" มูเจลโล

Adblock test (Why?)


"ก้อง-สมเกียรติ" สตาร์ทแถวที่ 8 ลุ้นทำศึก "โมโตทู" มูเจลโล - คมชัดลึก
Read More

Saturday, May 28, 2022

สอท.ติงรัฐบาลจัดทำงบปี 66 เสี่ยงแก้เศรษฐกิจล้มเหลว ไม่ช่วยคลายปมปากท้อง : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท เพิ่มจากงบปี 65 จำนวน 85,000 ล้านบาท รัฐบาลยังใช้สมติฐานเดิมของสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผ่านมาในการจัดทำงบประมาณ ทั้งคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะขยายตัวที่ระดับ 4.5% ขณะนี้สภาพัฒน์คาดการณ์เติบโตเพียง 2.5-3.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1.5-2.5% ขณะนี้สภาพัฒน์คาดการณ์เงินเฟ้ออยู่ที่ 5% หากรัฐบาลยังใช้สมมติฐานเหล่านี้จัดทำงบปี 66 นับว่าสุ่มเสี่ยงต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ผล และในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ มีความผันผวนเศรษฐกิจโลก นับเป็นพายุทรงพลังที่จะสร้างความเสียหายอย่างมาก หากยังใช้สมติฐานเดิมมาใช้จัดทำงบประมาณปี 66

กรณีที่หลายประเทศทั้งสหรัฐ ยุโรป เป็นห่วงปัญหาเงินเฟ้อ โดยมีการปรับเพิ่มดอกเบี้ย แต่ไทยยังต้องการให้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงนับเป็นความท้าทายอย่างมาก การใช้งบประมาณแก้ปัญหาขณะนี้ ทั้งราคาน้ำมันแพง กระทบต้นทุนสินค้า ขณะที่เม็ดเงินดูแลใกล้หมด รายได้ภาษีไม่ได้ตามเป้าหมาย การใช้งบประมาณนับเป็นกลไกสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจชะลอตัวขณะนี้ หากยังไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้อาจมีปัญหาหนักมาก อีกทั้งหลายประเทศเริ่มชะลอการส่งออกอาหาร เพื่อเก็บสำรองไว้ใช้ในประเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหาร จึงเริ่มมีปัญหาบานปลายต่อหลายประเทศ

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีกระแสอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะประชาชนขาดความเชื่อมั่น ขาดความคาดหวังจากแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาล กรณีฝ่ายค้านส่งสัญญาณใช้เรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 66 มาผลักดันเพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในส่วนพรรค สอท.คงต้องติดตามดูว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวอย่างไร หลังจากสภาเริ่มนำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 มาพิจารณาวาระแรกในวันอังคารนี้ (31 พ.ค.)

ขณะที่ นายสันติ กิระนันทน์ กรรมการบริหารพรรคฯ กล่าวว่า พบข้อสังเกตุการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 หลายด้านอาจเกิดความเสียหายได้ เช่น การจัดสรรงบลงทุน 21.82% แต่พบว่าลงทุนจริงได้เพียง 15.46% จึงอาจไม่ทำให้เกิดการลงทุนได้แท้จริงต่อการฟื้นเศรษฐกิจ การจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนยังไม่มีรายละเอียดทำให้ตรวจสอบยากมาก มีสัดส่วนสูงถึง 35.26% เกินกว่าหนึ่งในสามของงบประมาณ ขณะที่งบกลางปี 66 มีสัดส่วน 18.50% จำนวน 590,470 ล้านบาท ได้นำเอาเบี้ยหวัดบำนาญมารวมเอาไว้ 330,000 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่า 50% ของงบกลางเพื่อดูแลข้าราชการ นับว่าเป็นการกันงบเอาไว้มากเกินไป โดยเหลือเอาไว้ใช้จ่ายฉุกเฉิน 92,400 ล้านบาท ไม่ถึงแสนล้านบาท หรือ 1 ใน 6 ของงบกลาง หากเจอปัญหาฉุกเฉินอย่างกรณีปัญหาโควิด-19 จะเกิดปัญหาบริหารงบแทบไม่ทัน

สำหรับแผนบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน กรณีแก้ปัญหาภัยแล้ง บริหารจัดการน้ำ โดยไม่มีตัวชี้วัดในการทำให้สัมฤทธิ์ผล จึงอยากให้ยกเลิก เพราะไม่ได้ใช้เป้าหมายจริง เพียงนำงบไปซุกซ่อนเอาไว้ ขณะที่การจัดซื้ออาวุธของกองทุนยังสูงนับหมื่นล้านบาท 60,000 ล้านบาท แม้การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการจะพิจารณาก็ยังไม่เห็นชัดเจน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันควรกันไว้นำมาแก้ปัญหาปากท้อง น้ำมันแพง ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 65)

Tags: , ,

Adblock test (Why?)


สอท.ติงรัฐบาลจัดทำงบปี 66 เสี่ยงแก้เศรษฐกิจล้มเหลว ไม่ช่วยคลายปมปากท้อง : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Read More

อุ๊ย แซ่บ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงแฟนสาว ทำแฟนคลับเอือม อ่านแล้วรู้เลยว่าใคร? - คมชัดลึก

มาจ้า ใครที่รู้ตัวว่าเป็นขาเม้าท์ ขาเผือกวันหยุดวันว่างก็ไม่ควรพลาดเรื่องแซ่บๆ กันนะจ๊ะ เพราะไม่งั้นจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ตามเขาไม่ทันเนี๊ยเฉยเอานะจ๊ะ แล้วจะหาว่าคุณพี่ไม่เตือน เพราะวันนี้มีเรื่องเม้าท์มอยแซ่บๆ เกี่ยวกับ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงสาว ทำแฟนคลับเอือมถอนตัวเพียบ!

อุ๊ย แซ่บ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงแฟนสาว ทำแฟนคลับเอือม อ่านแล้วรู้เลยว่าใคร?

โดย "มาดามกุ๊งกิ๊ง" ได้เขียนเล่าเรื่องเรื่องราว "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงสาว ทำแฟนคลับเอือม ระบุไว้ว่า  "เรื่องของสัปดาห์นี้เป็นเรื่อง ดาราหนุ่มคนหนึ่ง หล่อนะ ผิวขาวๆ หน่อย เนียนละเอียด และเป็นคนมีผลงานหลากหลายทั้งภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ ซึ่งทุกผลงานก็มีที่ปังและทรงตัว ไม่ถึงกับแย่ แต่ไม่ดังเปรี้ยงนึกออกมาไหม 

คืองี้ เรื่องของฮีคนนี้อ่ะ จริงๆ ไม่ได้มาจากการทำงานอะไรหรอก แต่มันเป็นเรื่องของพฤติกรรมติดแฟน ติดสาว ที่หลายคนรับไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะเอฟซีหรือแฟนคลับของฮีนั่นแหละ 

บอกกันตามตรง ปกติฮีก็ไม่ได้เป็นคนเทคแคร์แฟนคลับดีมากอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว เป็นคนเฉยๆ นิ่งๆ และยิ้มหวานมากกว่า แต่เพราะแฟนๆ เขาหลงรักและชอบความเป็นตัวของตัวเองของฮีนั่นแหละ เลยทำให้มีแฟนคลับเหนียวแน่นจนถึงวันนี้

จริงๆ ฮีก็เป็นคนดีคนหนึ่งแหละ ติดที่ตอนนี้หลายคนใช้คำว่า "ดีแตก" กับฮีแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะฮีมีแฟนแล้วก็เหินห่างจากแฟนคลับมากขึ้น มีระยะห่างและทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่เหมือนเดิมอ่ะคือแฟนๆ ฮีไดเรกต์มาบอกน่ะย่ะ เดี๊ยนมิได้นั่งเทียนเล่าแต่อย่างใด

อุ๊ย แซ่บ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงแฟนสาว ทำแฟนคลับเอือม อ่านแล้วรู้เลยว่าใคร?

โดยหลายคนที่เป็นแฟนคลับตัวแม่ตัวพ่อของฮีนั้น ก็สังเกตมานานพอสมควรว่า ตั้งแต่ฮีคบกับแฟนสาวแรกๆ แล้ว ก็เริ่มทำตัวห่างแฟนคลับ ไม่ค่อยสนใจ ตัวติดอยู่กับแฟน ไปไหนมาไหนก็ตามแฟนไปตลอดเวลาจะให้แฟนคลับก็บอกแทบไม่ค่อยมี หลังอีเวนต์ก็ไม่ค่อยรวมพล ทำให้แฟนคลับหลายคนน้อยใจ

ตอนแรกก็คิดว่าโอเค ไม่เป็นไร ทนได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ฮีดาราหนุ่มก็เสิร์ฟหนักโมเมนต์หวานกับแฟนสาวผ่านสื่อ ผ่านชีวิตประจำวัน ไปไหนมาไหนหวานเว่อร์ จนคนเห็น แฟนคลับที่ติดตามฮีก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเคเลย ทำให้แฟนคลับ หลายคนตัดสินใจที่จะปล่อยมือจากฮีไปและไปหาศิลปินที่พร้อมดูแลพวกเขามากกว่า ทำให้ตอนนี้บอกได้เลยว่า แฟนคลับฮีเริ่มตีจากไปทีละคน สองคนแล้ว เพราะมองว่ายังไงฮีก็คงไม่เลิกคลั่งรักกับแฟนสาวในเร็ววันนี้หรอก

เอาจริงๆ ทุกคนเขาเข้าใจนะว่าฮีเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน มีแฟนได้ มีคนรักได้ แต่อย่างที่บอกในพาร์ทของการทำงาน คุณก็อาจจะทำได้ดี ในพาร์ทของแฟนคุณก็ทำได้ดีมากๆ แต่บอกเลยว่าตอนนี้ในพาร์ทของศิลปินคุณกำลังละเลยการดูแลใจของแฟนๆ คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน ใครเปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยน แฟนๆ เขารู้สึกได้ หรือคุณจะบอกว่าคุณต้องมีชีวิตส่วนตัวบ้าง อันนั้นก็ถูก แต่อย่างที่แฟนคลับคนหนึ่งของฮีกล่าวไว้และไดเรกต์แซ่บๆ มาแหละว่า ถ้าเป็นศิลปินแล้วทำหน้าที่ของตัวเองไม่ได้อีก ก็ออกไปเถอะ อย่าอยู่และทำเหมือนตัวเองปกติอีกเลย หลายคนเขาทนไม่ไหวแล้วล่ะ

เดี๊ยนมาบอกให้รู้ ถ้ารู้ตัวแล้วก็หัดปรับปรุงตัวเองหน่อยนะ ความมั่นใจมีได้ว่าเป็นดาราดัง แต่อย่างที่บอก ดังวันนี้พรุ่งนี้ก็ดับและอ่อนแสงได้ ถ้าหากยังทำตัวเหมือนเดิม และถ้าไม่แคร์แฟนคลับแล้วก็ออกไปเถอะไปอยู่กับแฟนฮีเถอะ จะโอเคกว่า เขาฝากมา อุ๊ย! แซ่บ

อุ๊ย แซ่บ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงแฟนสาว ทำแฟนคลับเอือม อ่านแล้วรู้เลยว่าใคร?

ขอบคุณ มาดามกุ๊งกิ๊ง (เดลินิวส์) 

Adblock test (Why?)


อุ๊ย แซ่บ "ดาราหนุ่ม" ดีแตกหลงแฟนสาว ทำแฟนคลับเอือม อ่านแล้วรู้เลยว่าใคร? - คมชัดลึก
Read More

Friday, May 27, 2022

“ไพบูลย์” เผย นโยบายหาเสียงไม่เคยถูกลบ - บีบีซีไทย

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ชี้แจงมติ พปช. โดยขอชี้แจงเฉพาะข้อกฎหมาย และหลีกเลี่ยงจะให้ความเห็นประเด็นการเมือง

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

หลังจากถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์ จากกรณีที่โพสต์นโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐถูกลบออกจากเพจ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมายืนยันหลังเช็คกับทีมงานว่าโพสต์ดังกล่าวไม่เคยถูกลบ

เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) นายไพบูลย์ ออกมาชี้แจงจากกล่าวกรณีที่มีข่าวออกมาว่านโยบายหาเสียงในเพจของพรรคพลังประชารัฐถูกลบออกไป "เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน" เนื่องจากทีมงานที่ดูแลเพจของพรรคพลังประชารัฐ ได้ยืนยันว่าตลอดมายังไม่เคยลบโพสต์ใด ๆ ออกจากเพจ

นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าโพสต์ที่ลงในเพจตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่มีผู้แอบอ้างว่ามีการลบโพสต์หาเสียงของพรรค โดยในวันดังกล่าวมีการโพสต์จำนวน 23 โพสต์ และทุกโพสต์ยังปรากฏอยู่ในเพจ ไม่ได้มีการลบโพสต์ออกตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

โดยโพสต์ที่ปรากฏส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหาเสียงที่ลงไว้ในวันนั้น เนื้อหายังอยู่ครบถ้วนทั้งหมด รวมทั้งโพสต์ก่อนหน้าวันที่ 14 มี.ค. 2562 และโพสต์หลังจากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน

นายไพบูลย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า โพสต์นโยบายที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาว่ามีการลบออกจากเพจนั้น หลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเนื้อหาดังกล่าวไม่เคยโพสต์ในเพจพรรค ซึ่งอาจเป็นการจัดทำขึ้นและสร้างลิงก์ขึ้นมาเพื่อใส่ความว่าพรรคไปลบโพสต์ออก บิดเบือนให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดและทำให้พรรคเกิดความเสียหาย ยืนยันว่าพรรคไม่มีการลบโพสต์นโยบายหาเสียงและโพสต์ใด ๆ ออกจากเพจของพรรค

นายไพบูลย์ กล่าวว่าหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ผู้ใดเป็นผู้จัดทำการตัดต่อภาพโพสต์และสร้างลิงก์ปลอมแปลงขึ้นมาเพื่อนำเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด หากตรวจสอบพบทางพรรคจะแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับผู้ที่กระทำการดังกล่าวต่อไป

โดยโพสต์ดังกล่าวที่นายไพบูลย์กล่าวอ้างว่าไม่ได้มาจากทางพรรค เป็นโยบายหาเสียงในเรื่องของ การผลักดันค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท, เพิ่มเงินเดือน ป.ตรี เริ่ม 20,000 บาท และเงินเดือนอาชีวะเริ่ม 18,000 บาท, เสนอยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี, เสนอยกเว้นภาษีพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ 2 ปี และลดภาษีบุคคลธรรมดา 10%

ก่อนหน้านี้หลังจากที่เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก นายไพบูลย์ได้ออกมาชี้แจ้งในเบื้องต้นว่าการลบนโยบายในเพจของพรรคพลังประชารัฐเป็นการทำไปเพื่อปรับปรุงระบบสื่อสังคมออนไลน์ และเป็นการเตรียมเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้า นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมว่าโยบายดังกล่าวควรจะถูกลบออกไปนานแล้ว

กองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ

ที่มาของภาพ, กองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ

"ผู้บริหารพรรคมีมติจะปรับปรุงระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กครั้งใหญ่ของพรรคให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด" คือคำอธิบายจากนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนที่รัฐสภาหลัง มีกระแสถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการลบนโยบายในเพจของพรรค

เรื่องดังกล่าวเกิดจากการที่สื่อสังคมออนไลน์พากันแชร์เรื่องที่นโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562 ถูกลบออกจากเพจพรรคพลังประชารัฐ จากที่เคยโพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2562 จนเกิดกระแส "ลบไม่ช่วยให้ลืม" เกิดขึ้น

โพสต์ดังกล่าวระบุถึง "เซอร์ไพรส์นโยบายพลังประชารัฐ" ไม่ว่าจะเป็น ผลักดันค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท, เงินเดือน ป.ตรี เริ่ม 20,000 บาท และเงินเดือนอาชีวะเริ่ม 18,000 บาท, เสนอยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี, เสนอยกเว้นภาษีพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ 2 ปี และลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% เป็นต้น

นายไพบูลย์อธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุผลที่ลบโพสต์ออกเพราะเป็นการเตรียมเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้า และโยบายดังกล่าวควรจะถูกลบออกไปนานแล้ว โดยอธิบายเพิ่มเติมว่านโยบายที่ผ่านมา บางนโยบายที่ทำไม่ได้ เพราะทางพรรคไม่ได้ดูและกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนั้น ๆ

ไม่มีผลทางกฎหมาย

รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายไว้ว่าการที่พรรคพลังประชารัฐนำเอานโยบายหาเสียงออกจากเพจ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพราะการกำหนดนโยบายในช่วงหาเสียงของพรรคการเมือง ไม่ได้มีกฎหมายข้อไหนระบุว่าจะต้องทำตามนโยบาย

"กฎหมายระบุไว้เพียงว่าการหาเสียงเลือกตั้งนั้นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการเลือกตั้ง เช่นการไม่มีการซื้อเสียง ต้องไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย รุนแรง หรือทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง เป็นต้น ไม่ได้มีกฎข้อใดระบุว่าพรรคการเมืองนั้น ๆ ต้องทำตามนโยบาย" รศ.ดร.พวงทอง อธิบาย

"แต่กฎหมายได้กำหนดบทลงโทษในกรณีที่นโยบายนั้นไม่ได้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เช่นไม่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง หรือการเป็นภาระทางงบประมาณต่อประเทศในระยะยาว ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สร้างขึ้นมาในรัฐธรรมนูญปี 2560 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งดูก็รู้แล้วว่าเป็นแผนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเล่นงานพรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นที่ถูกใจของกลุ่มอนุรักษ์นิยม"

พรรคพลังประชารัฐ

ที่มาของภาพ, พรรคพลังประชารัฐ Facebook

ถึงแม้การไม่ทำตามนโยบายที่ให้ไว้ในช่วงที่หาเสียงจะมีผลทางด้านกฎหมาย แต่ รศ.ดร.พวงทอง เห็นว่าการกระทำแบบนี้มีผลกระทบทางจิตวิทยาของประชาชนในแง่ที่ว่าพรรคการเมืองนี้ไม่ทำตามสัญญา

"ถ้าถามว่าพรรคพลังประชารัฐสนใจหรือไม่ ก็คงบางส่วน แต่เขาเชื่อมั่นว่าด้วยกลไกหลาย ๆ อย่างที่เขาจัดวางไว้ ทั้งเรื่องของรัฐธรรมนูญ สมาชิกวุฒิสภา หรือวิธีการนับคะแนนเสียง ก็จะทำให้พวกเขากลับมามีอำนาจได้โดยไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนของประชาชนเท่านั้น"

รศ.ดร.พวงทอง กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำงบประมาณต่าง ๆ มาซื้อใจประชาชน เช่นโครงการประชารัฐต่าง ๆ และกลไกข้าราชการที่ซื้อใจให้ประชาชนมาเลือกเขา และเชื่อว่าสามารถเข้าสู่อำนาจได้โดยอาศัยกลไกที่วางเอาไว้ตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557 ซึ่งเชื่อว่าเขาใช้วิธีคิดแบบนี้เช่นกันกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

กลับไปสู่การเมืองแบบในอดีต

ในอดีต นักการเมืองไทยที่หาเสียงในช่วงเลือกตั้งและชนะการเลือกตั้ง มักจะไม่ทำตามที่สัญญาเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายกับการเมืองและนักการเมือง เพราะไม่รู้สึกว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากการเมือง โดย รศ.ดร.พวงทอง กล่าวว่านี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกิดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงของประชาชน เพราะประชาชนเชื่อว่านักการเมืองคนไหนเข้ามาก็เหมือนกันหมด สัญญาอะไรเอาไว้ก็ไม่ทำ

แต่สภาพการเมืองแบบเก่า ๆ เปลี่ยนไปเมื่อเกิดมีรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้น เพราะเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็สามารถทำตามนโยบายหาเสียงได้หลายอย่าง จึงเป็นเหตุให้เขาได้รับความนิยมจากประชาชนกลุ่มคนรากหญ้า ซึ่งจะจำได้ว่าพรรคไหนสัญญาอะไรไว้ และบอกได้ว่าพรรคไหนทำอะไรบ้างหรือไม่ทำ ในคณะที่คนชั้นกลางไม่ค่อยติดตามว่าพรรคการเมืองมีสัญญาอะไรไว้ เพราะพวกเขาเลือกที่ตัวพรรค ไม่ใช่จากนโยบาย แต่รัฐประหารปี 2557 นำการเมืองแบบเก่าเข้ามา โดยเฉพาะในกลุ่มนักการเมืองในปีกของทหาร มองว่าตัวเองเข้าสู่อำนาจได้โดยไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนของประชาชน

"ประชาชนเองก็ไม่สามารถร้องเรียนในเรื่องที่พรรคการเมืองไม่ทำตามนโยบายที่ตนหาเสียงเอาไว้ เพราะไม่มีหน่วยงานไหนรับร้องเรียนในเรื่องแบบนี้ เพราะไม่เคยมีการกำหนดเอาไว้ตามกฎหมาย แต่ถึงแม้จะมีหน่วยงานที่รับร้องเรียน แต่ช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2562 มา หน่วยงานรัฐต่าง ๆ ก็ทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนรัฐบาลมาตลอด"

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้า พปชร. ตั้งแต่ 27 มิ.ย. 2563

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

กฎหมายที่ไม่เคยถูกตีความ

ผศ. ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่เคยมีการหยิบยกมาพูดหรือตีความกันว่าการไม่ทำตามนโยบายหาเสียงผิดกฎหมายหรือไม่

"ในกรณีนี้เราไม่เคยพูดถึงอย่างจริงจัง โดยตัวกฎหมายการเลือกตั้งแล้วมีกำหนดว่าห้ามไม่ให้มีการจูงใจให้มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือห้ามไม่ให้มีการซื้อเสียง ที่ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจริง ๆ แต่เรื่องการตีความการไม่ทำตามนโยบาย ไม่เคยมีใครหยิบยกมาตีความ" ผศ. ดร.พรสันต์อธิบาย

"แบบนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรกับการไปซื้อเสียงในทางวิชาการ เพราะสิ่งที่คุณทำคือการไปนำเสนอนโยบายอะไรก็ได้ และไปทำให้คนที่จะไปลงคะแนนเสียงไขว้เขวมันก็เป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของผู้เลือก"

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าช่วงเวลาในการหาเสียงจะมีบรรยากาศที่จะทำให้คนคล้อยตามได้ง่าย เช่นการที่ประเทศชาติอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี พอพรรคการเมืองเสนอนโยบายที่สอดคล้อง ก็กลายเป็นให้ความหวังกับประชาชน ก็เลยเลือก แต่ทีหลังมาบอกว่าทำไม่ได้

ประยุทธ์

ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai.

"เข้ามาทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อย ๆ ต้องมีความพยายามในการทำ เรื่องการขึ้นค่าแรงไม่ใช่ไม่เคยมีการพูดถึงกัน แต่อย่างน้อยควรผลักดันให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ควรมีการสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้"

ผศ. ดร.พรสันต์เห็นว่าการทำตามที่สัญญาไว้ไม่ได้มีผลทางการเมือง เพราะทำให้ประชาชนรู้ว่าพรรคการเมืองไหนไม่ได้ทำตามสิ่งที่พวกเขาพูดเอาไว้ และอาจจะมีผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

รัฐธรรมนูญปัจจุบันมีบทบัญญัติใหม่ในเรื่องของการกำหนดบทบาทหน้าที่และกรอบหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีต้องกระทำ โดยมีการกำหนดว่าก่อนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเข้ามาบริหารแผ่นดินจะต้องมีการแถลงนโยบายกับรัฐสภา และเมื่อมีการแถลงนโยบายกับทางรัฐสภา นโยบายดังกล่าวจะมีผลผูกพันที่ทำให้ ครม. ชุดนั้นต้องปฏิบัติตาม

"หมายความว่าคณะ ครม. ต้องรับผิดชอบร่วมกันในการปฏิตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะมีกลไกทางการเมืองมาจัดการ เช่นการตั้งกระทู้ถามหรือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ" ผศ. ดร.พรสันต์กล่าว และเสริมว่า ภาคประชาชนสามารถไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการในสภาได้ ว่าเดือนร้อนอย่างไรกับนโยบายของภาครัฐ และกระทรวงต่าง ๆ

Adblock test (Why?)


“ไพบูลย์” เผย นโยบายหาเสียงไม่เคยถูกลบ - บีบีซีไทย
Read More

'พุทธะอิสระ' : โถ...ทิด อย่าไปโกธรเพื่อนเลย เขาทำเพราะมีความจำเป็น - ไทยโพสต์

28 พ.ค.2565 - นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ "พุทธะอิสระ" ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "โถ..โถ..ทิด อย่าไปโกธรเพื่อนเลย เขาทำเพราะมีความจำเป็น

เพราะมีคนมาแนะนำ ชักชวนเพื่อนว่า

หากเข้าไปนอบน้อมศิโรราบกับเฮียฝนๆ ก็อาจจะช่วยขจัด ปัดเป่า เรื่องราวคดีความที่สำนักพุทธ กำลังจะเล่นงานเพื่อนของทิดอยู่

ซึ่งทิดก็ต้องเห็นใจเพื่อนปาที่กำลังกระวนกระวาย ทุรนทุรายไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังจมน้ำ อะไรลอยมาก็จะคว้าจับเอาไว้ก่อน

โดยไม่ได้มองว่า สิ่งที่ลอยมาเป็นขี้หรือเป็นทุ่น ขอเพียงคิดว่ามันช่วยให้รอดได้ เพื่อนทิดเขาก็ต้องไขว่คว้าเอาไว้ก่อน หากไม่ทำอะไรเลย เวลาติดคุก เพื่อนเลิฟอย่างทิด ก็คงไม่ไปติดคุกกับปาด้วยดอกใช่ไหม

เอาน่า... ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรเลย

แต่ไม่ว่าจะคว้าขี้หรือคว้าทุ่น สุดท้ายเพื่อนทิดก็ต้องถูกสำนักพุทธดำเนินคดีอยู่ดี

เรื่องนี้ใครจะมาอ้างตนว่า สามารถช่วยเคลียร์ปัญหาได้นั้นมันเป็นเรื่องโกหก

ยิ่งเมื่อวานรัฐมนตรีประจำสำนักพุทธ ที่กำกับดูแลสำนักพุทธพูดในที่ประชุมสงฆ์ทั้งประเทศว่า จะดำเนินคดีต่อบุคคลที่ทำให้คณะสงฆ์เสียหายจนถึงที่สุด ทั้งยังได้ยินมาว่า ท่านรัฐมนตรีมีคำสั่งเป็นเด็ดขาด ให้ ผอ.สำนักพุทธเร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เพื่อนปาและพวกของทิดอย่างถึงที่สุด

งานนี้อย่าว่าแต่เฮียฝนเลย ต่อให้ใหญ่กว่าเฮียฝนก็ช่วยเพื่อนทิดไม่ได้

สิ่งที่ทิดควรทำเวลานี้คือ น่าจะคอยให้กำลังใจปาเพื่อนทิดให้หายกลุ้มจะดีกว่านะทิด

Adblock test (Why?)


'พุทธะอิสระ' : โถ...ทิด อย่าไปโกธรเพื่อนเลย เขาทำเพราะมีความจำเป็น - ไทยโพสต์
Read More

Thursday, May 26, 2022

'บิ๊กน้อย' สารภาพคิดผิด! นึกว่า 'เศรษฐกิจไทย' ทำเพื่อ ปชช. - ไทยโพสต์

‘บิ๊กน้อย’ ตอบคอมเมนต์ในเพจ​ รับ​คิดผิดนึกว่า ‘เศษฐกิจไทย’ ทำเพื่อ ปชช. แจงไม่สนับสนุนล้มรัฐบาล​ กลัวประเทศหยุดชะงัก​ ถามกลับ​อยากได้นายกฯคนนอกหรือ

27 พ.ค. 2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโพสต์เฟซบุ๊กของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่โพสต์อยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงของประเทศในทางที่ดีขึ้นวันที่ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พบว่า​มีผู้เข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก

โดยพล.อ.วิชญ์ ได้ตอบกลับหลายคอมเมนต์​ อาทิ คอมเมนต์ที่ระบุว่า “ไปยอมเป็นลูกน้องร้อยเอกเพื่ออะไร” ซึ่งพล.อ.วิชญ์ ตอบว่า “ในพรรคการเมือง ไม่มีใครเป็นลูกน้องใครครับ ผมเข้ามาช่วยทำงานตามคำเชิญของเขา ด้วยคิดผิดว่า เขาจะทำเพื่อประชาชนครับ และประเทศชาติครับ ต้องขอโทษทุกท่านที่ผมมองคนผิดไปครับ”

นอกจากนี้ยังมีผู้คอมเมนต์ที่ระบุว่า “ไปเชื่อใครไม่เชื่อ เชื่อ ร.ต.” โดยพล.อ.วิชญ์ ได้ตอบคอมเมนต์ว่า “ต้องขออภัยด้วยครับ ผมเองไม่ได้รู้จักกันดี มองคนผิดเห็นภาพเป็นคนทำงานคิดว่าจะช่วยกันทำงานได้ ผมตั้งใจทำงานให้บ้านเมืองมาโดยตลอด ไม่เห็นด้วยกันการที่จะมองแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ชีวิตคนเราตายไปเอาไปไม่ได้สักอย่างครับ” โดยคอมเมนต์ดังกล่าว พล.อ.วิชญ์ ได้ลบในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีคอมเมนต์ที่ระบุ “สนับสนุนเผด็จการนั้นหรือ ทำเพื่อประชาชน” ซึ่งพล.อ.วิชญ์ ตอบคอมเมนต์ว่า “ผมสนับสนุนใครครับ การที่ผมไม่สนับสนุนการล้มรัฐบาล เนื่องจากอีกไม่นานก็หมดวาระต้องเกิดการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย หากรัฐบาลล้มไปตอนนี้ประชาชนได้รับผลดีอย่างไรครับ โครงการต่างๆที่ทำต้องหยุดชะงัก พรรคการเมืองต่างๆเตรียมตัวไม่ทัน ท่านอยากได้นายกฯคนนอกหรือครับ หมดวาระตามระบบเลือกตั้งตามกระบวนการไม่ดีกว่าหรือครับ ปัจจุบันมีเผด็จการอยู่ตรงไหนครับ การที่ประเทศจะดีขึ้นเริ่มที่ตัวเราก่อนทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ดี ยุติความขัดแย้งเลิกแบ่งแยกฝักฝ่ายมีจิตใจเมตตาต่อกัน โตๆกันแล้วควรจะตระหนักว่าทุกคนเกิดมาอายุไม่ถึงร้อยปี ช่วยกันคิดดีทำดีต่อตนเองครอบครัวคนรอบข้างกันเถอะครับ ขอบคุณมากสำหรับความเห็นผมไม่ปิดคอมเมนต์เนื่องจากเปิดกว้างรับฟังทุกความเห็นจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ” ซึ่งการตอบคอมเมนต์นี้พล.อ.วิชญ์ได้ลบไปในเวลาต่อมาเช่นเดียวกัน.

เพิ่มเพื่อน

Adblock test (Why?)


'บิ๊กน้อย' สารภาพคิดผิด! นึกว่า 'เศรษฐกิจไทย' ทำเพื่อ ปชช. - ไทยโพสต์
Read More

'อ.จุฬาฯ' ชี้นโยบายหาเสียงเป็นอุดมการณ์พรรค ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ-ทำไม่ได้ผิดก.ม.! - เดลินิวส์ออนไลน์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


'อ.จุฬาฯ' ชี้นโยบายหาเสียงเป็นอุดมการณ์พรรค ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ-ทำไม่ได้ผิดก.ม.! - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

จำกัดส่งออกอาหารลาม 30 ชาติ IMF เตือนทำเศรษฐกิจโลกวุ่นหนัก - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

จำกัดส่งออกอาหารลาม 30 ชาติ IMF เตือนทำเศรษฐกิจโลกวุ่นหนัก  ประชาชาติธุรกิจ
จำกัดส่งออกอาหารลาม 30 ชาติ IMF เตือนทำเศรษฐกิจโลกวุ่นหนัก - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Wednesday, May 25, 2022

ทำแผนนาที อบต. ฆ่าหนุ่มคิดแย่งเมีย เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย ลั่น "ไม่ขอโทษ" คนตาย - Sanook

ตำรวจนำตัว อบต. มือยิงหนุ่มขนส่งทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวลั่นไม่ขอโทษผู้ตาย ด้าน ภรรยา อบต. ยอมรับรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก เคยได้เสียกัน คิดจะเลิกแต่ฝ่ายชายไม่ยอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.อ.สมยศ พื้นชัยภูมิ ผกก.สภ.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุทไธสง นำตัวนายระมัด หรือ อบต.อัด อายุ 48 ปี สมาชิก อบต. แห่งหนึ่งไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 

หลังจากใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง นายวุฒิภัทร หรือ แจ๊ค อายุ 36 ปี พนักงานขนส่งสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง 4 นัดซ้อน เสียชีวิตบนถนนสายพุทไธสง-หนองสองห้อง เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น. 24 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าสำนักงาน อบต.  

โดยเริ่มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ อบต.อัด นั่งอยู่หน้าบ้านแล้วเห็นรถขนส่งขับมาวนอยู่หน้าบ้านหลายรอบ และคาดว่าน่าจะเป็นผู้ชายที่พยายามติดต่อกับภรรยาทางเฟซบุ๊กเป็นประจำ แต่ตอนนั้นภรรยาไปเยี่ยมแม่ที่ อ.นาโพธิ์ รู้สึกผิดสังเกต จึงขับรถกระบะตามประกบรถขนส่งคันดังกล่าว

จากนั้นเห็นรถขนส่งขับรถปาดหน้ารถภรรยาตน จากนั้นนายแจ๊คได้พยายามจะมากระชากภรรยาตนออกจากรถ ตนจึงลงรถไปบอกนายแจ๊คว่า "นี่เป็นภรรยาผม" แต่นายแจ๊คไม่ยอม บอกว่าจะเอาไปอยู่ที่อุบลราชธานีด้วย

ก่อนจะมีการโต้เถียงกัน โดยนายแจ๊คพยายามท้าทายว่า "ไม่กลัวตาย" จะทำอะไรก็เชิญ พร้อมระบุวันนี้จะเอาภรรยาตนไปด้วยให้ได้ เพราะตั้งใจมาแล้ว ตนเห็นท่าไม่ดี จึงไปคว้าปืนออกจากรถมาหวังจะข่มขู่ แต่กลับถูกนายแจ๊ค พยายามจะเข้ามาทำร้าย จึงยิงออกไปโดยไม่นับว่ากี่นัด จากนั้นได้ขับรถพร้อมของกลางไปมอบตัวกับตำรวจ สภ.พุทไธสง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรและอยากจะขอโทษญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่ อบต.อัด ระบุ "ไม่ขอโทษ"

ด้าน นายทางสิทธิ์ ถาดไธสง อายุ 57 ปี กำนันตำบลบ้านแวง อ.พุทไธสง บอกว่า จากการสอบถามนางสุกัญญา ภรรยา อบต.อัด และเป็นสารวัตรกำนันด้วย ทั้งสองรู้จักกันกับนายแจ๊ค ทางเฟซบุ๊ก เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ต่อมาเดือน เม.ย. นายแจ๊ค ได้มาหาฝ่ายหญิงที่ อ.พุทไธสง 

สารวัตรกำนัน ยอมรับว่า ได้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจริง แต่พยายามจะตีตัวออกห่าง เพราะสามีเริ่มระแคะระคาย แต่ฝ่ายชายไม่ยอม และจะขับรถไปรับไปอยู่ด้วยกันที่ จ.อุบลราชธานี ฝ่ายหญิงพยายามปฏิเสธ สุดท้ายนายแจ๊คก็มาแล้วเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้น ตำรวจให้ญาติไปขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล

Adblock test (Why?)


ทำแผนนาที อบต. ฆ่าหนุ่มคิดแย่งเมีย เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย ลั่น "ไม่ขอโทษ" คนตาย - Sanook
Read More

BDMS ทุ่ม 2.3 หมื่นล้าน ทำสัญญาเช่าที่ดิน 13 ไร่ พัฒนาโครงการใหม่ - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

BDMS ทุ่ม 2.3 หมื่นล้าน ทำสัญญาเช่าที่ดิน 13 ไร่ พัฒนาโครงการใหม่  ประชาชาติธุรกิจ
BDMS ทุ่ม 2.3 หมื่นล้าน ทำสัญญาเช่าที่ดิน 13 ไร่ พัฒนาโครงการใหม่ - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

"วุธ อัษฎาวุธ" ควงลูกสาว "น้องสิงห์" ออกสื่อครั้งแรก-เผยลงทุนทำบอนสีกว่า 7 ล้าน - Sanook

ผู้กำกับมากความสามารถ วุธ อัษฎาวุธ ควงลูกสาวน้องสิงห์ ออกรายการครั้งแรก เผยเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงยังไม่รู้ว่ามีลูก ไม่ดันให้ลูกเข้าวงการอยากให้ลูกเป็นคนเลือกเอง รับช่วงโควิดหันมาทำสวนบอนสี ลงทุน 7 ล้าน เปรยชื่นใจเรตติ้งละครที่กำกับพุ่งสูงทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เพิ่งรู้ว่ามีลูก?

วุธ : "มีบางส่วนที่เค้ารู้ว่าเราแต่งงาน มีลูก แต่เราก็ไม่ได้เอาตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญใช้ชีวิตในวงการ เราก็ทำงานๆ ยิ่งช่วงหลังมากำกับละคร เรื่องออกหน้าจอ เล่นละครก็น้อยลง เราใช้เวลาอยู่เบื้องหลัง"

สวยมาก ได้พ่อหรือได้แม่?

วุธ : "ทั้งคู่ เพราะผมกับภรรยาหน้าคล้ายกัน"

สิงห์ : "หนูว่ามันก็ผสมๆกันค่ะ"

สนิทกับใครมากกว่ากัน?

สิงห์ : "เท่าๆ กันค่ะ เวลาพ่อไปทำงานก็อยู่กับแม่ เวลาพ่อกลับมาก็คุยกับพ่อ มีไปกองถ่ายบางครั้งค่ะ เพราะเรียนด้วย แล้วมีงานอดิเรกด้วยค่ะ"

วุธ : "นานๆ มีได้ไป ส่วนใหญ่ถ้าไปคือไปแสดงเป็นตัวประกอบ"

ทำไมถึงชื่อสิงห์?

สิงห์ : "เกิดเดือนสิงหาคมค่ะ"

วุธ : "พอรู้ว่าจะมีลูกเราเล่นละครได้บทพระเอกชื่อสิงห์บ่อยมาก มันสะดุดใจแล้วมันดูแข็งแรง ดูจบในคำ คิดว่าลูกน่าจะเป็นผู้ชาย แต่ถ้าเป็นผู้หญิงเรามีชื่อสำรองมั้ย สิงห์ก็ได้นะ เราควรจะให้ลูกโอเพ่นตั้งแต่เด็กๆเลย ถ้าเรายึดติดกับขนบเดิมๆลูกเราจะไม่หลุดพ้น มันจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง ยุคใหม่ๆทุกอย่างไม่มีผิดไม่มีถูก มันอยู่ที่เรา"

ไม่เจอนานสุดนานเท่าไหร่?

วุธ : "เป็นสัปดาห์ ออกไปทำงานก่อนเค้าตื่น กลับมาเค้าหลับแล้ว ตอนเด็กๆพาเค้าไปกองถ่ายเพื่อให้เห็นเราทำงานยังไง เค้าเลยเข้าใจ หลังจากนั้นไม่ให้ไปเลยเพราะว่าทุกคนจะแบบลูกผู้กำกับ ลูกผู้จัด จะถูกดูแลมากกว่าคนอื่น เราไม่อยากให้เค้าถูกสปอยล์"

สิงห์ : "เราก็ไม่อยากโดนดูแลมากกว่าคนอื่น เพราะมันไม่แฟร์สำหรับคนอื่นด้วยค่ะ"

ถ้าลูกบอกอยากเล่นละคร?

วุธ : "แล้วแต่เค้าเลือกเลย ถ้าเป็นสิ่งที่เค้าอยากเองยินดีเลยเพราะเป็นสิ่งที่เค้าเลือกเอง"

สิงห์ : "หนูเล่นได้ช่วยพอได้ค่ะ แต่ถ้าชอบมากกว่าไปช่วยเบื้องหลังดีกว่าค่ะ"

ช่วงนี้เค้าฮิตบอนสี?

วุธ : "ช่วงโควิดเราต้องอยู่บ้าน เราจะเห็นว่าทำไมต้นไม้บ้านเรา เราต้องซ่อมโน่นนั่นนี่ แต่พอมันหมดงานที่เราต้องทำอะ เราจะทำอะไรต่อหาโนนี่ทำ เพราะโควิดมันทำร้ายเรามากเลย ง่ายต่อการเป็นซึมเศร้ามาก น้าสะใภ้ของภรรยาปลูกต้นไม้ขายเราไปอุดหนุนเค้า ซื้อบอนสีมา 400 บาท หลังจากนั้นก็มีเรื่อยๆ แล้วเรามองว่าทำไมมันไม่สวยเหมือนตอนที่อยู่ที่สวน เกิดรายการขึ้นมาไม้เด็ด เป็นวิชาความรู้ให้คนทีชอบบอนสี สุดท้ายคิดว่าเราต้องมีสวนบอนสี"

สวน 7 ล้าน?

วุธ : "มันคือที่ที่อยู่ในซอย ต้องซื้อที่ ทำโครงสร้างอีกเป็นแสน บอนอีกไม่อยากพูดถึงราคา"

ขายด้วยมั้ย?

วุธ : "ใจไม่ค่อยอยากขาย มีคนมาขอซื้อ เพราะมันมีบอนที่มีต้นเดียวในโลก แพงสุด 500,000 ก็มี เอาไปเป็นต้นพันธุ์ไง"

สิงห์ : "มันเป็นงานอดิเรกของเค้า ก็โอเค"

วุธ : "มันเหมือนเป็นที่เปล่าที่ไม่ได้ทำอะไร มันต้องเสียภาษีและมีอะไรทีต้องดูแลมัน เหมือนเราหาที่ที่จะปลูกแล้ว ไหนๆก็ทำมันซะเลย"

มองอนาคตเรื่องนี้ว่ายังไงกับบอนสี?

วุธ : "ผมปลูกขยายพันธุ์ แต่ลูกเป็นคนขาย ใช้คำว่าบอนบำบัด ตอนโควิดจะออกกองก็ไม่ได้ ทำโน่นทำนี่ก็ไม่ได้ เงินเข้าไม่มีเลย พอเรามาปลูกมันใช้เวลากับมัน เราก็รู้จักรอ ทำให้เราสงบไปโฟกัสที่ต้นไม้"

ทะเลาะกับลูกบ้างมั้ย?

วุธ : "ก็มีนะ เงื่อนไขที่เราตกลงไม่ได้ทำอย่างนั้น จะเป็นการพูดคุยใช้เหตุใช้ผลกันมากกว่า"

สิงห์ : "เวลาทะเลาะกันสุดท้ายกว็จะมาคุยกันด้วยเหตุผลตลอด"

วุธ : "พยายามจะเข้าใจเหตุผลกัน บางทีเรามองว่าทำไมลูกเปลี่ยนไป บางทีเค้าไม่ได้อยากเปลี่ยนแต่ฮอร์โมนเค้า"

ลูกเล่นกลองอยากตั้งวงมั้ย?

สิงห์ : มีคุยๆ กับเพื่อนบ้างแล้วค่ะ"

วุธ : "โอเค บางทีมีเดี่ยวๆแล้วมันนึกไม่ออก แต่ถ้าเป็นวงมันอาจจะรู้ ฝึกการทำงานเป็นทีม"

บางคนมองว่าปล่อยให้ลูกสาวห้าว?

วุธ : "ให้เค้าได้เลือกเยอะๆ มันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นอะไรซักอย่าง ถ้าวแรกของเค้าเค้าควรได้เลือกเอง ถ้าเค้าทำแล้วมีความสุข เค้าก็อยากจะเดินไปข้างหน้าในจุดมุ่งหมายที่ดีสำหรับชีวิตเค้า เพราะเราเองก็ไม่รู้จะอยู่กับเค้าได้อีกนานแค่ไหน บุคลิกเป็นเรื่องภายนอกมากกว่า จริงๆมันอยุ่ข้างใน มันเริ่มตั้งแต่ชื่อแล้วแหละ ให้เค้าได้เปิดกว้าง ให้เค้าได้เป็นอิสระ"

สิงห์ : "จริตเล็บเจลค่ะ"

ละครกู้ภัยหัวใจสู้เรตติ้งสูงมาก 4.9?

วุธ : "กู้ภัยหัวใจสู้มันมีโครงเดิม ละครทุกเรื่องที่ทำเองก่อนส่งหรือออกอากาศจะให้คนในบ้านดูก่อน สิงห์เนี่นคือทาร์เกตเราเลย เปิดให้ดูแล้วสังเกตเค้าเค้าขำมั้ย สนุกมั้ย ถ้าไม่ก็ต้องแก้ไขตัดใหม่มั้ย อินเสิทเพิ่มมั้ย หรือไปถ่ายเพิ่มเลย หรือแม่บ้านที่บ้านก็ให้ดู"

สิงห์ : "ส่วนใหญ่ไม่ค่อยคอมเมนท์พ่อจะดูรีแอคชั่นมากกว่า"

เค้ารู้มั้ยเค้าคือคนสำคัญสำหรับเรตติ้งเรา?

วุธ : "ก็ไม่เชิงนะ นี่แหละเพิ่งรู้"

เรตติ้งขนาดนี้ชื่นใจมั้ย?

วุธ : "ชื่นใจ กว่าจะฝ่าฟันมันหนักหนาสาหัส ลุ้นฝนบ้าง ไม่รู้ว่าฉากนี้ทำมาแล้วคนจะสนุกมั้ย พระเอกนางเอกมีส่วนมาก ตงตง-เบส เค้าอินเลิฟกันในละคร เราเองก็เพิ่งรู้ มันมีบางฉากที่เราว่าทำไมเค้าตาหวานจัง มารู้ทีหลังว่าอินเลิฟกัน ฝากละคร กู้ภัยหัวใจสู้ 1 ทุ่มตรง จันทร์-ศุกร์ ทางช่องวัน เข้มข้นเรื่อยๆขึ้นทุกวัน ติดตามได้ครับ"

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one 31 Facebook Page : คุยแซ่บ Show รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

Adblock test (Why?)


"วุธ อัษฎาวุธ" ควงลูกสาว "น้องสิงห์" ออกสื่อครั้งแรก-เผยลงทุนทำบอนสีกว่า 7 ล้าน - Sanook
Read More

Tuesday, May 24, 2022

"ฝีดาษลิง"โรคเก่าไม่ธรรมดา ทำโลกหวั่น ปี2022ระบาดใหม่ - กรุงเทพธุรกิจ

แม้ “ฝีดาษลิง”จะไม่ใช่โรคใหม่ แต่การเจอระบาดในยุโรปแล้วอย่างน้อย 3 ประเทศ และมีรายงานพบผู้ป่วยอีกหลายประเทศนอกพื้นที่แอฟริกา ทำให้ทั่วโลกต้องเพิ่มกลไกเฝ้าระวังโรคนี้มากขึ้น เพื่อติดตามว่า “โรคมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีสิ่งไม่ธรรมดาเกิดขึ้น”หรือไม่

       โรคฝีดาษลิง(monkeypox) เคยระบาดมาแล้วมากกว่า 20 ปี โดยเชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้  ที่ผ่านมามีการรายงานพบผู้ติดเชื้อประปรายในประเทศแถบแอฟริกา
       ณ 24 พ.ค.2565 องค์การอนามัยโลก ยังไม่ได้ประกาศยกระดับการระบาดของโรคฝีดาษลิง มีเพียงการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ามีการระบาดผิดปกติ ในยุโรป ต้องติดตามใกล้ชิด คาดว่าจะมีการประชุมอีกเร็วๆ นี้ และพิจารณาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่จากการติดตามในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตัวเลขไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ยังต้องติดตามต่อไปในระยะนี้
        ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค ณ วันที่ 22 พ.ค.2565 ระบุมี ประเทศที่มีรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 17 ประเทศ ประกอบด้วย  อังกฤษ สเปน โปรตุเกต ฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย สวีเดน นอร์เวย์ กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และออสเตรเลีย โดย 3 ประเทศมีการกระจายแพร่เชื้อในประเทศ คือ อังกฤษ สเปน และโปรตุเกส

        หลายประเทศจึงต้องเริ่มกลไกการเฝ้าระวังโรค รวมถึงประเทศไทยด้วย  เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2565 มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรณี โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ แนวโน้ม พร้อมทั้งคาดการณ์สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เจัดทำแผนทั้งในระยะยาว ระยะกลาง ในการปรับปรุงกลยุทธ์ และมาตรการให้เหมาะสม "ฝีดาษลิง"โรคเก่าไม่ธรรมดา ทำโลกหวั่น ปี2022ระบาดใหม่

  การจัดตั้งศูนย์ มิอาจแปลว่า “โรคฝีดาษลิงจะต้องเกิดการระบาดใหญ่เหมือนโควิด-19แต่อย่างใด” เพราะในอดีตก็มีการเฝ้าระวังหลายโรค แต่โรคนั้นก็มิได้เกิดการระบาดใหญ่ และไม่ได้พบผู้ติดเชื้อในไทย หรือ เจอผู้ป่วยยืนยันไม่กี่ราย เช่น อิโบล่า และเมอร์ส 

เฝ้าระวังฝีดาษลิงจากประเทศเสี่ยง

          และตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.2565  เริ่มต้นการคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ระยะแรกเน้นทุกไฟลท์ที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคภายในประเทศ คือ อังกฤษ สเปน โปรตุเกสและบางประเทศในแถบแอฟริกากลาง อย่างไรก็ตาม รายชื่อประเทศอาจจะมีการปรับลดหากมีการควบคุมการระบาดได้ดีหรือปรับเพิ่มกรณีประเทศนั้นพบการระบาดภายในประเทศ  ซึ่งผู้เดินทางเข้าจะได้รับ "บัตรเตือนสุขภาพ(Health beware card)" และเป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกน เพื่อให้คำแนะนำว่าหากเดินทางมาจากประเทศเสี่ยง และมีอาการ ไข้หรือตุ่ม ให้รีบไปรพ.ที่ใกล้ที่สุดและแจ้งประวัติเสี่ยง 

         นอกจากนี้  กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้มีการกำชับให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ และคลินิกเฉพาะโรคทางต่างๆ เฝ้าระวังสังเกตอาการในผู้ป่วย เช่น มีไข้ และมีตุ่มน้ำใส จากนั้นจะเริ่มขุ่นและกลายเป็นแผล  โดยหากพบผู้ที่มีอาการร่วมกับประวัติเสี่ยง คือ เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคอยู่ หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จะต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันผู้ติดเชื้อ

 ส่วนคำแนะนำคนไทยที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศที่พบการระบาดของโรคนี้ ขอให้เน้นย้ำเรื่องเฝ้าระวังดูแลตนเอง โดยเฉพาะการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้คน และการรวมกลุ่มกิจกรรมในคนหมู่มาก ซึ่งการป้องกันตนเองทั้งสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างเป็นแนวปฏิบัติที่ยังจำเป็นในการป้องกันโรค 
 เกณฑ์3ด้านประเมินฝีดาษลิง
         และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะกำหนดให้ “โรคฝีดาษลิง”เป็นโรคติดต่ออันตรายหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยพบโรคนี้ในประเทศไทยมาก่อน โดยจะใช้เกณฑ์พิจารณา 3 ข้อ คือ 1.เกณฑ์ทางคลินิค  อาการที่เข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง  2. เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ(แล็ป) ว่าจะต้องมีการใช้แล็ปแบบไหน ระดับใด และ3.เกณฑ์ทางระบาดวิทยา เกี่ยวกับประวัติสัมผัส ประวัติเสี่ยง
        สิ่งที่ทั่วโลกกำลังติดตามข้อมูลสำคัญของ “ฝีดาษลิง” อย่างใกล้ชิดในขณะนี้ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า คงเป็นประเด็นเรื่องการแพร่โรคว่าจะมีความรุนแรงหรือไม่ เพราะในแอฟริกามีการเสียชีวิต แต่ในยุโรปและอเมริกายังมีผู้ป่วยที่มีอาการน้อย รวมถึง สายพันธุ์ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ด้วย
      ผู้ติดโรคฝีดาษลิงในฝั่งยุโรปตอนนี้ เท่าที่ดูข้อมูลจากอายุ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานจึงน่าจะไม่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ(smallpox)มาก่อน ผู้ที่เคยได้วัคซีนน่าจะต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไปเพราะในยุโรปมีการยุติการปลูกฝีก่อนประเทศไทยที่ยุติในปี 2523


       "คนที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษมาก่อน ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันฝีดาษลิงได้ราว 85 %นั้น  จากข้อมูลที่ได้รับตอนนี้ วัคซีนนี้น่าจะยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคฝีดาษลิงได้อยู่  แต่ต้องติดตามข้อมูลต่อไป"  นพ.จักรรัฐกล่าว 


 แล็ปในไทยตรวจยืนยันเชื้อได้
         ส่วนความพร้อมในการตรวจหาเชื้อโรคฝีดาษลิง ในประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ทั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยต่าง  นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์  อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งการตรวจวินิจฉัยโรคเพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อในคน  โดยได้เตรียมการตรวจหาสารพันธุกรรมด้วยเทคนิค Real-time  PCR ระยะเวลาการตรวจ 24 - 48 ชั่วโมง และการตรวจลำดับนิวคลิโอไทด์ ด้วยเทคนิค DNA sequencing ระยะเวลาการตรวจ 4 - 7 วัน
       รวมถึง การตรวจวิเคราะห์คุณภาพวัคซีนฝีดาษหรือไข้ทรพิษ(smallpox) เพื่อให้การรับรองคุณภาพวัคซีนที่จะนำมาใช้ในการป้องกันโรค  โดยทั่วโลกไม่มีการให้วัคซีนนี้มากว่า 40 ปี แต่ยังมีการผลิตขึ้นเพื่อป้องกันการใช้เป็นอาวุธชีวภาพ และป้องกันโรคฝีดาษลิง ซึ่งสหรัฐอเมริกามีวัคซีนฝีดาษคน จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ เป็นวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์  ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกาแล้ว

เข้มสกัดโรคสัตว์นำเข้า

       อย่างไรก็ตาม จากที่โรคนี้ติดต่อจากคนสู่คนและสัตว์สู่คนได้เช่นกัน โดยเฉพาะในสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเฝ้าระวังในสัตว์ด้วย

      กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้มีหารือแนวทางการปฏิบัติงานกรณีโรคฝีดาษลิง ในสัตว์ น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตว์แพทย์หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า  กล่าวว่า  ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง และกรมจะเพิ่มโรคนี้ในชื่อของโรคที่เฝ้าระวังในลิงเพิ่มขึ้น ส่วนการนำเข้าสัตว์ จะมีการเข้มงวด การตรวจสุขภาพสัตว์ป่าที่นำเข้ามาในประเทศ รวมถึง เสนอกรมปศุสัตว์ให้พิจารณาเพิ่มการตรวจโรคฝีดาษลิง สำหรับสัตว์ป่าที่จะนำเข้ามาจากประเทศในกลุ่มแอฟริกาที่ด่านตรวจสัตว์ป่าด้วย

       อีกทั้ง ประสานผู้ประกอบการให้ชะลอการนำเข้า ส่วนช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สัตว์ป่าที่มีการนำเข้าจากประเทศในกลุ่มแอฟริกา สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าจะประสานผู้ประกอบการ ในการสำรวจข้อมูลการเฝ้าระวังในสัตว์ป่าที่มีการนำเข้ามาแล้วต่อไป

Adblock test (Why?)


"ฝีดาษลิง"โรคเก่าไม่ธรรมดา ทำโลกหวั่น ปี2022ระบาดใหม่ - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

ก้าวไกล อัดสภาฯนำภาษีประชาชนมาทำสโมสรไว้เอ็นเตอร์เทน จี้ สภาทบทวน - กรุงเทพธุรกิจ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ปรึกษาหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้มีการทบทวนการใช้งานของสโมสรรัฐสภา โดยตนเห็นจากข่าวว่ามีการจัดเต็มทั้งลู่วิ่ง สปา ห้องซ้อมลีลาศ ซึ่งสภาแห่งนี้ไม่ได้มีที่ไว้ให้พวกเราเอ็นเตอร์เทน แต่เป็นสถานที่ทำงาน

ดังนั้นการจะใช้เวลาของเราและทรัพยากรของรัฐสภา รวมถึงภาษีของประชาชนไปทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ตนยังรับไม่ได้ ซึ่งการมีสโมสรสามารถทำได้ แต่ขอให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนพยายามผลักดันเรื่องห้องการให้นมบุตรที่ยังไม่มี รวมถึงห้องทำงานของเจ้าหน้าที่สภาขณะนี้ก็ยังไม่เพียงพอ

“ชาวบ้านที่พิษณุโลกอดยาก ยังน้ำท่วม น้ำประะปาขุ่นอยู่เลย แล้วห้องประชุมก็โล่งแบบนี้ เราจะมีสโมสรสันทนาการไปทำไม อยากให้มีการทบทวนโดยด่วน เรื่องนี้เราต้องรับผิดชอบต่อประชาชน” นายปดิพัทธ์ กล่าว

ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ชี้แจงว่า เบื้องต้นได้สอบถามกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้วเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ได้มีโอกาสไปตรวจสอบดูด้วยตัวเอง ซึ่งทราบว่าเป็นแบบที่ได้มีการทำไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็ขอรับไว้ว่าจะพิจารณาให้

Adblock test (Why?)


ก้าวไกล อัดสภาฯนำภาษีประชาชนมาทำสโมสรไว้เอ็นเตอร์เทน จี้ สภาทบทวน - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

'ทักษิณ'เตือนทหารทำรัฐประหาร ระวังดาบนั้นคืนสนองโดนประหารชีวิต - เดลินิวส์ออนไลน์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


'ทักษิณ'เตือนทหารทำรัฐประหาร ระวังดาบนั้นคืนสนองโดนประหารชีวิต - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

สุชาติ สอนมวย ชัชชาติ หาเสียงไว้ทำไม่ได้ประชาชนลงโทษ-ทำได้คะแนนทวีคูณ - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

สุชาติ สอนมวย ชัชชาติ หาเสียงไว้ทำไม่ได้ประชาชนลงโทษ-ทำได้คะแนนทวีคูณ  ประชาชาติธุรกิจ
สุชาติ สอนมวย ชัชชาติ หาเสียงไว้ทำไม่ได้ประชาชนลงโทษ-ทำได้คะแนนทวีคูณ - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

"เอ ศุภชัย" ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว เปิดใจเป็นเจ้าภาพจัดงาน ส่ง "แตงโม" ครั้งสุดท้าย - Sanook

แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ครั้งแรก สำหรับนักปั้นมือทอง เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร ที่ได้ร่วมกับซุปตาร์สาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นเจ้าภาพของจัดงานในพิธีไว้อาลัย และพิธีฌาปนกิจ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์

ล่าสุด ขณะที่ เอ ศุภชัย ได้เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจ แตงโม นิดา ณ คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิตคลองสี่ จ.ปทุมธานี ในวันนี้ (24 พ.ค.) เจ้าตัวก็มีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกในการได้ทำเพื่อน้องที่รักเป็นครั้งสุดท้าย

"พี่เอถือว่าเป็นเจ้าภาพตั้งแต่เราทำพิธีร่วมไว้อาลัย และวันนี้อย่างที่ทุกคนได้ทราบ พี่เอบอกว่าจะเป็นเจ้าภาพตั้งแต่วันไว้อาลัยจนถึงงานเผา และเลื่อนมาเรื่อยๆ พี่เอก็รอว่าเมื่อไหร่จะได้ทำหน้าที่ได้ครบสมบูรณ์แบบ วันนี้ก็ได้มาทำหน้าที่ครบแล้วค่ะ"

"ตั้งแต่ที่บอกไปตอนต้นเลยค่ะ พี่เอดูแลทุกอย่างเลย"

"คือเราใช้ความรักเป็นตัวนำทางค่ะ พี่เอจะคิดถึงแต่น้องโม จะคิดถึงแต่ความรักที่พี่เอมีให้น้องโมอย่างเดียว พี่เอจะไม่มองเรื่องอื่นเลย จะมองแค่เรื่องความรักที่พี่เอมีให้น้องโมอย่างเดียว และพี่เอก็จะทำหน้าที่พี่เอให้สมบูรณ์แบบในวันนี้ คือจะส่งน้องแบบเสร็จสมบูรณ์"

"เราก็รักน้อง คิดถึงน้องทุกวัน ก็เหมือนกับทุกคนที่คอยติดตามข่าว พี่เอก็เป็นเหมือนทุกคน"

"วันนี้พี่อั้มไม่ได้มาเพราะติดงานค่ะ ก็ส่งพี่เอมาเป็นตัวแทน ร่วมกันตั้งแต่ที่แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า เราจะเป็นเจ้าภาพตั้งแต่งานร่วมไว้อาลัย 3 เดือนที่แล้ว และเราก็ตั้งใจจะฌาปนกิจตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง ทำให้ยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ และวันนี้พี่เอก็ได้มาทำหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้วค่ะ"

บรรยากาศภายในพิธีฌาปนกิจ แตงโม นิดา

"พี่เอก็คิดถึงและระลึกถึงน้องโมตลอดค่ะ"

"ส่วนเรื่องที่หลายคนชื่นชมที่ในกลุ่มให้ความรักและความเอ็นดูกับเบิร์ด ก็ต้องขอบคุณนะคะ คือพี่เอจะคิดอยู่เสมอว่าเหมือนน้องโมยังอยู่กับพี่เอ สิ่งที่พี่เอทำอะไรไป พี่เอก็จะคิดเสมอว่าน้องโมยืนอยู่ข้างๆ ถ้าน้องโมยืนอยู่ข้างๆ น้องโมคงอยากให้พี่เอไปพูดคุยกับน้องเบิร์ด และก็ถามสารทุกข์สุขดิบ พี่เอก็จะทำหน้าที่ที่พี่เอรู้สึกว่ามีน้องโมยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้รู้สึกว่าน้องโมไม่อยู่แล้ว"

"อย่างวันเกิดพี่อ๊อด พี่อ๊อดคืออีกคนที่รักน้องโมมาก รักและดูแลทั้งน้องโมและน้องเบิร์ดในตอนที่น้องโมยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้ก็ยังมีเจตนารมณ์เดิม คือยังรักน้องทั้งคู่เหมือนเดิมค่ะ"

"ถามว่ายังมีเป็นห่วงอะไรเบิร์ดอีกไหม คือจริงๆ น้องเบิร์ดเป็นคนที่เก่งและดูแลตัวเองได้ดีมากเลยค่ะ พี่เอว่าเหมือนเราเข้าไป เราก็ยังไม่รู้ว่าไลฟ์สไตล์จริงๆ ของน้องเบิร์ดเขาเป็นยังไง พี่เอก็จะให้คนที่เป็นเพื่อนกันคอยถามสารทุกข์สุขดิบต่างๆ"

"ส่วนคนที่ยังรักน้องโม คือพี่เอไม่รู้จะพูดอะไรเลย พี่เอขอขอบคุณทุกความรักที่มีให้กับน้องโม ถ้าน้องโมอยู่ตอนนี้คงปลื้มปริ่มมากๆ หรือปลื้มดีใจมากๆ ที่ทุกคนรักน้องขนาดนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นว่าวงการบันเทิงเราสามัคคีเป็นพลังมากๆ พี่เอขอบคุณมากๆ เลยนะคะ"

"และที่ 2-3 วันมานี้มีเรื่องวุ่นวายต่างๆ เข้ามาเยอะแยะ คือพี่เอโฟกัสที่เรื่องจัดงานให้น้องอย่างเดียวเลยค่ะ พี่ว่าวันนี้เราจะจัดงานยังไง ไม่ได้โฟกัสเรื่องอื่นเลยค่ะ"

"ส่วนของที่ระลึกเป็นต้นแคมปัส อยากให้เป็นสิ่งหนึ่งที่ให้ทุกคนได้จดจำน้องโมในภาพดีๆ ทุกอย่างทุกชิ้นที่เกิดขึ้นในงานวันนี้ล้วนมีความหมายหมดอยู่แล้ว ทุกคนจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นความประทับใจ เก็บไว้ได้นานๆ เวลาคิดถึงน้อง"

Adblock test (Why?)


"เอ ศุภชัย" ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว เปิดใจเป็นเจ้าภาพจัดงาน ส่ง "แตงโม" ครั้งสุดท้าย - Sanook
Read More

ขอทำตามฝัน! เนเวสแย้มเตรียมลาวูล์ฟส์ซบบิ๊กทีมซีซั่นหน้า - Goal.com

Getty

รูเบน เนเวส จอมทัพของวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส พูดเป็นนัยว่าเขาเตรียมที่จะลาทีมหลังจบซบซีซั่นนี้

มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ย้ายมาโลดแล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกกับทัพหมาป่าในปี 2017 ก่อนจะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดนเด่น จนสามารถก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในยอดกองกลางของลีก

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าสัญญาของเขากับสโมสรจะยังเหลืออยู่ถึงปี 2024 แต่ล่าสุด ตัวนักเตะได้ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นนัย ๆ ว่าเขาต้องการจะย้ายไปอยู่กับทีมใหม่ในฤดูกาลหน้าแล้ว ท่ามกลางความสนใจจากบิ๊กทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล

"สิ่งเดียวที่ผมจะบอกได้ตอนนี้ก็คือ ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าฟุตบอลคืออะไร รู้อยู่แล้วว่าพวกเราเป็นอย่างไร อาชีพของเรามันสั้นจริง ๆ และเราต้องพยายามใช้โอกาสที่เรามี" กองกลางวัย 25 ปี กล่าว

"เราทุกคนล้วนมีความฝัน และเราต้องทำตามฝันนั้นในระยะเวลาที่มีเพียงน้อยนิด มารอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มาก"

"สโมสรนี้มีความหมายกับผมมาก ๆ มันคือทุก ๆ อย่างของผมและครอบครัว ลูก ๆ ของผมโตขึ้นที่วูล์ฟแฮมป์ตัน ผมมีลูกทั้งหมด 3 คน และพวกเขาทั้งหมดเกิดตอนผมอยู่ที่นี่ มันมีความหมายมากสำหรับผม และเหล่าผู้คนก็มีความหมายกับผมเช่นกัน พวกเขาช่วยผมมาตลอด"

อ่านบทความต่อด้านล่าง

"หากผมจากไป มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผมและครอบครัว แต่อย่างที่ผมได้บอกไป เรามีความฝันที่ต้องทำในระยะเวลาอันสั้น และถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมีอารมณ์ร่วมมากขนาดนั้นในเกมเหย้านัดสุดท้าย"

"ผมไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป แต่ถ้ามันเป็นเกมสุดท้ายของผมแล้ว มันสำคัญมากจริง ๆ อย่างที่ได้บอกไป ผมยังไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นตอนนี้ผมเลยคิดถึงเรื่องวันหยุดพักผ่อนและเรื่องทีมชาติ"

สำหรับ เนเวส ลงเล่นให้วูล์ฟส์ไปแล้ว 212 นัด ทำได้ 24 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์

Adblock test (Why?)


ขอทำตามฝัน! เนเวสแย้มเตรียมลาวูล์ฟส์ซบบิ๊กทีมซีซั่นหน้า - Goal.com
Read More

Sunday, May 22, 2022

คนแห่เก็บป้ายหาเสียงชัชชาติ หวังทำกระเป๋า เพจดังเตือนผิดกฎหมาย-ขอให้ส่งคืน - Sanook

คนแห่เก็บป้ายหาเสียงชัชชาติ หวังนำไปทำกระเป๋า เพจดังเตือนผิดกฎหมายลักทรัพย์ และอาจทำให้ชัชชาติโดนร้องเรียน ขอให้ส่งคืนทีมงาน

หลังช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.65 ที่ผ่านมา หมดเวลาการหาเสียงของผู้รับสมัครผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสนใจ คือ ป้ายหาเสียงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หมายเลข 8 ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสโซเชียลว่า ป้ายหาเสียงสามารถนำมาเย็บเป็นกระเป๋าได้ หลังหมดเวลาหาเสียงทำให้มีประชาชนออกตามหาป้ายเสมือนเป็นของหายากที่ทุกคนอยากมีไว้ในครอบครอง โดยภายหลังจากที่ ชัชชาติ ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นว่าที่ผู้ว่าฯ กรุงเทพ คนล่าสุด

ย้อนกลับไปอ่านโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อต้นเดือนมีนาคม ระบุไว้ว่า "ในการหาเสียงเลือกตั้ง แผ่นป้ายผ้าใบคงยังมีความจำเป็นอยู่ แต่เราก็จะพยายามใช้ให้น้อยที่สุด

ทางทีมงานเพื่อนชัชชาติ ไม่อยากให้ป้ายเหล่านี้กลายเป็นขยะหลังการเลือกตั้ง เราทำ Pattern ไว้ เพื่อเราสามารถเก็บกลับมา นำไปตัดและเย็บกระเป๋า หรือผ้ากันเปื้อน ไว้ใช้ต่อในทีมของเราเองได้เลยในอนาคต (แนวคิดนี้ได้มาจาก กลุ่ม ใครกาX Kraikax ที่ได้ลองทำไว้แล้วตั้งแต่เมื่อปี 62 ครับ) ใครมีไอเดียการนำป้ายไปใช้ เสนอกันมาได้เลยนะครับ"

อย่างไรก็ตาม ทางเพจ Drama-addict ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีนี้ไว้ว่า "ข่าวประชาสัมพันธ์ อย่าเก็บป้ายชัชชาติมาทำกระเป๋าโพสต์ลงโซเชียลเพราะจะผิดทั้งลักทรัพย์และอาจทำให้ชัชชาติโดนร้องเรียนได้ ใครที่เก็บป้ายชัชชาติไปทำกระเป๋าแล้ว ฝากนำส่งคืนที่ทีมชัชชาติด้วยจ้า แล้วเด๋วเขาจะเอาไปรีไซเคิลกันเอง ส่งคืนที่ อาคาร Mint Tower ห้อง 310-312 เลขที่ 719 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330"

Adblock test (Why?)


คนแห่เก็บป้ายหาเสียงชัชชาติ หวังทำกระเป๋า เพจดังเตือนผิดกฎหมาย-ขอให้ส่งคืน - Sanook
Read More

ตำรวจเตือน 3 สิ่งห้ามทำ เลือกผู้ว่าฯกทม.2565 - ฐานเศรษฐกิจ

22 พ.ค. 2565 เวลา 5:34 น.

เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.2565 บช.น.เตือน 3 สิ่งต้องห้าม ฉีกทำลายบัตรเลือกตั้ง ,นำบัตรเลือกตั้งออกจากคูหา และ ถ่ายภาพบัตรเลือกตั้ง มีโทษสูงสุดทั้งจำและปรับ

22 พ.ค.2565 เป็นวัน เลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ทั้ง 50 เขต ในรอบเกือบ 9 ปี ซึ่งตั้งแต่ 8.00 น.ที่ผ่านมา พบประชาชนแต่ละพื้นที่ ตื่นตัวกับการเลือกตั้งอย่างมาก ท่ามกลางการจัดการเลือกตั้งโดย กกต.และการดูแลความสงบเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกประชาสัมพันธ์ ข้อห้ามเมื่อเข้าคูหาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใน 3 เรื่องสำคัญ  ดังนี้ 

เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เข้าคูหา..ห้ามทำสิ่งนี้

  1. ฉีกทำลายบัตรเลือกตั้ง ปรับไม่เกิน 5,000 บาท (ม.121)
  2. นำบัตรเลือกตั้งออกนอกคูหาเลือกตั้งจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เพิกถอนสิทธิ 10 ปี (ม. 85 วรรค 2, ม.134)
  3. ถ่ายภาพ บัตรเลือกตั้งเพื่อให้เป็นเครื่องหมายลงคะแนน จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (ม.87, ม.135)

ตำรวจเตือน 3 สิ่งห้ามทำ เลือกผู้ว่าฯกทม.2565

โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำกำชับการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของประชาชนให้เป็นไปตามความมุ่งหมาย “นครบาลใส่ใจ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน" หากพบเห็นการกระทำที่มีความผิดสามารถแจ้งเบาะแสข่าวสารและขอคำแนะนำได้ที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งให้ทำการสืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี

ที่มา : บช.น.

Adblock test (Why?)


ตำรวจเตือน 3 สิ่งห้ามทำ เลือกผู้ว่าฯกทม.2565 - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

“คุณแม่”สงสาร “อัจฉริยะ”ทำเพื่อ “แตงโม”มาก แต่ไร้สังกัด - เดลินิวส์ออนไลน์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


“คุณแม่”สงสาร “อัจฉริยะ”ทำเพื่อ “แตงโม”มาก แต่ไร้สังกัด - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

'ศิธา' คาดหวังผู้ว่าฯคนใหม่ทำตามนโยบายที่ประกาศ - ไทยโพสต์

22 พ.ค. 2565 – เวลา 8.00 น. ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เขตสายไหม น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 38 แขวงคลองถนน เขตสายไหม จุดเลือกตั้งที่ลานเอนกประสงค์ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย

น.ต.ศิธา เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวล หลับสบาย เพราะไม่ต้องเตรียมการพูด หรือเตรียมข้อมูลในการอภิปรายหรือดีเบตเหมือนในช่วงที่ผ่านมา หลังการเลือกตั้ง จะพาครอบครัวไปรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ขณะที่การใช้สิทธิ์ไม่ได้ถือฤกษ์ มีเพียงการไหว้พระตามปกติเท่านั้น ผู้สมัครผู้ว่ากทม. ในครั้งนี้เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ประกอบกับคนไม่ได้เลือกตั้งมานาน จึงมีความคาดหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ

คาดหวังว่าผู้ว่าฯคนใหม่ จะทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อย่างเต็มความรู้ความสามารถ และในอนาคตหวังว่านโยบายการหาเสียงจะไม่วนเวียนอยู่ที่เดิมเพราะหากยังมีนโยบายเหมือนเดิมหมายความว่าปัญหาของกรุงเทพฯยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาจจะไม่ต้องได้รับการแก้ไขทั้งหมด แต่ควรอยู่ในระดับที่คนกรุงเทพฯพึงพอใจ และในส่วนของสก. ก็มีคนรุ่นใหม่เยอะมีความรู้ความสามารถซึ่งจะช่วยพัฒนาให้กรุงเทพมหานครมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นได้

ขอเชิญชวนพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง และเลือกบุคคลที่คิดว่าจะพัฒนากรุงเทพมหานครได้มากที่สุด หลายคนนโยบายดีมองเห็นแนวทางการพัฒนา ซึ่งจะเป็นความหวังของพี่น้องชาวกรุงเทพฯได้

แต่อย่างไรก็ตาม ความหวังเหล่านั้นจะไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังหากเราไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นขอเชิญชวนออกมาใช้สิทธิกันให้เยอะๆ

เพิ่มเพื่อน

Adblock test (Why?)


'ศิธา' คาดหวังผู้ว่าฯคนใหม่ทำตามนโยบายที่ประกาศ - ไทยโพสต์
Read More

พระครู เชิญวิญญาณ เมียฝรั่ง เผยต้องทำพิธี 3รอบ ตร.เจอเรื่องแปลก - ข่าวสด - ข่าวสด

พระครู ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เมียฝรั่ง ถูกฆ่าทิ้งไร่ข้าวโพด เผยสิ่งผิดปกติ ต้องทำพิธีถึง 3 รอบ ด้าน พนักงานสอบสวน เล่าเรื่องแปลก ก่อนวันผู้ต้อ...