ชาวเน็ตร่วมอนุโมทนา ชื่นชมศรีริต้า หลังเห็นคลิปทำอาหารแจกคนยากไร้ - มติชน

เมื่อคืนนี้ (29 เมษายน) ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ได้โพสต์คลิปขณะทำอาหารในอินสตาแกรม sriritajensen พร้อมบอกว่า ที่เธอทําคือเมนูโปรด ซึ่งก็คือข้าวกะเพราหมูสับ ไข่ต้ม สูตรโบราณ โดยทำจำนวน 100กล่อง เพื่อนำไปเเจกที่สนามหลวง โดยตั้งใจว่าจะขอเป็นส่วนเล็กๆที่ช่วยให้ผู้เดือดร้อนผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

View this post on Instagram

A post shared by Sririta Jensen (@sriritajensen)

การนี้มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาบอก ‘อนุโมทนาสาธุนะคะ สวยใจดีใจบุญมากๆเลยค่ะ🙏🙏🙏’

‘🙏🙏 น่ากินสุดๆ คนได้รับต้องมีความสุขมากๆคร้า🥰🥰’

‘น่ารักมากขอบคุณคะ🙏❤’

รวมถีง ‘อนุโมทนาสาธุค่ะ 🙏🙏🙏😇 เป็นคลิปที่ดูแล้วมีความสุขมากค่ะ❤️❤️❤️

Adblock test (Why?)

ชาวเน็ตร่วมอนุโมทนา ชื่นชมศรีริต้า หลังเห็นคลิปทำอาหารแจกคนยากไร้ - มติชน
Read More

ตำรวจออกหมายเรียก "ขุน-ชานนท์" คดีขับรถประมาททำผู้อื่นบาดเจ็บ 5 พ.ค.นี้ - ไทยรัฐ

ตร.หัวหมาก ออกหมายเรียก “ขุน-ชานนท์” มารับทราบข้อหา ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นรับบาดเจ็บ วันที่ 5 พ.ค.นี้ หากสารภาพคดีสามารถจบในชั้นสอบสวน ส่วนเงินเยียวยาเจ้าตัวโอนให้กับสาวคู่กรณีแล้ว 3 หมื่น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 เม.ย. พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.หัวหมาก เปิดเผย ความคืบหน้าคดีนายชานนท์ หรือขุน อักขรชาตะ อายุ 31 ปี นักแสดงหนุ่ม ขับรถยนต์เฉี่ยวชน น.ส.ปรารถนา โรจนณะแก้วประเสริฐ อายุ 21 ปี ขณะขี่รถจยย.บาดเจ็บ บริเวณแยกลำสาลี ถนนรามคำแหง เมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกให้ขุน ชานนท์ มารับทราบข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก และความผิดทางคดีอาญา โดยมีการพิจารณาจากเอกสารหลักฐานการตรวจร่างกายของผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบการแจ้งความดำเนินคดี 

รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หัวหมาก กล่าวอีกว่า หากขุน ชานนท์  ให้การรับสารภาพคดีสามารถจบได้ในชั้นของพนักงานสอบสวน แต่หากให้การปฏิเสธต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องต่ออัยการและศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ก่อนหน้านี้มีการประสานทางโทรศัพท์ แต่เจ้าตัวอ้างว่าช่วงนี้ยังติดภารกิจอยู่ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยังไม่สามารถมาพบพนักงานสอบสวนได้ โดยหมายเรียก มีกำหนดให้มาพบเพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี วันที่ 5 พ.ค. นี้

ล่าสุด เพจ drama addict โพสต์ แสดงความดีใจกับผู้เสียหาย พร้อมโชว์สลิปการโอนเงินให้ผู้เสียหายแล้วจำนวน 30,000 บาท  โดยมีการโอนผ่านบัญชีของ ขุน ชานนท์ รวมสองครั้ง ครั้งแรก เวลา 10.08 น. จำนวน 20,000 บาท และครั้งที่สอง เวลา 10.13 น. อีก 10,000 บาท.

Adblock test (Why?)

ตำรวจออกหมายเรียก "ขุน-ชานนท์" คดีขับรถประมาททำผู้อื่นบาดเจ็บ 5 พ.ค.นี้ - ไทยรัฐ
Read More

เสียชีวิตแล้ว ชายวัย 40 ปี สายสื่อสารเกี่ยวคอ ทำรถจยย.ล้ม กะโหลกร้าว - Sanook

ชายวัย 40 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังขี่จยย.ไปซื้อของ เจอสายสื่อสารเกี่ยวคอ ภรรยาทำใจไม่ได้ ลูก 3 คน กลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ร.ต.อ.กฤติพงษ์ หงส์สูง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำดวน ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้รับแจ้งว่ามีคนประสบอุบัติเหตุสายสื่อสารเกี่ยวคอไม่รู้สึกตัว อยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 2077 ตรงข้าม รพ.ลำดวน

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Super Cub หมายเลขทะเบียน 609 สุรินทร์ ทราบชื่อผู้ที่ประสบเหตุ คือ นายบุญเกิด อายุ 40 ปี มีอาการสาหัส มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะเลือดไหลออกหู ไม่รู้สึกตัว

สภาพตัวรถด้านข้างถลอกกระจกแตกล้มอยู่ในที่เกิดเหตุ ที่ตัวผู้บาดเจ็บพบสายสื่อสารพันอยู่บริเวณคอและมือ เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู อาการสาหัส ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

จากการสอบถาม นางสาวพรธิรา อายุ 42 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บ ทราบว่า นายบุญเกิดกำลังเดินทางไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้กลับ รพ.ลำดวน ช่วงขากลับมืดคาดว่าคงมองไม่เห็นสายสื่อสาร

และสายสื่อสารบริเวณถนนเส้นนี้ ส่วนมากจะตัดกองไว้กับพื้นหย่อนเกือบตลอดทั้งสาย ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นหลักจากตัวเมืองสุรินทร์ มายัง อ.ลำดวน ผ่านไปยัง อ.สังขะ ที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนใช้สัญจรไปมาเป็นประจำและจำนวนมาก

ฝากถึงบริษัทเจ้าของสายสื่อสารดังกล่าวให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และให้มีการจัดเก็บสายสื่อสารต่างๆ ที่ห้อยตามสายไฟพาดผ่านท้องถนนต่างๆ ให้เรียบร้อย ก่อนจะมีประชาชนต้องมารับเคราะห์แบบนี้อีก

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.04 น. นายบุญเกิด ได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว จากอาการบาดเจ็บสาหัสกะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงอย่างมาก ขณะที่ภรรยายังทำใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความมักง่ายของบริษัทสื่อสาร และเรียกร้องให้บริษัทสายสื่อสารออกมารับผิดชอบ

ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าสายสื่อสารดังกล่าวเป็นของบริษัทใด เพื่อให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้ตายยังมีลูกที่ต้องดูแลอีก 3 คน ประกอบด้วย ลูกชายวัย 16 ปี ลูกชายวัย 14 ปี และลูกสาววัย 10 ปี ที่ต้องขาดที่พึ่งและผู้นำครอบครัว เพราะผู้ตายมีอาชีพขับรถตู้รับจ้างเหมานำเที่ยวและรับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นอาชีพหลักที่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว

Adblock test (Why?)

เสียชีวิตแล้ว ชายวัย 40 ปี สายสื่อสารเกี่ยวคอ ทำรถจยย.ล้ม กะโหลกร้าว - Sanook
Read More

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯทำคดีฉ้อโกงระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า - สำนักข่าวอิศรา

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯ ทำคดีฉ้อโกงทำระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า ล่าสุด สนง.ทำหนังสือถามช่วงเดือน ธ.ค.64 ได้รับแจ้งคำตอบอยู่ขั้นตอนระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

---

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวกรณี ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานศาลยุติธรรม ได้รับข้อสังเกตของ ก.ต.ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทเอกชนที่รับจ้างทำระบบลงผลคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในข้อหาฉ้อโกง แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลการเลือกตั้งกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ชั้นอุทธรณ์ หรือ I-Vote และที่ประชุม ก.ต. ยังมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบุคลากรภายในที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างงานทำระบบเลือกตั้งดังกล่าวด้วย 

ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อบริษัทเอกชน ที่รับจ้างทำระบบลงผลคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในข้อหาฉ้อโกง ต่อ สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่ความคืบหน้าแต่อย่างใด  

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ได้ทำหนังสือแจ้งตอบกลับ สำนักงานศาลยุติธรรม ที่ทำเรื่องสอบถามความคืบหน้าคดีนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564  แต่ได้รับแจ้งข้อมูลเพียงแค่ว่า คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้รับทราบเท่านั้น  

"ปัจจุบันเข้าสู่เดือนเมษายน 2565 แล้ว นับระยะเวลาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 ผ่านมาเกือบปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคดีนี้จะยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทั้งที่ เป็นคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในวงการศาลยุติธรรมของไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะให้ความสำคัญมากกว่านี้"  แหล่งข่าวระบุ

Adblock test (Why?)

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯทำคดีฉ้อโกงระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า - สำนักข่าวอิศรา
Read More

พฤติกรรมทำทริปล่ม - ไทยรัฐ

นับเป็นเหตุการณ์เตือนใจนักท่องเที่ยวอย่าได้ริทำพฤติกรรมพิเรนทร์ “โชว์ของลับ” ตามที่สาธารณะ หรือตามป่าเขาลำเนาไพร ไม่เช่นนั้นอาจต้องจบทริปก่อนกำหนด

เหมือนกรณีของนายเจฟฟรีย์ เครเกน นักแสดงชาวแคนาดาที่อ้างว่าเป็นกูรูด้านการดูแลสุขภาพ ต้อง “ปิดฉาก” การท่องเที่ยวอย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกทางการอินโดนีเซีย “เนรเทศ” ออกจากเกาะบาหลี หลังเจ้าตัวโพสต์วิดีโอโชว์ลีลาการเต้น “ฮากา” ท่าเต้นที่แสดงถึงความภาคภูมิใจ ความแข็งแกร่ง และความสามัคคีของชาวเมารี ในนิวซีแลนด์ ในสภาพ “เปลือยเปล่าโทงเทง” บนยอดภูเขาไฟบาตูร์อันศักดิ์สิทธิ์บนเกาะบาหลี

หลังวิดีโอสุดอะร้าอร่ามแพร่กระจายท้าทายสายตาชาวโซเชียล สร้างความขุ่นเคืองในหมู่ชาวเน็ตอินโดใหญ่โต จนร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ต้องแอ็กชันจัดการลงโทษให้สาสม กับการกระทำที่ลบหลู่ดูหมิ่น ไม่เคารพค่านิยมและความเชื่อของชาวบาหลี กระทั่งเครเกนถูกไล่ตะเพิด แถมด้วยถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าเกาะบาหลีอีก

ส่วนเครเกน ที่ปักหลักท่องเที่ยวและศึกษาการแพทย์ทางเลือกที่อินโดนีเซียมาตั้งแต่ปลายปี 2562 อ้างเสียงอ่อย “ไม่รู้” ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ด้านเจ้าหน้าที่ย้ำชัด “โปรดปฏิบัติตามกฎหมายและค่านิยมวัฒนธรรมบาหลีของเรา” หรือแปลสั้นๆว่า “ท่องเที่ยวอย่างมีวัฒนธรรมก่อนหน่อย”.

อึ่งอ่างกลางฝน

Adblock test (Why?)

พฤติกรรมทำทริปล่ม - ไทยรัฐ
Read More

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯทำคดีฉ้อโกงระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า - สำนักข่าวอิศรา

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯ ทำคดีฉ้อโกงทำระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า ล่าสุด สนง.ทำหนังสือถามช่วงเดือน ธ.ค.64 ได้รับแจ้งคำตอบอยู่ขั้นตอนระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

---

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวกรณี ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานศาลยุติธรรม ได้รับข้อสังเกตของ ก.ต.ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทเอกชนที่รับจ้างทำระบบลงผลคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในข้อหาฉ้อโกง แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลการเลือกตั้งกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ชั้นอุทธรณ์ หรือ I-Vote และที่ประชุม ก.ต. ยังมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบุคลากรภายในที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างงานทำระบบเลือกตั้งดังกล่าวด้วย 

ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อบริษัทเอกชน ที่รับจ้างทำระบบลงผลคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในข้อหาฉ้อโกง ต่อ สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่ความคืบหน้าแต่อย่างใด  

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ได้ทำหนังสือแจ้งตอบกลับ สำนักงานศาลยุติธรรม ที่ทำเรื่องสอบถามความคืบหน้าคดีนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564  แต่ได้รับแจ้งข้อมูลเพียงแค่ว่า คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้รับทราบเท่านั้น  

"ปัจจุบันเข้าสู่เดือนเมษายน 2565 แล้ว นับระยะเวลาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 ผ่านมาเกือบปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคดีนี้จะยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทั้งที่ เป็นคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในวงการศาลยุติธรรมของไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะให้ความสำคัญมากกว่านี้"  แหล่งข่าวระบุ

Adblock test (Why?)

ข้องใจเกือบปีแล้ว! สน.พหลฯทำคดีฉ้อโกงระบบ I-VOTE ศาลยุติธรรมคืบหน้าช้า - สำนักข่าวอิศรา
Read More

หลวงพี่ย้อย หวิดโดนขับออกจากวัด ​ยันทำเพื่อศาสนา ชี้สาวส่งคลิปแฉกาโตะ - ข่าวสด

จากกรณี มีการปล่อยคลิปเสียงหญิงสาว คุยกับผู้ชาย ซึ่งอ้างว่าเป็นพระกาโตะ พระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่ง พระกาโตะ ได้ออกมาปฏิเสธ และระบุว่า เป็นเพียงการทำคลิปเพื่อทำให้เข้าใจผิด ซึ่งฝ่ายหญิงออกมาเปิดเผยภายหลังว่า ทำคลิปขึ้นและเป็นโรคไบโพล่าร์นั้น​

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

โดย หลวงพี่ย้อย พระลูกวัด วัดเพ็ญชาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ได้ระบุว่า ตนเองได้ถูกขับออกจากวัด โดยเปิดเผยว่า ระหว่างที่กำลังสัมภาษณ์สื่ออยู่ เจ้าอาวาสก็เดินมาหา บอกว่า คุณออกจากวัดได้เลยนะ พระสมเด็จโทรมาหาบอกว่าให้ไล่พระย้อยออกจากวัดไป เลยถามกลับไปว่า ผมทำอะไรผิด ผมทำความดีนะ ยังยืนยันว่า จะต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนา และทำความดี

ข่าวแนะนำ

จากนั้น หลวงพี่ย้อย ได้พยายามอธิบายกับเจ้าอาวาส ว่าตนเองพยายามทำเพื่อปกป้องศาสนา ไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร พร้อมระบุว่า ผู้หญิงได้ส่งคลิปให้ตน และคิดว่าปรึกษากับตนเองนั้นจะปลอดภัย ซึ่งเจ้าอาวาส ได้ระบุว่า ไม่ใช่กิจของพระไปยุ่งวุ่นวายอะไร ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องทำให้ยุ่งยาก

โดย พระย้อย พยายามอธิบายให้เจ้าอาวาสฟังพร้อมสะอื้นไห้ว่าพยายามปกป้องวัดไม่ให้เสื่อม ทำด้วยความหวังดี จากการพูดคุยพบว่า มีความเข้าใจผิด เรื่องการทำให้วัดเสียหาย และเจ้าอาวาสกำชับว่า อย่าทำให้วัดเกิดความเสียหายอีก

ด้านเจ้าอาวาส ระบุว่า ถ้าเขาบอกว่าไม่ผิดอะไร ก็แล้วแต่ ซึ่งทางที่ถูกต้องจะต้องให้เจ้าคณะอำเภอ และพระอุปัชฌาย์ของท่าน เขียนหนังสือมาให้เจ้าอาวาส ถึงกรณีที่เป็นข่าวว่ามีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร

Adblock test (Why?)

หลวงพี่ย้อย หวิดโดนขับออกจากวัด ​ยันทำเพื่อศาสนา ชี้สาวส่งคลิปแฉกาโตะ - ข่าวสด
Read More

CPF เร่งทำตลาด "ไก่เบญจา" เสริมโอเมก้า-3 - กรุงเทพธุรกิจ

ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ และพิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการเป็นสาเหตุโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซีพีเอฟ จึงมีความมุ่งมั่นผลิตอาหารปลอดภัย เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ปลอดสาร ปราศจากยาปฏิชีวนะตกค้าง ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับสากล ส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพดี ปลอดภัย

หลักสวัสดิภาพสัตว์มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร หากสัตว์ได้รับอาหารที่ดี มีความเป็นอยู่สุขสบายในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างทั่วถึง จะส่งผลให้สัตว์แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงดู ซึ่งไก่เบญจาทุกตัวมาจากพ่อแม่สายพันธุ์ดีเยี่ยมตามธรรมชาติ ไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม (non-GMO) เลี้ยงในฟาร์มที่มีระบบป้องกันโรค เลี้ยงแบบปล่อยให้ไก่มีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ (Cage Free) แสดงพฤติกรรมได้ตามธรรมชาติ

รวมทั้งมีความเป็นอยู่สบายในโรงเรือนที่มีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นที่เหมาะสม มีอาหารเพียงพอ ได้ดื่มน้ำสะอาด มีการปรับสูตรอาหารตามช่วงอายุทำให้ไก่เจริญเติบโตอย่างดีที่สุด ตลอดจนมีการตรวจสุขภาพไก่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไก่เบญจาทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ใช้ฮอร์โมน และได้รับการรับรองจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Sanitation Foundation; NSF) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก ว่าไก่เบญจาไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู

ด้วยแนวคิด “You are what you eat” กินอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะคนอย่างเดียว แต่สัตว์ก็เช่นกัน ซีพีเอฟ จึงมีการวิจัยและใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ไก่อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับให้มีความแตกต่างจากไก่ทั่วไป จนได้สูตรอาหารสุดพิเศษสำหรับไก่ ที่ใช้ข้าวกล้องเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารสัตว์ ทำให้ไก่เบญจามีคุณสมบัติเฉพาะตัว ทั้งรสชาติ ความหอม ความนุ่ม และความฉ่ำของเนื้อมากกว่าไก่ปกติ ซึ่งทีมวิจัยจะมีการทดสอบโดยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และความชอบของผู้บริโภคควบคู่ไปด้วยอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราได้ส่งต่อสิ่งดีถึงผู้บริโภค

ดร.ไพรัตน์ ระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน นอกจากวัตถุดิบหลักอย่างข้าวกล้อง ยังมีการใช้วัตถุดิบที่เป็นแหล่งของโอเมก้า-3 เช่น เมล็ดแฟลกซ์ (flaxseed) จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ “ไก่เบญจา เสริมโอเมก้า-3” จากผลวิจัยพบว่าเนื้อไก่มีปริมาณโอเมก้า-3 สะสมมากกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 2.5 เท่า และมีปริมาณโอเมก้า-6 ต่อ 3 ในสัดส่วนที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นด้วย

ไก่เบญจา เสริมโอเมก้า-3 เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการ ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค คงรสชาติอร่อยถูกปาก คำนึงถึงความรู้สึกและความเป็นอยู่ของสัตว์ทุกตัวเป็นสำคัญ บนหลักการ “สัตว์แข็งแรง คนก็แข็งแรง”

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์

Adblock test (Why?)

CPF เร่งทำตลาด "ไก่เบญจา" เสริมโอเมก้า-3 - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

“พาณิชย์”แนะผู้ส่งออกทำตลาดสินค้าอาหารจากพืช เจาะผู้บริโภคชาวอเมริกัน - ผู้จัดการออนไลน์

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าผู้ส่งออกไทย ทำตลาดสินค้าอาหารที่ทำจากพืช เจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกัน หลังแนวโน้มความต้องการพุ่งสูงขึ้น แนะเลี่ยงสินค้าที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมอยู่แล้ว ทั้งไส้กรอก เบอร์เกอร์ เนื้อ ลูกชิ้น และเนย เน้นสินค้าแปลกใหม่อย่างเครื่องดื่มนมมะพร้าว นมถั่ว อาหารทำจากพืช อาหารกลุ่มวีแกน จะมีโอกาสมากกว่า ระบุควรขอเครื่องหมายรับรอง และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อเปิดตัวสินค้าด้วย

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก ถึงโอกาสการทำตลาดสินค้าอาหารที่ทำจากพืช เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มที่ให้ความสำคัญในด้านสุขภาพ การรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพของสัตว์ ที่กำลับเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าว มีข้อมูลยืนยันจากสมาคม Plant-Based Foods Association ร่วมกับสถาบัน The Good Food Institute ที่ได้เปิดเผยยอดค้าปลีกจำหน่ายอาหารทำจากพืชของปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 7,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% โดยกลุ่มสินค้านมจากพืช (Plant-based milk) ยอดขายเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 35% ของกลุ่มโปรตีนจากพืช หรือปัจจุบันคิดเป็น 16% ของยอดค้าปลีกนมทั้งหมด ส่วนนมจากสัตว์ มีมูลค่า 264 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2% ขณะที่ชีสจากพืช โยเกิร์ต ครีมเทียม เนย และไอศกรีม ล้วนมีการเติบโตมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์

ขณะที่เนื้อจากพืชเฉพาะแพ็กในบรรจุภัณฑ์ ในปี 2564 สัดส่วนตลาดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% ครัวเรือนซื้อเนื้อสัตว์จากพืชเพิ่มขึ้น 18% ส่วนยอดขายของเนื้อสัตว์จากพืชขยายตัว 74% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายของเนื้อทั่วไปเติบโตขึ้น 8% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อาหารหมวดไข่จากพืชยังเป็นกลุ่มย่อย แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2564 ยอดขาย 8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 42% มีส่วนแบ่งตลาดไข่เกือบ 0.6% และยอดขายไข่แบบธรรมดาลดลง 4% ในปี 2564

นายภูสิตกล่าวว่า ปัจจุบันการบริโภคอาหารทำจากพืช รวมไปถึงเนื้อที่ทำจากพืช ได้ขยายวงออกไปมาก ไม่เพียงแต่ในกลุ่มเฉพาะผู้ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ แต่ได้ขยายเข้ากลุ่มผู้บริโภคหลักของประเทศ โดยพบว่า คนอเมริกันกว่า 30% หันมาบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทำจากพืช และ 63% เป็นผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 24-39 ปี ทำให้กระแสความต้องการบริโภคสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากพืชในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเป็นอาหารมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีรสชาติที่ดี และยังมีความต้องการอยากทดลองชิมรสของผู้บริโภค ที่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งต่อการเพิ่มการบริโภคอาหารทำจากพืช

นอกจากนี้ ยังพบว่า นักลงทุน และโรงงานผลิตอาหารในสหรัฐฯ ได้ทุ่มทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารทำจากพืชเพื่อสนองความต้องการตลาดที่ขยายตัวเป็นลำดับ รวมไปถึงยักษ์ใหญ่วงการอาหารของสหรัฐฯ เช่น บริษัท Ingredion, Inc., Tyson Foods Smithfield , Perdue , Hormel , Nestle , Jimmy Dean และ Unilever ต่างเข้ามาแข่งขันแย่งสัดส่วนตลาดอาหารทำจากพืชเช่นกัน รวมถึงวงการร้านอาหารจานด่วน ผู้นำของตลาดต่างได้นำเสนอเมนูอาหารทำจากพืชให้บริการแก่ลูกค้า เช่น McDonald นำเสนอเมนู McPlant Meatless Burger ร้าน KFC นำเสนอ Beyond Fried Chicken และ ร้าน Burger King เสนอเมนู Impossible Whopper เป็นต้น

ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มทำจากพืช มักจะจำหน่ายในตลาด Mainstream เป็นช่องทางหลัก ได้แก่ ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น Kroger , Whole Food Market , Trader Joe's , Costco

นายภูสิตกล่าวว่า การขยายตัวของตลาดบริโภคอาหารทำจากพืช ถือเป็นช่องทางและโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าอาหารไทยในการขยายตลาดไปยังสหรัฐฯ แต่สินค้าอาหารทำจากพืชของไทย ควรเลี่ยงเข้าไปแข่งขันกับกลุ่มอาหารทำจากพืชพื้นฐานที่ผู้บริโภคอเมริกันคุ้นเคยและเป็นสินค้าที่มีผลิตในประเทศสูง เช่น ไส้กรอก , ฮอตดอก , เบอร์เกอร์ , เนื้อ , ลูกชิ้น และเนย โดยควรนำเสนออาหารและเครื่องดื่มทำจากพืช เช่น เครื่องดื่มนมมะพร้าว และนมถั่วชนิดต่าง ๆ อาหารปรุงสำเร็จรูปพร้อมรับประทานทำจากพืชหรือธัญพืช อาหารทะเลทำจากพืช (Plant-based seafood) และอาหารผู้บริโภคกลุ่มวีแกน ซึ่งผลิตจากขนุนและหัวปลีกล้วย ซึ่งมีโอกาสเจาะตลาดได้

นอกจากนี้ ควรพิจารณาขอรับการรับรองเครื่องหมายว่าเป็นอาหารที่ผลิตจากพืชจากสมาคม Plant Base Foods ของสหรัฐฯ (www.plantbasedfoods.org) เพื่อสร้างความมั่นใจในตัวสินค้าให้กับผู้บริโภคในสหรัฐฯ และควรไปเข้าร่วมแสดงสินค้าที่สำคัญของวงการ คือ Plant Base World Conference and Expo 2022 ระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย.2565 ที่นครนิวยอร์ก และงาน Natural Product Expo East 2022 ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.–1 ต.ค.2565 ที่นครฟิลาเดลเฟีย

Adblock test (Why?)

“พาณิชย์”แนะผู้ส่งออกทำตลาดสินค้าอาหารจากพืช เจาะผู้บริโภคชาวอเมริกัน - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

แนะนำสิ่งที่ควรทำก่อนส่งต่อ / ขาย iPhone ให้ผู้อื่น (อัปเดต 2022) - iPhoneMod

ก่อนที่เราจะส่งต่อ iPhone เครื่องเก่าของเราไปให้ผู้อื่น หรือก่อนจะขาย iPhone ต่อให้คนอื่น จะต้องทำอะไรก่อนส่งที่จะส่งต่อบ้าง มาดูคำแนะนำจาก Apple กันเลย

คำแนะนำ สิ่งทีควรทำก่อนที่จะส่งต่อหรือขาย iPhone ให้คนอื่นใช้ต่อ

ก่อนที่เราจะขายหรือส่งต่อ iPhone เครื่องเก่าของเราไปให้ผู้อื่นใช้ เราจะต้องทำการเคลียร์ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องออกไปให้หมดก่อน และยังมีขั้นตอนอื่น ๆ ด้วย จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1.สำรองข้อมูล

แนะนำให้สำรองข้อมูลทั้งหมดใน iPhone เครื่องเก่าเอาไว้เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย โดยการสำรองข้อมูลบน iPhone ก็สามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสำรองข้อมูลผ่าน iCloud โดยเราจะต้องมีพื้นที่ iCloud เพียงพอให้เก็บข้อมูลทั้งหมด

วิธีการสำรองข้อมูล iPhone ด้วย iCloud (วิธีที่ง่ายที่สุด) 

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แตะที่ Apple ID ของเราด้านบนสุด > iCloud > สำรองข้อมูล iCloud (iCloud BackUp) > เลื่อนเปิดการสำรองข้อมูล iCloud​

กดที่ “สำรองข้อมูลตอนนี้” และรอจนกว่าระบบจะทำการสำรองข้อมูลเสร็จ เมื่อเสร็จแล้วจะมีเวลาการสำรองข้อมูลสำเร็จล่าสุดบอกอยู่ด้านล่าง

นอกจากนี้ยังมีวิธีการสำรองข้อมูลด้วยวิธีอื่นด้วย

หากเครื่องเก่าเป็น iOS 15 หรือใหม่กว่า สามารถใช้ฟีเจอร์ “จัดเตรียมสำหรับ iPhone เครื่องใหม่” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่เตรียมจะย้ายไปใช้ iPhone เครื่องใหม่

2.ถ่ายโอนข้อมูล (หากมี iPhone เครื่องใหม่แล้ว)

ก่อนที่เราจะส่งต่อ iPhone เครื่องเก่าไปให้ผู้อื่น สิ่งที่เราต้องทำอย่างแรกเลยคือการโอนข้อมูลไปยังอุปกรณ์เครื่องใหม่ก่อน จากนั้นค่อยลบข้อมูลส่วนตัวออกจากอุปกรณ์เครื่องเก่า โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ใช้คุณสมบัติ “เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว” เพื่อถ่ายโอนข้อมูลไปยัง iPhone เครื่องใหม่

หากมีทั้ง iPhone เครื่องใหม่และเครื่องเก่าให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการย้ายข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่าไปเครื่องใหม่

1.วาง iPhone เครื่องเก่าและ iPhone เครื่องใหม่ไว้ใกล้ ๆ กัน

2.เลือกภาษาใน iPhone เครื่องใหม่ (แนะนำให้ตั้งเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษตามสะดวก)

3.จากนั้นจะมีหน้าต่าง “ตั้งค่า iPhone เครื่องใหม่” เด้งขึ้นมา ให้แตะที่ “ปลดล็อคเพื่อดำเนินการต่อ” และจะมีการให้ป้อนรหัสผ่านเพื่อปลดล็อคเครื่องเก่า

4.นำ iPhone เครื่องเก่าไปสแกนที่ iPhone เครื่องใหม่

• ยก iPhone เครื่องเก่าขึ้นมา จากนั้นให้นำไปสแกนกับสัญลักษณ์วงกลมสีฟ้า ๆ ที่ปรากฏอยู่บนเครื่องใหม่ โดยจัดตำแหน่งให้อยู่ในวงกลมที่กำหนดไว้

• หากกล้องของ iPhone เครื่องเก่ามีปัญหา ไม่สามารถสแกนได้ ให้แตะที่คำว่า “ตรวจสอบสิทธิ์เอง” จากนั้นให้ใส่รหัส 6 หลักที่ขึ้นอยู่ใน iPhone เครื่องใหม่ลงไป

หลังจากนั้น iPhone เครื่องใหม่จะถามหารหัสผ่าน iPhone เครื่องเก่า ให้กรอกรหัสผ่านลงไป

5.ตั้งค่า FaceID ให้เรียบร้อย

แนะนำให้ทำการตั้งค่า FaceID ตั้งแต่ตอนนี้เลย ให้แตะที่ “ดำเนินการต่อ” จากนั้นแตะที่ “เริ่มต้นกัน” และทำการสแกนใบหน้าของเราลงไปตามคำแนะนำ

6.iPhone เครื่องใหม่จะแสดงระยะเวลาในการโอนย้ายข้อมูลขึ้นมา ให้แตะที่ “ดำเนินการต่อ”

หากเรามีข้อมูลในเครื่องเก่าอยู่ประมาณ 100GB จะใช้เวลาถ่ายโอนข้อมูลประมาณ 1 ชั่วโมง

7.แตะ “ยอมรับ” ข้อกำหนดและเงื่อนไข

8.หลังจากนั้นจะเจอหน้าที่บอกว่า “ตั้งค่าเครื่องนี้เป็น iPhone เครื่องใหม่ของคุณ” เป็นการบอกว่า เรากำลังจะทำการย้ายข้อมูลในเครื่องเก่าทั้งหมดมา ไม่ว่าจะเป็นแอปและข้อมูลทั้งหมดในเครื่องเก่า และการตั้งค่าทุกอย่างในเครื่องเก่ามาไว้ที่ iPhone เครื่องใหม่ ให้แตะที่ “ดำเนินการต่อ”

9.จากนั้นจะเจอกับหน้า “อัปเดต iPhone ของคุณอยู่เสมอ” ให้แตะที่ “ดำเนินการต่อ”

10.ระบบจะเสนอให้เราซื้อพื้นที่ iCloud เพื่อใข้สำรองข้อมูลสำคัญต่าง ๆ หากไม่ต้องการที่จะซื้อในหน้านี้ ให้แตะที่คำว่า “ไม่ใช่ตอนนี้” เพื่อกดข้ามไปได้เลย (สามารถไปซื้อทีหลังได้)

11.เมื่อ iPhone เครื่องใหม่ขึ้นว่า “กำลังเตรียมเพื่อถ่ายโอน…” ระหว่างนี้ ถ้าเรามีข้อมูลเยอะให้เสียบชาร์จแบตรอ เพราะอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน ขึ้นอยู่ว่าเรามีข้อมูลในเครื่องเก่าเยอะขนาดไหน

12. รอจนกว่าจะถ่ายโอนข้อมูลเสร็จ โดยจะมีเวลาประมาณบอกไว้ด้วย ให้ทำตามคำแนะนำ คือวาง iPhone ทั้งสองเครื่องไว้ใกล้กันและเสียบสายชาร์จเผื่อไว้

13.เมื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลเสร็จ iPhone เครื่องเก่าจะแจ้งว่า “ถ่ายโอนข้อมูลสำเร็จ” และที่ iPhone เครื่องใหม่จะพาเราไปยังหน้าจอ Home และทำการโหลดแอปต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในเครื่องเก่ามาไว้ในเครื่องใหม่ให้เราเองโดยอัตโนมัติ

14.ระหว่างรอเครื่องใหม่ดาวน์โหลดแอป เราสามารถใช้งานเครื่องเก่าได้โดยไม่ต้องวางไว้ข้างกันตลอดเวลา เครื่องเก่าก็ยังสามารถใช้งานได้ปกติ

15.เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปเสร็จ ในบางแอป เมื่อกดเราเข้าไป เช่น แอป LINE หรือแอปธนาคาร จะขอให้เรากรอกข้อมูลใหม่เพื่อทำการล็อกอิน จากนั้นก็ใช้งานได้เลย

เพียงเท่านี้ข้อมูลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแอป การตั้งค่าต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลสำคัญอย่างรูปภาพและรายชื่อผู้ติดต่อก็จะถูกย้ายมาไว้ใน iPhone เครื่องใหม่ โดยที่ข้อมูลไม่หายแล้วค่ะ เมื่อถ่ายโอนข้อมูลเสร็จแล้วอย่าลืมย้าย SIM มาใส่ในเครื่องใหม่ด้วยนะ 

3. เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้เพิ่มเติมลงในบัญชี (กรณีเปลี่ยนเบอร์ใหม่)

หากว่าเราจะใช้เบอร์โทรใหม่ใน iPhone เครื่องใหม่ให้ทำการเข้าไปเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้ลงไปในบัญชี Apple ID ของเราด้วย เพื่อให้เราเข้าใช้งานได้ตลอด ทำตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย

• • เข้าไปที่ appleid.apple.com จากนั้นให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID ของเรา
  • แตะที่ความปลอดภัยของบัญชี

• • แตะเครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้
  • จากนั้นเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ใหม่เข้าไป แล้วกดดำเนินการต่อ

4.ลงชื่อออกจาก iCloud และ iTunes Store และ App Store

หากใช้ iOS 10.3 หรือใหม่กว่าอยู่ ให้แตะการตั้งค่า > [ชื่อของเรา] > เลื่อนลง > แล้วแตะลงชื่อออก ป้อนรหัสผ่าน Apple ID ของเราแล้วแตะ “ปิดใช้”

โดยวิธีการนี้จะเป็นการลงชื่อออกทั้ง iCloud และ iTunes Store และ App Store ในขั้นตอนเดียว

5.ลบข้อมูลเนื้อหาและหารตั้งค่าทั้งหมด (ล้างเครื่อง)

ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone

ลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด > แตะดำเนินการต่อจนเสร็จ

• หากเปิดค้นหาของฉันเอาไว้ เราอาจจะต้องป้อน Apple ID และรหัสผ่านของเราเข้าไปอีกครั้ง
• หากใช้ eSIM ให้เลือกลบอุปกรณ์และโปรไฟล์ eSIM เมื่อระบบถาม

เพียงเท่านี้ก็ถือว่าล้างเครื่อง iPhone เสร็จเรียบร้อยแล้ว

6.ลบอุปกรณ์เครื่องเก่าของคุณออกจากรายการอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้

ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของเรา] > เลือกอุปกรณ์จากรายการ แล้วลบ iPhone เครื่องเก่าออกไปได้เลย

เพียงเท่านี้ก็สามารถส่งต่อ iPhone เครื่องเก่าได้เลย! รับรองว่าไม่มีข้อมูลติดเครื่องไปแน่นอน

Adblock test (Why?)

แนะนำสิ่งที่ควรทำก่อนส่งต่อ / ขาย iPhone ให้ผู้อื่น (อัปเดต 2022) - iPhoneMod
Read More