[unable to retrieve full-text content]
เปิด 6 ข้อห้ามทำในวันตรุษจีนวันนี้ ตามความเชื่อเพื่อสิริมงคลมีอะไรบ้าง ข่าวสดเปิด 6 ข้อห้ามทำในวันตรุษจีนวันนี้ ตามความเชื่อเพื่อสิริมงคลมีอะไรบ้าง - ข่าวสด
Read More
[unable to retrieve full-text content]
เปิด 6 ข้อห้ามทำในวันตรุษจีนวันนี้ ตามความเชื่อเพื่อสิริมงคลมีอะไรบ้าง ข่าวสดคกก.แก้หวยแพง ตั้ง ‘แรมโบ้’ คุมชุดเฉพาะกิจ ทำผิดเจอจับปรับ-ยึดโควตาคืน คาดมาตรการใหม่แก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้เกือบ 100%
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า การแก้กฎหมายคงต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่ทำได้ทันทีในที่ประชุมมีข้อเสนอแนะว่าจะมีการกำหนดเงื่อนไขการทำสัญญา กำหนดมาตรการทางแพ่งในการตัดสิทธิหรือปรับกับผู้ทำสัญญาเป็นผู้ค้ากับกองสลาก ซึ่งเป็นมาตรการในการแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมา 3 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม 3 คณะ ประกอบด้วย อนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางมาตรการทางด้านกฎหมายและสัญญาของผู้ค้าสลากที่เกี่ยวข้อง และคณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา
นายอนุชา กล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นว่าการขายสลากเกินราคามีความรุนแรงต่อสังคมจึงตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาให้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าชุดดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นพ่อค้ารายใหญ่ที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ โดยคณะทำงานในส่วนนี้จะมีทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงยุติธรรม และมีอัยการสูงสุดเป็นที่ปรึกษา คงมีการดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายที่เป็นมาตรการเร่งด่วน ส่วนในระยะยาวหากคณะกรรมการดำเนินการแล้วคงมีการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป
เมื่อถามว่าการกำหนดเงื่อนไขปรับและตัดสิทธินั้นคือกรณีอะไร นายอนุชา กล่าวว่า ในขณะนี้คงไม่สามารถลงรายละเอียดได้ แต่ในเบื้องต้นคงมีการตรวจสอบผู้ค้าที่เป็นตัวแทนกว่า 2 แสนรายว่าขายเองหรือไม่อย่างไร หากมีการผิดสัญญาก็จะมีการยึดโควตาและมีการปรับต่อไป
เมื่อถามว่าจะดำเนินการสำเร็จเมื่อใด นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้กองสลากกำลังเร่งดำเนินการคัดเลือกผู้ค้ารายย่อย เดือนพ.ค. เมื่อเสร็จแล้วสัญญาต่างๆ คงจะมีการหารือกันในคณะกรรมการเพื่อแก้รายละเอียด ซึ่งจะมีการทำแพตฟอร์มขึ้นมาเพื่อกำหนดไม่ให้มีการเปลี่ยนมือของสลาก คาดว่าจะสำเร็จในเร็ววันนี้ เชื่อว่าแนวทางที่ออกมาจะแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้เกือบ 100%
"บิ๊กอู๊ด" พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. นำกำลังกว่า 50 นาย คุม "เสี่ยแดง" ทำแผนรัวฆ่า 4 ศพ ในพื้นที่รอยต่อ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เผยพฤติการณ์สุดอุกอาจ ลั่นคุมตัวเองไม่อยู่ พวกที่ผมทำสมควรตายทั้งหมด
กรณี “เสี่ยแดง” หนุ่มใหญ่ ควง.38 ยิงอดีตภรรยาที่เลิกราและลูกสาวพร้อมเพื่อน เสียชีวิตรวม 4 ศพ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ริมถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว บริเวณด้านหน้าวัดตามูล หมู่ 1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว และบริเวณหน้าตลาดนัดวันอาทิตย์ บ้านตามูล หลังก่อเหตุได้ขับรถผู้ตายไปนั่งดื่มเหล้าอย่างใจเย็น จนถูกชุดสืบสวน สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี ตามจับได้ สารภาพเกิดจากความแค้นผู้ตายทุกคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มกราคม 2565 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พ.ต.อ.นิตย์ วิชินันทกิจ ผกก.สภ.สอยดาว พร้อมกำลังชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวน ภ.จว.จันทบุรี และชุดสืบสวน สภ.สอยดาว นำตัว นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง ภูทองสุข อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุที่ตกเป็นผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงชนวนเหตุครั้งนี้
โดย นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง เปิดปากรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้อยู่กินกับ นางวันเพ็ญ หรือเจ๊แหม่ม ประสานวงษ์ อายุ 49 ปี และอาศัยอยู่ในบ้านผู้ตายในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งกว่าง ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ได้ประมาณกว่า 1 ปี โดยตนขายรถ 6 ล้อ และทองคำอีก 8 บาท มาร่วมลงทุนกับคนตายเกี่ยวกับธุรกิจรับซื้อลำไย ต่อมาถูกนางวันเพ็ญดุด่ารามถึงบุพการีหลายครั้งหลายหน จนทนไม่ไหวจึงขอแยกทาง โดยไปเจรจาตกลงขอเลิกกันที่โรงพัก ซึ่งตนขอเงินมาลงทุน 200,000 บาท ผู้ตายรับปากจะให้แต่ก็ไม่ให้ ประกอบกับไม่มีเงินที่จะลงทุนทำอะไรได้ พยายามติดตามทวงถามหลายครั้งก็ยังไม่ได้ คาดว่าถูกโกงแน่ จึงเก็บความแค้นไว้ในใจมาตลอด
กระทั่งบ่ายวันที่ 30 ม.ค. ทราบว่า นางวันเพ็ญจะมาซื้ออาหารที่ตลาดนัดตามูล จึงขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน 1 กจ 9088 จันทบุรี มาดักจอดรอ จนกระทั่งเห็นรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน ฆช 6171 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาจอดริมถนนฝั่งตรงข้าม จำได้ว่าเป็นรถอดีตภรรยา จึงเดินข้ามถนนไปหา เป็นช่วงจังหวะที่นางวันเพ็ญ เปิดประตูด้านคนขับลงมาพอดี ถึงถามว่า “จำกูได้มั้ย” พร้อมทั้งดึงอาวุธปืนขนาด .38 ออกมาจากเอวยิงใส่ร่าง 1 นัดจนฟุบลง ก่อนยิงซ้ำบริเวณหัวอีก 1 นัด เมื่อเห็นว่าแน่นิ่งแล้วจึงก้มลงเก็บลูกกุญแจรถ เพื่อเปิดประตูรถ
ระหว่างนั้นมองเห็น น.ส.อรยา หรือโบว์ เชื้อเจริญ อายุ 25 ปี บุตรสาวของผู้ตาย และเป็นลูกเลี้ยง นั่งตกใจอยู่เบาะหน้าคู่คนขับ จึงเกิดความแค้นสุดขีด จึงยกปืนเล็งยิงไป 3 นัดจนแน่นิ่ง จากนั้นได้ขึ้นขับรถของอดีตภรรยาออกไป โดยมีศพ น.ส.โบว์ ติดไปด้วย จากนั้นได้ขับรถไปที่บ้านนายธีระชาติ เต่าทอง อายุ 44 ปี ในสวนลำไย บ้านถ้ำสาลิกา หมู่ 9 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน เมื่อไปถึงเห็นนายธีระชาติ กำลังเลื่อนต้นลำไยอยู่ จึงยิงไป 2 นัด เป็นศพที่ 3 สาเหตุเกิดจากความแค้นที่ผู้ตายให้พ่อแม่ตน ซึ่งเป็นวัยชราไปกู้ยืมเงินมา และไม่ยอมส่งต้นส่งดอก ทำให้พ่อแม่ต้องใช้หนี้แทน ไปทวงถามก็อ้างว่าไม่มี แต่ไปออกรถคันใหม่มา
จากนั้นได้ขับรถไปหานายบุญร่วม แสงมา อายุ 48 ปี ที่หมู่บ้านเขาพลูทอง หมู่ 11 ต.ปะตง อ.สอยดาว ห่างจุดที่ 2 ประมาณ 25 กิโลเมตร ก่อนใช้ปืนยิง นายบุญร่วม ไปหลายนัดจนตาย สาเหตุเกิดจากผู้ตายหลอกขายปืนสั้นให้ในราคา 17,000 บาท แต่พบว่าเป็นปืนบีบีกัน จึงเอาไปคืน แต่ผู้ตายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืน จึงขอให้คืนเงินมา 7,000 บาท แต่นายบุญร่วมก็ไม่คืนให้อีก จึงเกิดความแค้นสะสม หลังจากยิงนายบุญรวยตายเป็นศพที่ 4 แล้วได้ขับรถไปจอดที่ร้านค้าห่างจากจุดที่ยิงประมาณ 10 กิโลเมตร ลงจากรถและสั่งเหล้า จึงได้ขอยืมโทรศัพท์จากร้านค้าโทรหาลูกสาวอายุ 18 ปี มารับเพื่อหลบหนี ขณะเดียวกันตำรวจได้ตามมาถึงพอดี จึงถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายไตร่ตรองไว้ก่อน” และ “พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง ภูทองสุข ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ จุดที่ 1 บริเวณหน้าตลาดนัดบ้านตามูล โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. คุมการทำแผน ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยมีกำลังตำรวจภูธรร้อย ตชด.114 ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 จันทบุรี กว่า 50 นาย วางกำลังคุ้มกันเข้ม
ส่วนจุดที่ 2-3 ต้องยกเลิกการทำแผน เนื่องจากเป็นบ้านของผู้ตาย มีญาติพี่น้องมาคอยจำนวนมาก เกรงจะไม่ปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์สื่อมวนชนว่า ได้รับคำสั่งจากท่าน ผบ.ตร.ให้ลงมาติดตามคดี เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีการตายถึง 4 ศพต่อเนื่องกัน และได้กำชับให้ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนผู้ต้องหาจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรีในวันพรุ่งนี้.
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค. 2565 ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลงบ้าง จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันยังต้องติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศ ปัญหาในภาคการผลิต รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ทั่วไปและการกลายพันธุ์ด้วย
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2564 มีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ขณะที่การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากทั้งอุปสงค์ในประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัว และปัญหาซับพลาย ดิสรัปชั่นที่ทยอยคลี่คลายลง ซึ่งมีส่วนทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้น
ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามภาวะอุปสงค์และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ฟื้นตัว ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานและราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่โดยรวมยังคงเปราะบาง ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าไตรมาสก่อนฃ
“หากพิจารณาจากดัชนีเศรษฐกิจต่าง ๆ พบว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 4/2564 นั้นน่าจะฟื้นตัวและโตได้ดีกว่าไตรมาส 3/2564 และดีกว่าที่คาดการณ์อยู่บ้าง โดยเฉพาะภาคการส่งออกและท่องเที่ยว แต่หากถามว่าในไตรมาส 4 ขยายตัวเท่าไหร่ และทั้งปี 2564 จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอดูตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์” นางสาวชญาวดี กล่าว
สื่อเผยสาเหตุที่ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ไม่สามารถขึ้นชิงแชมป์โลก WBC ได้ ซึ่งสาเหตุก่อนหน้านี้ที่ได้รับแจ้งว่าติดโควิด-19 ไม่ใช่ความจริง
วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นอดีตแชมป์โลก 2 สมัยชาวไทย ในรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลก WBC มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
DAZN สื่อกีฬาชื่อดัง รายงานว่า ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีรายงานว่าเจ้าตัวป่วยอย่างหนักจนไม่สามารถขึ้นชกได้ จึงทำให้ เจสซี โรดริเกซ นักมวยชาวอเมริกัน วัย 22 ปี เจ้าของสถิติชนะรวด 14 ไฟต์ (ชนะน็อก 10) ซึ่งเดิมทีถูกวางให้ดวลกับ เฟอร์นานโด ดิอาซ กำปั้นเพื่อนร่วมชาติในคู่รอง จะได้ขึ้นมาชกแทน ศรีสะเกษ ดวลกับ คาร์ลอส คูเอดราส เพื่อชิงแชมป์โลก WBC รุ่น 115 ปอนด์ที่ว่างอยู่
อย่างไรก็ตาม จะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจาก "เสี่ยฮุย" สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ เจ้าของค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ในช่วงเย็นที่สหรัฐอเมริกา หรือว่าช่วงเช้าที่ประเทศไทย
ทูน่า หรือปลาทูน่ากระป๋อง เป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับสาวยุคใหม่ เพราะไม่เพียงต้องการความสะดวกเท่านั้น แต่ยังต้องการวัตถุดิบแคลอรี่ต่ำเพื่อรักษาสุขภาพและควบคุมอาหารประจำวัน ทูน่าสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายประเภท เช่นเดียวกับเมนู “ลาบ” อาหารอีสาน ร้านส้มตำ ที่จะขาดลาบรสแซ่บเป็นไม่ได้ วันนี้จึงชวนสาว ๆ มาทำลาบทูน่า ทำง่ายมาก ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้เองที่บ้าน ว่าแล้วก็เปิดตู้ควานหาทูน่ากระป๋องมาเลยค่ะ ม่ะ เริ่ม!!
วัตถุดิบ ลาบทูน่า ลาบปลาทูน่า
วิธีทำ ลาบทูน่า ลาบปลาทูน่า
ทำน้ำเครื่องปรุงให้รสแซ่บจัดจ้านตามชอบก่อน ผสมมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายแล้วใส่พริกป่นข้าวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน
เททูน่ากระป๋อง (จากน้ำแร่) รินน้ำแร่ออกให้หมดก่อน ใช้เฉพาะเนื้อ ตามด้วยหอมแดง ต้นหอม ผักชีฝรั่งที่ซอยเตรียมไว้ลงไป
ใส่ใบสะระแหน่ทิ้งท้าย คลุกผสมให้เข้ากัน เป็นอันเรียบร้อย
โรยหน้าด้วยพริกแดง หรือใครชอบลูกโดดก็ใส่พริกขี้หนูเสริมทัพความแซ่บได้อีก อร่อยซี๊ดแน่นอน
นก อุษณีย์ ร่ายยาวยืนยันตนเองมีสติสัมปะชัญญะครบ ปฏิบัติธรรมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้โดนทำของใส่แต่อย่างใด หลังน้องสาวบอกพฤติกรรมพี่สาวเปลี่ยนไป ติดต่อไม่ได้กว่าหนึ่งเดือน
จากกรณีที่น้องสาวของนักแสดงสาว นก อุษณีย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยบอกว่าพฤติกรรมของพี่สาวเปลี่ยนไปคล้ายคนถูกทำของใส่ และขาดการติดต่อกับทางบ้านระยะเวลากว่าหนึ่งเดือน
ล่าสุด นก อุษณีย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวผ่านทางอินสตาแกรม โดยเธอบอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นความจริงเธอไม่ได้ถูกทำของใส่ลั่นเป็นเรื่องไร้สาระมาก ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่พร้อมกับเดินสายทำบุญเพื่อความสุขใจ
"กรณีที่มีข่าวนกออกมา นกขอโอกาสชี้แจงนะคะ หลายเดือนที่ผ่านมา นกอยู่ ตจว.เป็นส่วนใหญ่ เพราะโควิดทำให้กองละครเลื่อนไป ตอนนี้นกได้กลับไปถ่ายทำละครจนปิดกล้องแล้ว สตูฯโยคะก็ปิด นกจึงว่าง การที่นกมาอยู่ตจว.ก็เพื่อเดินสายทำบุญกับเพื่อนๆ ไปปฏิบัติธรรมทำบุญโรงทานอย่างต่อเนื่องที่วัดรวง (โคราช) และอื่นๆ ด้วยความเต็มใจอย่างมีความสุข"
"นกยังติดต่อและโทรคุยกับแม่อยู่เป็นปกติไม่เคยตัดขาดหรือติดต่อไม่ได้ตามที่กล่าวอ้าง ส่วนที่การพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ที่ 4 ว่าทำของใส่นกยินยันว่าไม่เป็นความจริงค่ะไร้สาระมาก นกปกติดีมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนไม่ได้โดนของใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ"
"ทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจผิดที่คิดเองเออเองจนสร้างความเสียหายให้กับคนอื่น นกต้องกราบขอโทษบุคคลที่ถูกล่าวอ้างพาดพิงถึงในเรื่องนี้ทุกคนด้วยนะคะ ขอความกรุณาระมัดระวังการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลผู้อื่น รวมถึงตัวนกด้วยนะคะ"
เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ในปี 2565 แล้ว เพื่อเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และสิ่งดีๆ ในชีวิต มาดู 7 ข้อห้าม ที่ห้ามทำในวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าหากทำสิ่งนี้จะทำให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้น จะมีข้อห้ามอะไรบ้างไปดูกัน (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่จังหวัดพะเยาได้ ทำขนมเข่ง เตรียมเซ่นไหว้เจ้า และบรรพบุรุษเนื่องในเทศกาลตรุษจีน วันพรุ่งนี้ กันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน หรือชาวจีน ที่อยู่ในประเทศไทย
นางวรรณา บุญแสนไชย นางปราณี ยินดี ซึ่งเป็นลูกหลานชาวไทยเชื้อสายชาวจีนในเขตพื้นที่บ้านแม่ต๋ำ เมืองชุมตำบลแม่ต๋ำอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมด้วยเพื่อนญาติสนิท มิตรสหายชาวไทยเชื้อสายจีนได้ร่วมกันทำขนมเข่ง เพื่อเตรียมเซ่นไหว้เจ้า บรรพบุรุษ เนื่องในเทศกาลตรุษจีนวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกัน ได้มีแม่บ้านชาวไทยได้ทำขนมไทยหรือขนมเทียน เตรียมไว้ขายด้วยเพื่อนำไปเซ่นไหว้ร่วมกับเทศกาลตรุษจีนนี้
สำหรับบรรยากาศการทำขนมเข่งของชาวไทยเชื้อสายจีนของบ้านแต่ละหลังคาเรือนจะทำขนมเข่งกันในวันนี้เพื่อเตรียมไว้ไหว้เจ้า และบรรพบุรุษ ในวันพรุ่งนี้ กันทุกครอบครัว
หนุ่มนามสกุลดังซิ่งแลนด์โรเวอร์แซงบนทางด่วน พุ่งชนรถคนงานปรับผิวจราจร ดับ 1 สาหัส 1 เพื่อนคนงานยันมีกลิ่นแอลกอฮอล์-ลักษณะคล้ายคนเมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 01.20 น. เกิดอุบัติเหตุบนทางทางด่วนเฉลิมมหานคร ทิศทางจากบางนามุ่งหน้าดาวคะนอง ช่วงทางโค้งต่างระดับท่าเรือ ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ หมายเลขทะเบียน 333 กรุงเทพมหานคร เสียหลักชนรถอีแต๊กที่ดัดแปลงมาทำเป็นรถทำความสะอาดระหว่างที่ขูดผิวจราจรบนทางด่วนเพื่อปูยางมะตอยใหม่ จนคนงานที่ขับรถเสียชีวิต
นายอนุสรณ์ หนึ่งในคนงานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่กำลังทำงานขูดผิวถนน เตรียมปูพื้นยางมะตอยใหม่ และเปิดช่องทางให้รถผ่านเพียงช่องทางเดียว โดยขณะนั้นกำลังทำงานอยู่หน้าป้ายจราจรบอกเตือนการก่อสร้าง
ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. มีรถเทรลเลอร์กำลังขับเข้ามา แต่รถเก๋งคันนี้ได้ขับปาดหน้ารถเทรนเลอร์มาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และชนเข้าที่รถของคนงานอย่างแรง
ทำให้รถไปกระแทกกับขอบทาง และผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมาจากรถประมาณ 100 เมตร และมีคนงานอีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และลงรถมาพบว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์ และท่าทางคล้ายคนเมาสุรา
สำหรับรถของคนงานที่เป็นรถไถนาดัดแปลงมาปฏิบัติงาน ได้รับความเสียหายทั้งคัน ล้อหลุดขาดออกจากตัวรถ และเครื่องยนต์เสียหาย ส่วนรถเก๋งคู่กรณี เสียหายบริเวณกระโปรงหน้ารถ โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้ตรวจสอบที่จุดเก็บรถของกลางของ สน.ทางด่วน 1
ส่วนคนขับรถเก๋ง หลังเกิดเหตุได้ควบคุมตัวมาที่ สน.ทางด่วน 1 ทราบชื่อคือ นายศรวีร์ อายุ 22 ปี จากการตรวจสอบพบว่าเป็นนามสกุลเดียวกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
และพบมีอาการบาดเจ็บ จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และให้แพทย์ตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือดเพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดี และอยู่ระหว่างรอผลตรวจ โดยยังไม่ได้ตรวจเบื้องต้นที่สถานีตำรวจ ซึ่งผู้บาดเจ็บขอนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน
โดยหลังจากพักรักษาตัวแล้ว พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป เบื้องต้น ต้องแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นๆ ต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบเพิ่มเติม
ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นายเอกชัย อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่นำส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ซูเปอร์โพล ประชาชน 92.6% หนุนเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ไม่หยุดรถให้คนข้ามม้าลาย 99.7% ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่เอาจริงกับผู้กระทำผิด จี้ติด CCTV สัญญาณไฟ
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “ความปลอดภัยของคนข้าม ทางม้าลาย” จากกรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) 1,145 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25–28 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 95.4 ระบุ เคยเห็นรถส่วนใหญ่ เช่น มอเตอร์ไซค์ รถส่งสินค้า รถปิคอัพ รถแท็กซี่ รถยนต์ส่วนบุคคล รถเมล์ เป็นต้น ไม่หยุดรถให้คนข้าม ตรงทางข้ามตามกฎหมาย ในขณะที่ร้อยละ 4.6 ไม่เคยเห็น
ขณะเดียวกัน มีเพียงร้อยละ 0.3 ที่เคยเห็นเจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายจริงจังต่อเนื่องจับปรับรถที่ไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย ตามกฎหมาย ส่วน ร้อยละ 99.7 ไม่เคยพบเห็น นอกจากนี้ ร้อยละ 95.0 ระบุ ทางม้าลาย ทางข้ามที่ถูกกฎหมาย ขาดสัญญาณหรือป้ายเตือนล่วงหน้า , ร้อยละ 94.4 ระบุ ผู้ขับขี่และผู้ข้าม ขาดจิตสำนึกความปลอดภัย ไม่มีน้ำใจ ไม่คำนึงใจเขาใจเราและไม่เคารพกฎจราจร, ร้อยละ 94.0 อยากให้มีกล้องวงจรปิดและเทคโนโลยีทันสมัย ติดตั้งจับผิดรถยนต์ที่ไม่จอดให้คนข้ามถนน บนทางข้ามและปรับจริงจังต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 94.3 ระบุ ควรปฏิรูปปรับปรุงกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย เทคโนโลยี ความปลอดภัยทางถนน ทั้งระบบมากกว่า ทำแบบไฟไหม้ฟาง ส่วน ร้อยละ 5.7 ระบุ ไม่ควร นอกจากนี้ ร้อยละ 92.6 ระบุ ต้องเพิ่มโทษ และ จัดสรร ค่าปรับ แบ่ง ส่วน ให้ กับ การพัฒนาปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน อีกทั้ง ร้อยละ 92.4 ระบุ ต้องการให้ ทุกภาคส่วน เช่น ตำรวจ กระทรวงคมนาคม ข้าราชการ กทม. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และภาคประชาชน ควรตื่นตัวร่วมสร้างทางม้าลายปลอดภัยและรณรงค์ ข้ามถนนทางม้าลายและหยุดรถให้คนข้าม มีเพียง ร้อยละ 7.6 ที่ไม่ต้องการ
[unable to retrieve full-text content]
ก.แรงงาน ชวนคนหางานใช้บริการ เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th และผ่านแอปฯ “ไทยมีงานทำ” ที่รวบรวมตำแหน่งงานภาครัฐ เอกชน และตำแหน่งงานจากบริษัทจัดหางานไว้มากที่สุด พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน เตรียมตำแหน่งงานว่างรองรับคนว่างงาน คนหางาน ผู้จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้เปราะบาง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และทุกคนที่ต้องการมีงานทำ ผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เว็บหางานและหลักสูตรฝึกอบรมที่ประชาชนสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานที่สนใจและเหมาะสมกับตนเอง หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสการมีงานทำ โดยเป็นช่องทางรองรับความต้องการจ้างงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งพร้อมให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application
โดยเดือนมกราคม 2565 มีตำแหน่งงาน (Active ในระบบ) จำนวน 204,689 อัตรา ซึ่งตำแหน่งงาน 5 อันดับแรกที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่
1. แรงงานด้านการผลิต ,แรงงานทั่วไป
2. พนักงานขาย/ตัวแทนนายหน้าขายบริการธุรกิจอื่น ๆ
3. พนักงานจัดส่งสินค้าอื่น ๆ
4. ธุรการ ,เสมียนทั่วไป
5. พนักงานขับรถยนต์
“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง คนหางาน และผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมทั้งนักศึกษาจบใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ทำงาน ทำให้เข้าสู่ตลาดแรงงานได้ยาก ซึ่งผมไม่เคยนิ่งนอนใจ เพราะปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ ขณะนี้ได้สำรวจและเตรียมตำแหน่งงานไว้แล้ว จำนวน 204,689 อัตรา จากทั่วประเทศ"รมว.แรงงาน กล่าว
โดยกิจการที่มีความต้องการจ้างแรงงานไทย 5 อันดับแรก ได้แก่
1.การบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร
2.การขายปลีกสินค้า ในร้านค้าทั่วไป
3. การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ
4.หน่วยงานราชการ
5. การบริการอื่น ๆ
โดยมีความต้องการในทุกระดับวุฒิการศึกษา ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าประถมศึกษา จนถึงระดับปริญญาโท ซึ่งคนหางานที่ต้องการสมัครงาน และนายจ้างที่ต้องการประกาศรับสมัครงาน สามารถใช้บริการจัดหางานออนไลน์กับกระทรวงแรงงานได้ที่เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th หรือ Application “ไทยมีงานทำ” ที่รวบรวมตำแหน่งงานไว้มากที่สุด และพร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ที่นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ขนาดเล็ก – กลาง ให้ได้รับเงินอุดหนุนช่วยเสริมสภาพคล่อง สร้างความแข็งแรง และฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยังมีเป้าหมายสำคัญในการพยุงการจ้างงานเพื่อให้ลูกจ้างสัญชาติไทยไม่ถูกเลิกจ้าง ตามเงื่อนไขโครงการที่จะได้รับสิทธิเงินอุดหนุนจากรัฐบาลต่อเมื่อรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หรือห้ามเลิกจ้างพนักงานเกินร้อยละ 5
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากข้อมูลการให้บริการจัดหางาน ในปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา มีตำแหน่งงานว่างสะสม 562,635 อัตรา ผู้สมัครงานมาใช้บริการ 396,275 คน และบรรจุงานแล้ว 283,202 คน โดยกรมการจัดหางานได้อัพเดตและรวบรวมข้อมูลการจ้างงานจากภาครัฐที่เชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. มีตำแหน่งงานจากหน่วยงานราชการกว่า 300 หน่วยงาน
หน่วยงานที่ขณะนี้มีความต้องการจ้างงาน (Active ในระบบ) ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมท่าอากาศยาน กรมการค้าต่างประเทศ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสุขภาพจิต เป็นต้น
ยังมีตำแหน่งงานภาคเอกชน และบริษัทจัดหางานชั้นนำบนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” ซึ่งมีสถานประกอบการจำนวนมากที่มีตำแหน่งงานเปิดรับมากกว่า 100 อัตราขึ้นไป เช่น บริษัท เอก – ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด บริษัท โรฟุ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท วนิดา ฟู้ดส์ จำกัด บริษัท เอเชีย เวิลด์ซัพพลาย จำกัด บริษัท ยูโรเซียเอช. อาร์.โซลูชั่น จำกัด
โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และ ภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการประกาศรับสมัครงานสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ โดยการลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน
สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694
2 เงื่อนไขสำคัญที่อาจส่งผลให้ พอล ป็อกบา ยอมต่อสัญญาอยู่ช่วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป
วันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2565 อย่างที่แฟนบอลหลายรายทราบกันดีว่า พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะหมดสัญญาในช่วงหลังจบฤดูกาลนี้และสัญญาใหม่ระหว่างทีมและเจ้าตัวยังไม่มีความคืบหน้าและอาจจะส่งผลให้ต้องเสีย ป็อกบา ไปแบบฟรีๆ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดลี เมล์ สื่อกีฬาชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า 2 เงื่อนไขสำคัญที่อาจทำให้ พอล ป็อกบา ยอมต่อสัญญาและอยู่กับทัพ "ปิศาจแดง" ต่อไปมีรายงานว่าเงื่อนไขสำคัญ ข้อแรก คือ ราล์ฟ รังนิก จะต้องอยู่เป็นกุนซือของ "ปิศาจแดง" ด้วยสัญญาถาวร ส่วนข้อต่อมาที่สำคัญมากๆ คือ ราล์ฟ รังนิก ต้องมอบให้ พอล ป็อกบา เป็นศูนย์กลางของแผงมิดฟิลด์ และนี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าตัวต้องการ
สำหรับ พอล ป็อกบา เพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง หรือ แฮมสตริง และกลับมาลงซ้อมกับทีมแล้ว และคาดว่าจะเรียกความฟิตหายกลับมาช่วยทีมได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งในซีซั่นนี้ ป็อกบา จ่ายไป 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 13 นัดในทุกรายการ
รมว.ยุติธรรม ร่วมยินดี 70 ปี สถานพินิจฯ ชี้ต้องให้โอกาส-ความรู้การศึกษาพัฒนาเยาวชนคืนคนดีสู่สังคม ปฏิบัติเหมือนลูกหลานของเรา ขอบคุณบุคลากรเสียสละตั้งใจทำงาน
เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 ที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 70 ปี สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนไทย ชมนิทรรศการและกล่าวให้โอวาท แก่บุคลากรของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และผู้บริหารร่วมงาน
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 70 ปี สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนไทย ตนขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง และส่งความปรารถนาดีไปยังข้าราชการ บุคลากรของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทุกท่าน รวมถึงเครือข่ายที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู เด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตและกลับตนเป็นคนดี โดยไม่หวนมากระทำผิดซ้ำ หากไม่มีพวกท่านร่วมมือร่วมใจ และเสียสละแรงกายและแรงใจปฏิบัติงาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ประเทศของเราก็จะขาดพลเมืองที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศ ตนเชื่อว่าทุกท่านได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มความสามารถเพื่อเด็กและเยาวชน และครอบครัวของเด็กและเยาวชน เพราะลูกหลานของท่านก็เหมือนลูกหลานของเรา นอกจากนี้การให้โอกาสจากเครือข่ายในเรื่องการศึกษาและอาชีพ หรือการให้โอกาสหรือการยอมรับจากคนในสังคม เป็นแรงผลักดันที่สำคัญยิ่ง ที่กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนเกิดการเปลี่ยนแปลง
"เราต้องให้โอกาส ให้ความรู้ และสิ่งดีๆแก่เด็กและเยาวชน แม้ว่าพวกเขาจะกระทำความผิด แต่เราต้องพัฒนาพวกเขาให้เป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม เพราะพวกเขาจะได้สามารถโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ผมขอให้ญาติของเด็กๆอย่ากังวล เราจะพัฒนาเด็กๆให้ความรู้ ฝึกวิชาชีพต่างๆ เราไม่เคยทอดทิ้งและให้โอกาสเสมอ เราทำมาตลอดขอให้ทุกท่านสบายใจได้" นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อการประเมิน "ESG" ควรต้องตอบโจทย์ผู้ลงทุนในมิติของการลงทุนที่ยั่งยืนว่า บริษัทที่มี ESG ดี จะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไปด้วย !!
ปัจจุบัน กิจการที่หวังจะให้การดำเนินธุรกิจของตนได้รับการยอมรับจากสังคม และมีหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน หนีไม่พ้นที่จะต้องได้รับการประเมินเรื่อง ESG (Environmental, Social and Governance) จากหน่วยงานประเมินภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นกลางในการประเมิน ปลอดจากการแทรกแซงโดยกิจการที่ถูกประเมิน
จากผลการสำรวจหน่วยงานผู้ประเมินและจัดอันดับด้าน ESG ทั่วโลก พบว่า มีอยู่มากกว่า 600 แห่ง และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตของตลาด (SustainAbility, 2020)
โดยที่แต่ละสำนักผู้ประเมิน ต่างก็มีระเบียบวิธีและเกณฑ์ที่ใช้ประเมินแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดความยากลำบากทั้งกับองค์กรผู้เป็นเจ้าของข้อมูลที่ถูกประเมิน และกับผู้ลงทุน รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจ ในการใช้ประโยชน์จากผลประเมินที่ได้รับ
และปฏิเสธไม่ได้ว่า ในงานวิจัยหลายชิ้น บ่งชี้ว่า ผลประเมินด้าน ESG ของกิจการ จากหน่วยงานผู้ประเมินที่นำมาศึกษา ไม่พบว่ามี สหสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างผลประเมินในกิจการเดียวกัน ของบรรดาองค์กรผู้ทำการประเมิน
กลายเป็นว่า ผู้ใช้ข้อมูล จำเป็นต้องทำการ “ประเมิน ผู้ประเมิน” (Rate the Raters) ก่อนที่จะนำข้อมูลประเมินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์
ข้อพิจารณา 3 ประการ ในการประเมินผู้ประเมินว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด ได้แก่ คุณภาพในการประเมินและกระบวนการประเมิน ประกอบด้วยการพิจารณาเกณฑ์และหลักการที่ใช้ในการประเมิน ความครอบคลุมในการประเมิน ประกอบด้วยปริมาณข้อมูลและประชากรที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งผลลัพธ์ของการประเมิน ประกอบด้วย ความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผล (Causation) ระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับผลประกอบการและผลกระทบสู่ภายนอก
ตัวอย่างเกณฑ์ในการประเมิน ที่สถาบันไทยพัฒน์นำมาใช้ ในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย ประกอบด้วย
• การพิจารณาประเด็นด้าน ESG ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรม
• การพิจารณาวิธีการที่บริษัทใช้ระบุและจัดการกับโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG
• การพิจารณาประเด็นด้าน ESG ที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการขององค์กรของที่สถาบันไทยพัฒน์ นำมาใช้
และที่สำคัญ การประเมินกิจการด้าน ESG ด้วยชุดประเด็นเดียวกัน โดยปราศจากการคำนึงถึงบริบทของประเภทธุรกิจ จะไม่สามารถสะท้อนผลประเมินตามที่เป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์
ตัวอย่างชุดประเด็นด้าน ESG ที่สถาบันไทยพัฒน์นำมาใช้ในระเบียบวิธีการประเมิน โดยจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ ได้แก่
กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงานและทรัพยากรน้ำ ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นความปลอดภัยทางอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ ประเด็นการแสดงฉลากผลิตภัณฑ์และการสื่อสารการตลาด และประเด็นผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของโซ่อุปทานส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน ประเด็นความปลอดภัยในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นการจำกัดการใช้สารเคมีอันตรายในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ และประเด็นนวัตกรรมและการสรรหาวัตถุดิบในการผลิต
กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นการให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสและคำแนะนำที่เป็นธรรมแก่ลูกค้า ประเด็นการบริหารความเสี่ยงเชิงระบบ ประเด็นการบริหารสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และประเด็นการผนวกปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน น้ำ มลอากาศ และของเสีย ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นความปลอดภัยในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นการจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสถานการณ์ฉุกเฉิน และประเด็นการสรรหาวัสดุ
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกอบด้วย ประเด็นผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการพัฒนาโครงการ ประเด็นการใช้ที่ดินและผลกระทบทางนิเวศ ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย ประเด็นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และประเด็นจริยธรรม และความโปร่งใสในการให้บริการ
กลุ่มทรัพยากร ประกอบด้วย ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นการจัดการมลอากาศ น้ำทิ้ง และของเสียอันตราย ประเด็นการจัดการผลกระทบทางนิเวศ และชุมชน ประเด็นการเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน/ภัยพิบัติ และประเด็นการบริหารสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มบริการ ประกอบด้วย ประเด็นประสิทธิภาพการใช้พลังงาน น้ำ และการจัดการของเสีย ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประเด็นการจัดการด้านความปลอดภัยและอุบัติภัย ประเด็นการต้านทุจริตและติดสินบน และประเด็นการบริหารคุณภาพในโซ่อุปทาน
กลุ่มเทคโนโลยี ประกอบด้วย ประเด็นฟุตพริ้นท์ทางสิ่งแวดล้อม ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นการพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงาน ประเด็นพฤติกรรมการแข่งขันและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และประเด็นการสรรหาวัสดุ การจัดการโซ่อุปทาน และซากผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ การประเมิน ESG ควรต้องตอบโจทย์ผู้ลงทุนในมิติของการลงทุนที่ยั่งยืนว่า บริษัทที่มี ESG ดี จะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไปด้วย ทำให้การระบุความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผล ระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับผลประกอบการ จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามในกระบวนการประเมิน ESG ที่ดี
[unable to retrieve full-text content]
Apple เปิดผลประกอบการไตรมาสแรก ทำสถิติรายได้สูงสุด ประชาชาติธุรกิจสหกรณ์ฯคลองจั่น ทำสัญญาเช่าทรัพย์สิน อาคารยูทาวเวอร์ ระยะยาว กับบริษัท บางกอก เอวิเอชั่น ซัพพลาย จำกัด
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศรีนครินทร์ ชั้น 2 อาคารยูทาวเวอร์ ถนนศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และ บริษัท บางกอก เอวิเอชั่น ซัพพลาย จำกัด ได้ทำพิธีลงนามสัญญาเช่าทรัพย์สินอาคารระยะยาว ที่เป็นอาคารยูทาวเวอร์ 9 ชั้น อาคารศูนย์ประชุม อาคารโกดังเก็บสินค้าบางส่วน และพื้นที่บริเวณอาคารยูทาวเวอร์ รวมเนื้อที่ประมาณ 18,200 ตารางเมตร ตั้งอยู่เลขที่ 411, 413 ถนนศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง
นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอวิเอชั่น ซัพพลาย จำกัด เป็นผู้เช่าพื้นที่อาคารยูทาวเวอร์ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกิจการ จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้สถานที่เพิ่ม เพื่อรองรับการขยายกิจการ ทั้งสำนักปฏิบัติการ สถานที่บรรจุสินค้าหรือหีบห่อ จัดเก็บสินค้า ขนส่งสินค้า และให้เช่าช่วง ในการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือผู้สนใจในพื้นที่อาคารยูทาวเวอร์นี้ด้วย โดยพิจารณาเห็นว่าพื้นที่อาคารยูทาวเวอร์ มีความเหมาะสมกับธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง การคมนาคมขนส่ง และสภาพของทรัพย์สิน
ด้าน นายประกิต พิลังกาสา ประธานคณะกรรมการฯ สหกรณ์ฯคลองจั่น กล่าวว่า หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ออกจากการฟื้นฟูกิจการ สหกรณ์ฯยังมีภาระผูกพันในการชำระหนี้คืนให้แก่สมาชิกรายย่อย เจ้าหนี้ และสหกรณ์เจ้าหนี้ จำนวนหลายพันล้านบาท ตามแผนการชำระหนี้และการฟื้นฟูกิจการ พ.ร.บ.สหกรณ์ การมีคู่สัญญาเช่าทรัพย์สินระยะยาว 26 ปี (ต่อสัญญาทุก 3 ปี) จะทำให้สหกรณ์ฯมีรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นตลอดเวลาตามมูลค่าของทรัพย์สิน ที่มีแนวโน้มเจริญเติบโตที่ดี
การบริหารงานของสหกรณ์ฯเพื่อการฟื้นฟูกิจการนั้น นอกเหนือจากเร่งรัดการทำธุรกิจของสหกรณ์ให้เป็นปกติ อาทิ การรับฝากเงิน การปล่อยกู้ หรือการหาสมาชิก สหกรณ์ฯยังมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าอีกหลายร้อยล้านบาท เงินทุนก้อนใหญ่มาจากสหกรณ์เจ้าหนี้ขนาดใหญ่หลายแห่ง นำเงินไปฝากไว้กับธนาคารของรัฐ จำนวน 3.5 พันบ้านบาท เสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบปล่อยเงินกู้ดังกล่าวให้สหกรณ์ฯ เพื่อนำมาหมุนเวียนบริหารจัดการหนี้และธุรกิจต่อไป คาดว่ามีผลภายในกลางปี 65 นี้
"นอกจากนี้ สหกรณ์ฯหวังว่าจะได้รับทรัพย์สิน จำนวน 1.4 พันล้านบาท จากคดีแพ่งและคดีฟอกเงินซึ่งอยู่ในชั้นศาลฎีกา โดยสหกรณ์ฯเป็นผู้ชนะคดี ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คงใช้เวลาพอสมควรคาดว่าภายในปีนี้จะมีคำสั่งลงมา" ประธานคณะกรรมการฯ สหกรณ์ฯคลองจั่น กล่าว
นายประกิต กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการการชำระหนี้สหกรณ์ฯยังยืนบนแผนเดิมที่ศาลมีคำสั่งอนุญาต มีการปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมตามสถานการณ์และสภาพคล่อง เมื่อได้เงินกู้จากธนาคารแล้วจะเริ่มชำหนี้ให้สมาชิกรายย่อย และเจ้าหนี้ โดยการแฮร์คัทหนี้ หรือลดหนี้ลง 50 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าสหกรณ์ฯมีหนี้ลดลง 4 พันล้านบาท ทำให้สมาชิกรายย่อยได้เงินเร็วก่อนครบกำหนด เหลือเพียงเจ้าหนี้กลุ่มใหญ่คือสหกรณ์เจ้าหนี้ ฉะนั้นการบริหารหนี้จึงเป็นไปง่ายขึ้น.
นิภาวรรณ ปัญโญสุข มิดฟิลด์ทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังเกมแพ้ ออสเตรเลีย แต่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ได้สำเร็จ
เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ไทยพ่ายต่อ ออสเตรเลีย ไป 1-2 ทำให้จบอันดับ 3 ของกลุ่มบี และได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
นิภาวรรณ กล่าวว่า "จริงๆประตูนี้ คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าหากไม่มีเพื่อนๆ ที่พยายามวิ่งตลอดทั้งเกม เราแค่อยากทำความฝัน ทำให้ทุกคนรู้ว่า เราไม่เคยยอมแพ้ เรายังทำงานหนัก และยังสู้เพื่อคนไทย"
"ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อะไรที่ทำให้พวกเราได้ไปเล่นรอบสุดท้ายได้ เราจะทำ"
สำหรับ ทีมชาติไทย จบด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มบี พร้อมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะไปพบกับ ญี่ปุ่น แชมป์ของกลุ่ม ซี ที่สนาม ดี วาย พาติล ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 30 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสด ทาง ELEVEN Sports โดยเกมที่พบกับ ญี่ปุ่น ผู้ชนะจะได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ในปีหน้าทันที
‘เพื่อไทย’ ดาหน้าโต้ ‘สิระ’ ยัน รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้จริง ตอกกลับ พปชร.ไม่เคยทำตามที่หาเสียงไว้ ยกตัวอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค
เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ม.ค.65 ที่รัฐสภา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพท. และิ ส.ส.ขอนแก่น พรรคพท. ร่วมกันแถลงถึงกรณี นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นกกต.สอบการหาเสียงเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม. พรรคพท. เป็นการหาเสียงด้วยนโยบายที่ทำไม่ได้จริง ว่า พรรคพท.มีนโยบายที่คิดอย่างรอบคอบสำหรับประชาชน สืบเนื่องมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เราได้แถลงนโยบายเรื่องลดรายจ่ายให้กับประชาชน ทั้งเรื่องการเดินทางที่คิดค่าเดินทางแค่ 20 บาทตลอดสาย
ทั้งนี้ ตนไม่แปลกใจที่นายสิระจะบอกว่าเป็นนโยบายที่ทำไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองที่นายสิระสังกัดอยู่ ไม่สามารถดำเนินนโยบายที่กล่าวไว้กับพี่น้องประชาชนให้เป็นจริงได้ นายสิระจึงเข้าใจว่า พรรคการเมืองอื่นทำไม่ได้เหมือนกัน
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายสิระเข้าใจว่าทำไม่ได้ จริงๆ แล้วพรรคพท.มีความพร้อมในการประกาศนโยบายออกไป และมั่นใจว่าสิ่งที่เราพูดออกไป เราทำได้ทุกอย่าง นี่คือวิสัยทัศน์และการทำงานอย่างหนักของพรรคพท. สิ่งที่เราประกาศออกไปเราคิดจากการรวบรวมมันสมองร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และทีดีอาร์ไอ ที่บอกว่าเงินที่เราจะได้รับนั้นมาจากการลงทุนทั้งทางภาครัฐและเอกชน และหากเราสามารถลดราคาให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการขนส่งสาธารณะได้จำนวนที่มากพอ นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายต่อหัวที่ลดลง เป็นการคิดที่ไม่ยาก
แต่นายสิระคิดไม่ออกว่าจะเป็นจริงได้อย่างไร ตนจึงต้องมาบอกว่า ไม่ว่าจะนโยบายใดๆ ที่บอกว่ายาก เราก็ทำสำเร็จมาแล้ว เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น เพราะเราหาเงินเป็น และรู้ว่าเงินที่จะถูกใช้จ่ายไปนั้นจะหารายได้กลับเข้ามาได้อย่างไร นั่นคือการทำงานที่แตกต่างกันระหว่างความคิดที่คิดว่า ทำได้ กับความคิดที่คิดว่าทำไม่ได้ สิ่งที่นายสุรชาติพูดจึงไม่เกินจริง เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคพท.เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ประชาชนเลือกพรรคพท.เข้ามามีผู้แทนมากที่สุด
“สิ่งที่นายสุรชาติพูด ผ่านมติของพรรคพท.แล้วว่า หากพรรคพท.ได้เป็นรัฐบาลเราจะผลักดันเรื่องนี้ แน่นอนว่าถ้านายสุรชาติเข้ามาก็จะเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านคนหนึ่ง แต่ส.ส.ฝ่ายค้านคนนี้จะทำงานกระตุ้นรัฐบาลให้รู้หน้าที่ของตัวเอง และเป็นผู้ที่สะท้อนเสียงของประชาชนว่าพวกเขาเดือดร้อนเรื่องอะไร
อยากเรียนไปถึงนายสิระให้เข้าใจบทบาท ส.ส. อย่าใช้สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชนมาขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นทำงาน และสิ่งที่ท่านทำไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กับประชาชน ดิฉันอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ อยากเห็นการเมืองที่ทุกคนทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสนใจการเมืองในอนาคต” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การที่นายสิระอ้างว่า เลือก ส.ส.กทม. เขต 9 ก็เป็นเพียงแค่ ส.ส.คนหนึ่ง เข้าไปแล้วจะบริหารจัดการอย่างไรในเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นี่เป็นความไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่และกลไกของการเลือกตั้งและระบอบประชาธิปไตย หน้าที่ ส.ส. คือการกระตุ้น ทั้งการตั้งกระทู้ถามหรือหารืออภิปรายในสภา เพื่อชี้ช่องทางให้รัฐบาลกระจ่างว่า เรื่องการทำราคาค่าครองชีพให้ต่ำเป็นหน้าที่ของรัฐและสามารถทำได้ไม่ยาก
“นอกจากนี้ นายสิระรู้ได้อย่างไรว่า หลังเลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้เป็นรัฐบาล วันนี้เสียงสองฝั่งก็ปริ่มน้ำ และเราก็รู้กันอยู่ว่ามีกระบวนการมีการเคลื่อนไหวของสมาชิกภายในพรรคของท่าน ท่านกลับไปดูที่บ้านของท่านเถอะ ถ้าเลือกนายสุรชาติให้ชนะถล่มทลาย จะเป็นสัญญาณไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเวลาของท่านหมดแล้ว
ดีไม่ดีพล.อ.ประยุทธ์อาจจะลาออกก็ได้ ถ้าลาออกสภาก็คัดสรรกันใหม่ วันนั้นพรรคเพื่อไทยอาจมาเป็นรัฐบาลก็ได้ และสิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ไม่สามารถทำได้ ถ้าพวกผมเข้าไปจะทำให้ดูว่าไม่ใช่เรื่องยาก มันเป็นเรื่องที่เราศึกษาวิเคราะห์มาดีแล้ว และเป็นนโยบายของพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งอยู่แล้ว นี่คือกลไกการเลือกตั้งของสภาฯ และระบอบประชาธิปไตย ท่านไม่รู้หรอกว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมเห็นเค้าลางแล้วว่ารัฐบาลชุดนี้ไปไม่รอด เวลาของท่านหมดแล้ว” นายจุลพันธ์ กล่าว
ระทึกยามดึก ไฟไหม้ โรงงานทำพลาสติก ย่านไทรน้อย ระดมกำลังเข้าดับ ยังคุมไม่ได้ ลุกลามต่อเนื่อง เตรียมสอบสวนหาสาเหตุ และประเมินความเสียหายต่อไป
วันที่ 27 ม.ค.2565 ทางทวิตเตอร์ของสวพ.91 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานทำพลาสติก ย่านไทรน้อย จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่รีบระดมรถดับเพลิงไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อควบคุมไฟโดยเร็ว เบื้องต้นไฟยังลุกลามอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนโดยรอบ
ทั้งนี้จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณถนนต้นเชือก-ไทรน้อย ต.หนองเพรางาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งเร่งอพยพผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่จุดเกิดเหตุโดยเร็ว โดยตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟไว้ได้
เบื้องต้นพบว่าโครงสร้างหลังคาบางส่วนของโรงงาน เริ่มมีการทรุดตัว และเพลิงยังไหม้ลุกลามภายในอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังวางแผนเร่งดับไฟโดยเร็ว ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อสาเหตุที่แท้จริงและประเมินความเสียหายต่อไป
เครดิตภาพ FM91 Trafficpro
Crytek สตูดิโอเกมจากเยอรมนี เจ้าของแฟรนไชส์ Crysis ประกาศทำ Crysis 4 อย่างเป็นทางการแล้ว
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอื่นใดของ Crysis 4 นอกจากระบุว่าเกมเพิ่งเริ่มพัฒนา (in early stages of development) จึงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ
Crytek ทำเกม Crysis 3 เมื่อปี 2013 และหลังจากนั้นหันไปทำเกมอื่นๆ หลายเกม เช่น Ryse: Son of Rome, The Climb (VR), Hunt: Showdown และเพิ่งกลับมารีมาสเตอร์ Crysis สามภาคแรกไปเมื่อปี 2020
ที่มา - Crytek
It's time to join the journey and be the hero.A Crytek Announcement. pic.twitter.com/Ohbux0w0s5
— Crytek (@Crytek) January 26, 2022
นางกิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ผู้รับผิดชอบงานด้านการดูแลพยาบาลและสุขภาพจิตแถลงว่า รัฐบาลมีแผนจะออกกฎหมายห้ามการผ่าตัดทำสาวหรือ "รีแพร์" รวมทั้งห้ามการตรวจเยื่อพรหมจรรย์ของสตรีในเร็ว ๆ นี้
นางคีแกนระบุว่าการออกกฎหมายใหม่ดังกล่าวมีขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้หญิงและเด็กสาวจำนวนมาก ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขู่บังคับให้ต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์ข้างต้น
การทำรีแพร์ (Repair) คือการผ่าตัดซ่อมแซมตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น แต่กรณีที่พบมากในสหราชอาณาจักรนั้นเป็นการสร้างเยื่อพรหมจรรย์ที่ขาดไปแล้วขึ้นมาใหม่ เพื่อให้หญิงที่เข้ารับการผ่าตัดสามารถผ่านการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นหญิงบริสุทธิ์และเข้าพิธีสมรสได้
ความเชื่อในบางวัฒนธรรมถือว่า หญิงสาวที่เยื่อพรหมจรรย์ขาดหรือไม่มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในคืนวิวาห์ จัดเป็นหญิงไม่บริสุทธิ์และไม่มีคุณค่าพอสำหรับเจ้าบ่าว ซึ่งความเชื่อนี้ขัดกับข้อมูลที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เคยชี้แจงไว้ว่า เยื่อพรหมจรรย์สามารถฉีกขาดได้โดยไม่ต้องผ่านการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด และกิจกรรมบางอย่างเช่นการเล่นกีฬาหรือการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดก็ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้เช่นกัน
องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ในปัจจุบันมีอย่างน้อย 20 ประเทศทั่วโลกที่ยังทำการตรวจพรหมจรรย์หญิงสาวอยู่ ซึ่งการตรวจที่รุกล้ำร่างกายนี้ได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับผู้หญิงจำนวนมาก ส่วนคนที่เยื่อพรหมจรรย์ขาดไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการชิงสุกก่อนห่าม ถูกข่มขืน หรือประสบอุบัติเหตุอื่น ๆ ก็มักจะถูกครอบครัวและสังคมรอบข้างบีบบังคับให้ไปทำรีแพร์ เพื่อรักษาเกียรติของวงศ์ตระกูลเมื่อหญิงผู้นั้นต้องเข้าพิธีสมรส
อะลีนา (นามสมมติ) บอกกับผู้สื่อข่าวของบีบีซีว่า เธอถูกข่มขืนเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นและต้องเผชิญกับแรงกดดันจากครอบครัวเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากพ่อแม่รวมทั้งญาติพี่น้องพากันบังคับให้ไปทำรีแพร์ทั้งที่เธอไม่เต็มใจ
"ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเลือกเลย พวกเขาพยายามยัดเยียดทางออกนี้ให้ฉัน เหมือนกับว่ามันเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ไขความเสียหายและทำให้ฉันกลับเข้าสู่สังคมตามกรอบประเพณีได้อีกครั้ง"
อะลีนาบอกว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างยิ่ง แต่ก็ยืนกรานปฏิเสธไม่ยอมทำรีแพร์เรื่อยมา ในที่สุดเธอหาทางออกได้ด้วยการแต่งงานกับชายที่ไม่ถือว่าเยื่อพรหมจรรย์ของเจ้าสาวเป็นสิ่งสำคัญ "ฉันภูมิใจมากที่สามารถยืนหยัดไม่ยอมตามความต้องการของครอบครัว เพราะทุกสิ่งที่พวกเขายกมาพูดกดดันฉัน ก็แค่เพื่อรักษาหน้าและเกียรติของวงศ์ตระกูลเท่านั้น"
นอกจากร่างกฎหมายใหม่ว่าด้วยสุขภาพและการดูแลพยาบาล (health and care bill) จะห้ามการทำรีแพร์และตรวจเยื่อพรหมจรรย์แล้ว ยังมีการแก้ไขข้อกฎหมายให้ผู้ที่ช่วยเหลือหรือพยายามสนับสนุนให้หญิงรับการผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์ จะต้องรับโทษทางอาญาโดยอาจถูกจำคุกได้สูงสุด 5 ปี ส่วนผู้ที่พาตัวหญิงไปรับการผ่าตัดดังกล่าวในต่างประเทศเพื่อเลี่ยงกฎหมาย ก็จะมีความผิดทางอาญาเช่นกัน
บรรดาผู้รณรงค์ต่อต้านการละเมิดสิทธิสตรีบอกกว่า การผ่าตัดทำรีแพร์และการตรวจเยื่อพรหมจรรย์มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันอย่างมาก ไดอานา แนมมี ผู้อำนวยการบริหารองค์กรเพื่อสิทธิของสตรีเชื้อสายอิหร่านและเคิร์ดบอกว่า "ผู้หญิงและเด็กหญิงทุกคนที่เข้ารับการตรวจหรือการผ่าตัดที่รุกล้ำร่างกายแบบนี้ ต่างถูกบังคับมาไม่โดยตรงก็โดยอ้อม เพื่อให้ครอบครัวอวดอ้างได้ว่าพวกเธอเป็นหญิงบริสุทธิ์ และสามารถจัดการแต่งงานแบบคลุมถุงชนตามประเพณีดั้งเดิมให้พวกเธอได้"
"การผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์มักทิ้งบาดแผลทางกายและใจเอาไว้ แต่เกือบครึ่งหนึ่งของกรณีการผ่าตัด กลับไม่อาจทำให้ผู้หญิงมีเลือดออกในคืนวิวาห์ได้ ทั้งยังเสี่ยงที่จะทำให้พวกเธอถูกกลั่นแกล้งรังแก หรือแม้แต่ถูกฆ่าเพื่อรักษาเกียรติในภายหลัง" แนมมีกล่าว
อินทิรา วาร์มา อาสาสมัครที่ทำงานกับสายด่วนให้ความช่วยเหลือสตรีขององค์กรการกุศล "กรรมนิพพาน" (Karma Nirvana) บอกว่าพบหลักฐานที่ชี้ถึงการใช้คนเฒ่าคนแก่ในชุมชนลักลอบตรวจพรหมจรรย์ หรือแม้แต่เชิญหมอมาทำรีแพร์ให้ถึงบ้านแทนที่จะไปทำที่คลินิก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงที่ถูกบังคับหลบหนีหรือร้องขอความช่วยเหลือกลางทาง แต่บริการทางการแพทย์ใต้ดินประเภทนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก และยิ่งทำให้การละเมิดสิทธิของผู้หญิงรุนแรงขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ธีราช ภาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งประจำคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งบนถนนฮาร์ลีย์ของกรุงลอนดอนบอกว่า การทำรีแพร์เพื่อสร้างเยื่อพรหมจรรย์ขึ้นมาใหม่นั้นใช้เวลาเพียงไม่เกิน 45 นาที และมีค่าใช้จ่ายราว 3,000 - 4,000 ปอนด์ (133,500 - 178,000 บาท) การสั่งห้ามสถานพยาบาลต่าง ๆ ไม่ให้ทำการผ่าตัดแบบนี้ จะยิ่งทำให้ระบบลักลอบให้บริการใต้ดินเฟื่องฟูมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้หญิงที่รับการผ่าตัดเอง เพราะแพทย์ไม่อาจติดตามผลการรักษา หรือเข้าแก้ไขได้ทันท่วงทีหากมีโรคแทรกซ้อน
นพ. ภาร์ ยังแสดงความเห็นว่า "ผู้หญิงหลายคนถูกบังคับให้มาทำรีแพร์ ซึ่งผมจะไม่ผ่าตัดให้กับคนที่ไม่เต็มใจเหล่านั้น แต่เราต้องยอมรับว่ามีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ยินยอมพร้อมใจ เพื่อให้ได้การยอมรับจากชุมชนและสังคมของพวกเธอ ดังนั้นทางออกที่ดีไม่ควรเป็นการห้ามผ่าตัดรีแพร์เสียทั้งหมด แต่ควรออกกฎเพื่อวางกรอบกำกับให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัย"
ทวิตเตอร์เผย รัฐบาลทั่วโลกทำสถิติใหม่ ส่งคำร้องลบเนื้อหาทิ้งสูงสุด-ย้ำถือเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ใช้งาน
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า โซเชียลมีเดียทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า รัฐบาลจากหลายประเทศทั่วโลกได้ขอให้ทวิตเตอร์ ลบเนื้อหาออกจากบัญชีผู้ใช้ ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน ของปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา
ในรายงานด้านความโปร่งใสฉบับล่าสุดของทวิตเตอร์ ระบุว่า ในระหว่างเดือน มกราคม-มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้ยื่นคำร้องทางกฎหมายถึง 43,387 ครั้ง เพื่อขอให้ทวิตเตอร์ทำการลบเนื้อหาออกจากบัญชี 196,878 บัญชีผู้ใช้งาน
ทวิตเตอร์เผยว่า นับตั้งแต่ที่ทวิตเตอร์เริ่มรายงานความโปร่งใสครั้งแรกในปีพ.ศ. 2555 บัญชีผู้ใช้ที่ถูกกำหนดและจำนวนการยื่นคำร้องทางกฎหมายระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน ของปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมาถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ คำร้องทางกฎหมายเหล่านี้ ร้อยละ 95 มาจากเพียง 5 ประเทศ โดยส่วนใหญ่มาจาก ญี่ปุ่น รองลงมาคือรัสเซีย ตุรกี อินเดีย และเกาหลีใต้ ทั้งนี้เว็บไซต์ทวิตเตอร์ถูกกีดกันการเข้าถึงในหลายประเทศ เช่น จีนและเกาหลีเหนือ
ทวิตเตอร์ ระบุว่า จากคำร้องดังกล่าว ทวิตเตอร์ได้ดำเนินการ ระงับการเข้าถึงเนื้อหาในบางประเทศ รวมถึง กำหนดให้เจ้าของบัญชีผู้ใช้ลบเนื้อหาที่รายงานบางส่วนหรือทั้งหมดออกโดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54 ของคำร้องทางกฎหมายที่รับเข้ามา
ซินีด แมคสวีนีย์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและองค์กรการกุศลโลกของทวิตเตอร์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ทวิตเตอร์กำลังเผชิญกับความท้าทายแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกพยายามแทรกแซงและลบเนื้อหามากขึ้น ภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ใช้งานนี้ เป็นแนวโน้มที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ซึ่งต้องให้ความสนใจอย่างเต็มที่”
ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียรายใหญ่ต้องเผชิญกับการความท้าทายและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงหน่วยงานที่คอยกำกับดูแลเกี่ยวกับเนื้อหาที่โซเชียลมีเดียจะอนุญาตให้ปรากฏบนแพลตฟอร์ม โดยปีที่ผ่านมาทวิตเตอร์ ต้องรับมืออย่างหนักจากรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น อินเดีย ไนจีเรีย ในเรื่องการควบคุมเนื้อหาและกฎระเบียบ
นอกจากนี้ทวิตเตอร์ ยังต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับแนวทางที่ทวิตเตอร์รับมือกับข่าวลวง และ การใช้ภาษาที่รุนแรง ทวิตเตอร์ระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมารัฐบาลทั่วโลกมีการส่งคำร้องทางกฎหมายให้ลบเนื้อหาที่โพสต์โดยนักข่าวและสำนักข่าว แต่ในปัจจุบันคำร้องทางกฎหมายเหล่านี้ลดลงไปร้อยละ 14 ในช่วงระยะเวลาการรายงานล่าสุด
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 สามารถสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง โดยมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 124,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากปีก่อน มีกำไรสำหรับปี 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปีก่อน ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 21,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อน
ผลการดำเนินงานปี 2564 ที่เติบโตอย่างมั่นคง ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและการกลายพันธุ์ของโควิด 19 การหยุดชะงักของห่วงโซอุปทาน การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าและอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง มาจากการบริหารโมเดลธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นนำเสนอโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ การพัฒนาสินค้านวัตกรรมและการขยายพอร์ตสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบ Organic Expansion และ Merger and Partnership (M&P) และการวางแผนบริหารจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นับจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน SCGP ได้ขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ใช้เงินลงทุนรวมตลอดอายุโครงการประมาณ 40,000 ล้านบาท ทั้งการควบรวมกิจการ (Merger & Partnership หรือ M&P) และการขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ รวม 12 โครงการ ในจำนวนนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ 9 โครงการ ส่วนอีก 3 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการในปัจจุบัน ได้แก่ (1) การขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ของ United Pulp and Paper Co., Inc. (UPPC) ประเทศฟิลิปปินส์ อีก 220,000 ตันต่อปี คาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 (2) ขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศไทยและประเทศเวียดนามอีก 1,838 ล้านชิ้นต่อปี คาดว่าแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 และ (3) โครงการก่อสร้างฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ภายใต้ Vina Kraft Paper Company Limited (VKPC) ด้วยกำลังการผลิต 370,000 ตันต่อปี คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2567
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 เติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน โดยมีรายได้จากการขาย 35,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสำหรับงวด 2,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA เท่ากับ 5,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มากขึ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และบรรจุภัณฑ์อาหาร (Foodservice Products) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปลายปี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศ รวมถึงการรวมผลประกอบการของบริษัทที่ทำ M&P ได้แก่ Go-Pak, Duy Tan, Intan Group และ Deltalab
ส่วนภาพรวมความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการบริโภคที่ฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด 19 โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและซัพพลายเชนทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงภาวะปกติ ในขณะที่ราคาเยื่อกระดาษปรับลดลงจากประเทศผู้นำเข้ารายหลัก
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีพิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2564 ในอัตรา 0.65 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เมื่อวันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายใน 0.40 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 25 เมษายน 2565 ตามรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 7 เมษายน 2565 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือ วันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 เมษายน 2565
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและการบริโภคในปี 2565 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด 19 ในประเทศต่าง ๆ ส่วนค่าระวางเรือขนส่งจะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยกดดันภาคการผลิตและการบริโภค อย่างไรก็ตาม SCGP มีความมุ่งมั่นโดยวางเป้าหมายรายได้จากการขายในปีนี้ที่ 140,000 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากดีลที่ควบรวมกิจการในปีที่ผ่านมาและโครงการขยายกำลังการผลิตที่จะแล้วเสร็จในปีนี้ อีกทั้งบริษัทฯ ได้วางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้งบลงทุน 5 ปี ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักของ SCGP รวมถึงพิจารณาโอกาสขยายการลงทุนที่เหมาะสมในภูมิภาคอื่น ๆ
นอกจากนี้ SCGP ยังคงดำเนินธุรกิจโดยมีสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เป็นกรอบแนวคิดสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่ง โดยในปี 2564 บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment หรือ THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Rising Star Sustainability Awards จาก SET Awards 2021 และได้รับการจัดให้อยู่ในลำดับ Gold Medal จาก EcoVadis Sustainability Rating และเพื่อยกระดับนโยบายด้าน ESG บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ด้วย
แม่ค้าขายไก่ทอด โอด! ราคาวัตถุดิบ ไก่สด น้ำมันพืช แก๊ส ทยอยปรับราคาสูงขึ้นรายวัน ทุนหายกำไรหด หวั่นแบกรับต้นทุนไม่ไหวต้องหยุดกิจการ วอนรัฐปรับกลยุทธ์ช่วยผู้ประกอบการลดราคาต้นทุนการผลิตอย่างเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้า แม่ค้า ขายไก่ทอด ตลาดเซนเตอร์พ้อยท์เมืองตรัง ต่างโอดครวญเพราะได้รับผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าเป็นอย่างหนัก หลังจากที่เนื้อไก่สด น้ำมันปาล์ม ปรับตัวขึ้น ในขณะที่แก๊สหุงต้มก็แจ้งว่าเดือนหน้าปรับราคาขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งสินค้าที่ปรับราคาสูงขึ้นเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารแทบทั้งสิ้น และปรับราคาขึ้นรายวัน ทั้งนี้ร้านค้าเองไม่สามารถปรับราคาสินค้าขึ้นได้เนื่องจากหากปรับราคาลูกค้าหายไปเกินครึ่งแน่นอน ช่วงนี้ยอมเอากำไรน้อย แค่พอจะอยู่ได้ทั้งคนขายและคนซื้อ
นายปริญญา ฉิมมุสิก อายุ 52 ปี เจ้าของร้านหงส์ฟ้าไก่ทอดครัวของคนตรัง กล่าวว่า ตั้งแต่ราคาไก่ น้ำมันพืชขยับปรับราคาสูงขึ้นทางร้านได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่มีกำไรเลย ขาดทุนกำไร ราคาเนื้อไก่ขึ้นมากิโลกรัมละ 24 บาท ปกติกิโลกรัมละ 47 บาท ขึ้นมากิโลกรัมละ 67 บาท น้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดไก่ก็ปรับตัวขึ้น เดือนหน้าแก๊สก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ตนอยากรู้ว่ากระทรวงพาณิชย์ทำอะไรอยู่ นายกรัฐมนตรีทำอะไรอยู่ คิดแต่โครงการคนละครึ่ง ไม่คิดที่จะเอาเงินส่วนละครึ่งมากระตุ้นให้เนื้อไก่ราคาลงบ้าง ฝากรัฐบาลช่วยกระตุ้นลดต้นทุนไก่หน่อย ตอนนี้ทางร้านไม่ได้ปรับราคาไก่เลยเพราะต้องรักษาฐานของลูกค้าของร้าน เพราะตอนนี้ไก่ในท้องตลาดก็กักตุนอยู่มากเหมือนกัน ไก่เดือนเดียวก็สามารถฆ่าได้แล้ว ทำไมรัฐบาลไม่ลงมาช่วยส่วนนี้ด้วย ซึ่งตนบอกเลยว่าในช่วงตรุษจีนราคาไก่ยังขึ้นสูงอีก ตอนนี้ราคาโรงงาน 67 บาท โรงงานแจ้งว่าจะขึ้นถึง 70 บาท ซึ่งหลังจากตรุษจีนราคาสินค้าไม่รู้ว่าจะปรับลดลงหรือปรับตัวขึ้นอีก ตนเองก็ไม่มั่นใจเพราะหน้าฟาร์มเขาแจ้งมาแล้วจะปรับขึ้นราคาอีกล็อต
ส่วนราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวสูงขึ้นทางร้านได้รับผลกระทบเพราะราคาเนื้อไก่ก็สูงมาเจอราคาน้ำมันพืชปรับตัวขึ้นอีก ตนต้องเลี้ยงลูกน้อง รักษาฐานลูกค้า ถึงแม้ลูกค้าจะเข้ามาอุดหนุนมากแต่ขายไม่มีกำไร ทางร้านต้องหยุดขายทุกวันเสาร์นี่คือผลกระทบของร้านขายไก่ทอด ส่วนร้านขายไก่ทอดจะขายไม่ได้เลยเพราะขาดทุน ถึงแม้จะขายเอาจำนวนมากแต่ก็ไม่มีกำไรเลย กำไรได้วันละ 700 -1,000 บาท ต่อวัน ถ้าราคาไก่ วัตถุดิบยังอยู่สภาพอย่างนี้คงต้องปิดกิจการเพราะอยู่ไม่ได้จริง ๆ ทางร้านต้องใช้แก๊สวันละ 5 ถัง น้ำมันพืชใช้วันละ 20 ลิตร ในการทอดไก่ในแต่ละวัน
ทางด้าน นางวิไลพร วงศ์วิวัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านโกเส่งไก่ทอด สาขา 1 กล่าวว่า ตั้งแต่มีการปรับราคาเนื้อไก่ น้ำมันพืชปรับตัวสูงขึ้นทางร้านได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก กำไรลดลงเยอะมาก ซึ่งตรุษจีนนี้ราคาเนื้อไก่ยังปรับราคาสูงขึ้นเพราะหน้าฟาร์มได้แจ้งราคามาแล้ว มีการปรับตัวแต่ไม่สามารถปรับราคาได้เลย เอาเพียงแค่พออยู่รอด เพราะขึ้นราคาขายไม่ได้ ส่วนหลังตรุษจีนที่ผ่านมาราคาลดลงแต่ปีนี้ตนไม่แน่ใจว่าราคาจะลดหรือไม่ ตอนนี้ราคาปรับตัวขึ้นทุกวันเป็นรายวันเลยทีเดียว
24 ม.ค.2565 - นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) โพสต์ข้อความถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล เปิดตัวนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าเคารพในตัวคุณวิโรจน์ ซึ่งก็เป็นคนมีความสามารถและพร้อมชน ตามแคมเปญที่ว่าไว้ การมาลงผู้ว่าฯ ก็มีต้นทุน ประเทศต้องเสีย ส.ส. ที่อภิปรายดีไปคนนึง เสียเก้าอี้ฝ่ายค้านไปฟรีๆ หนึ่งที่นั่งในยามที่สภาสั่นไหว
ใครจะครหาว่าตัดคะแนนกันเอง ไม่มียุทธศาสตร์นั้น ก็ว่ากันไป ก็แล้วแต่พรรคจะตัดสินใจยังไงก็เรื่องของเขา
แต่ติดใจการวางแคมเปญที่ปูมายาวเป็นเดือน ปูมาแบบมั่นใจมาก แต่ละคนในพรรคบอกเหมือนกันให้รอวันที่ 23 พูดเหมือนจะยิ่งใหญ่ เปิดมาต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ บอกว่า “ใหม่ ชัด โดน” พอเปิดมาที่แน่ๆ เลยคือไม่ “ใหม่” ละ
เข้าใจได้ว่า พรรคอาจจะไม่มีคนที่ดีกว่า เด่นกว่านี้ กล้ามาลงกับพรรคที่ท้าชนกับสถาบันฯ จะถูกยุบเมื่อไรไม่รู้ และไม่มีเงินจะให้ แต่ถ้าคนของพรรครู้อยู่แล้วว่า จะเป็นวิโรจน์ จะบิ๊วแคมเปญมายาวนานทำไม แทคติกพีอาร์ที่เหมือนจะแหลมคม ทำให้เกิดบทสนทนากันได้ทุกโต๊ะ คนก็สนุกที่ได้คาดเดากันต่างๆ แต่พอเปิดมาแล้วมันไม่ใหม่ ไม่เซอร์ไพรส์ ไอ้ความพยายามที่บิ๊วให้คนอยากรู้เลยกลายมาเป็นเข็มกลับมาทิ่มแทงตัวเอง ว่า “โถ… ก็ไม่มีอะไร”
ได้ผลตรงกันข้ามกลายเป็นภาพลักษณ์ว่า เป็นพรรคที่ไม่มีตัวเลือก ไม่มีของใหม่แล้ว แต่วางตัวน่าหมั่นไส้ เหมือนใหญ่โต
ถ้ารู้ว่าไม่มีตัวเลือกใหม่แล้ว ก็ควรจะวางแผนเปิดตัวธรรมดาๆ ขายนโยบาย ขายความตั้งใจ อย่าขายตัวคน อย่าขายว่าหน้าตาดี
ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร แต่เห็นว่าแผนพีอาร์งวดนี้จะทำพรรคล่มจม
ผู้จัดการไอลอว์ โพสต์ด้วยว่า คำว่า “คนกรุงเทพ” มีมิติที่ซับซ้อนมากมาย
ผมเป็นคนที่เกิดในกรุงเทพมหานคร เรียนอนุบาล ประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยในกรุงเทพโซนเมืองเก่า เขตพระนคร-ดุสิต แต่เมื่อทำงานมาใช้ชีวิตโซนเมืองใหม่ เขตห้วยขวาง-ลาดพร้าว กว่าสิบปีแล้ว วิถีชีวิต วิธีคิด และความต้องการของคนในสองโซนต่างกันมากทั้งที่ห่างกันแค่สิบกิโล
ยังไม่นับเพื่อนที่อยู่เขตบางแค บางนา หนองจอก ดอนเมือง ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันเลย บางคนทะเบียนบ้านอยู่ชานเมืองแต่ใช้ชีวิตทั้งหมดในเมือง บางคนทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพ แต่ตัวไม่อยู่ (มาฝากลูกเข้าโรงเรียนดัง) ดังนั้น การบอกว่าจะทำเพื่อ “คนกรุงเทพ” มันเป็นอะไรที่ยากมาก ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากจุดไหนบ้าง ชี้วัดลำบาก เพราะไม่มีอะไรที่ทำอย่างเดียวหรือสองอย่างแล้วคนทุกคนในกรุงเทพได้ประโยชน์ไปพร้อมกันได้
แฟนผมเรียนจุฬาจบมาก็อยู่กรุงเทพด้วยกันมา 5 ปี รวม 10 ปีแล้ว แต่ทะเบียนบ้านอยู่ชลบุรี เพื่อนสมัยมหาลัยใช้ชีวิตด้วยกันในกรุงเทพ เรียนเล่นเที่ยวทำกิจกรรมในกรุงเทพมา 35 ปี บ้านมันนั่งรถเมล์ไปนิดเดียวก็ถึงเรียกนนทบุรี รปภ.ที่บ้าน อยู่ห้องเช่าใจกลางกทม. ใช้ชีวิตมาหลายปี มีสัญชาติลาว ทะเบียนบ้านอยู่ลาว
ในเมืองหลวงแห่งนี้มีคนจากทุกจังหวัดและหลายประเทศมาอยู่อาศัยรวมกัน ยอมมาใช้ชีวิตอยู่อย่างแออัด ยอมทำงานที่ไม่อยากทำ ดิ้นรนเพื่อหาโอกาสจะมีชีวิตที่ดีกว่า โดยหวังว่าวันหนึ่งจะสะสมทรัพย์สินมากพอได้ “กลับบ้าน” แต่นานเข้าๆ ก็ยังไม่ได้กลับ
พวกเขาทุกคนต้องการชีวิตที่ดี ชีวิตที่ลงตัว ต้องการอาหารราคาถูกที่สะอาดปลอดภัย ต้องการไฟฟ้าน้ำประปา อากาศบริสุทธิ์ ต้องการทางเท้า ต้องการคลองน้ำใส ต้องการพื้นที่สีเขียว ต้องการเดินไปโรงเรียนได้ ต้องการระบบสาธารณสุขที่ใกล้บ้านและฟรี ฯลฯ เหมือนและเท่าๆ กับคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดนี้แหละ
แต่พวกเขาไม่มีสิทธิเลือกอะไรในเมืองนี้ด้วย
และคนที่หาเสียงก็อาจจะไม่ต้องคำนึงถึงพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะลงคะแนนให้
ดังนั้น ในฐานะที่มีสิทธิกา ก็อยากจะกาให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯ ที่หยุดพูดว่าจะทำเพื่อ “คนกรุงเทพ” แล้วลงมือทำไอ้สิ่งที่มันควรจะทำซะ มีความฝันอยากเห็นอะไรก็ขายออกมาชัดๆ แล้วก็ทำไปเพื่อทุกคนนั่นแหละ!
ถ้าทำอะไรให้มันดีขึ้นมาได้สักอย่าง ทุกคนก็ได้ประโยชน์ไปพร้อมกันไม่ว่าทะเบียนบ้านจะอยู่ที่ไหน แล้วทั้งหมดมันก็จะเดินไปข้างหน้าได้อยู่ดีนั่นเอง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 54,576 ราย สร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วประเทศ โดยมียอดติดเชื้อโควิดรายวันเพิ่มขึ้น 100 เท่าใน 3 สัปดาห์นับตั้งแต่ที่มีผู้ติดเชื้อเพียง 534 รายในวันที่ 1 ม.ค.
จังหวัดส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นมียอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยกรุงโตเกียวรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,227 ราย ตามด้วยจังหวัดโอซากาที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,375 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศและความวิตกว่าระบบสาธารณสุขจะรับภาระไม่ไหว รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน (Quasi-emergency) ไปแล้ว 16 จังหวัด
นอกจากนี้ อีกหลายจังหวัดยังได้ขอหรือกำลังเตรียมยื่นขอให้รัฐบาลกลางใช้มาตรการดังกล่าวกับจังหวัดของตนอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยมาตรการนี้อนุญาตให้ผู้ว่าประจำจังหวัดสามารถสั่งให้ร้านอาหารและบาร์ปิดทำการก่อนเวลาปกติ และห้ามหรือจำกัดการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลายพื้นที่ในญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหากับการระบาดระลอกที่ 6 และยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งประเทศสูงทะลุ 2 ล้านรายไปแล้วเมื่อไม่นานนี้
“ตำรวจ-พาณิชย์-ปศุสัตว์” เดินหน้ากวาดล้างนายทุนกักตุนเนื้อหมูทั่วประเทศ กว่า 971 แห่ง พบทำผิด 9 แห่ง เหตุไม่มีเอกสารแจ้งย้ายซากสุกร
วันนี้ (23 ม.ค.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตน รับผิดชอบ กำกับ ดูแล บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กักตุนซากสุกรเพื่อเก็งกำไร จนทำให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้น เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับประชาชน ทั้งนี้ ได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้
1. ร่วมกับเจ้าหน้าที่พาณิชย์ ปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันออกตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ได้รับข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ให้ครบถ้วน และสืบสวนหาข่าวเชิงลึกข้อมูลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็นที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
2. เชิญเจ้าของ/ผู้ให้เช่า หรือผู้ดูแลสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนที่ราคาจำหน่ายซากสุกรในพื้นที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นถึงปัจจุบัน มีผู้ใดหรือบริษัทใด ฝาก/เช่าสถานที่เก็บซากสุกร แต่ละรายที่นำฝากมีสถิตินำเข้า-ออก เพิ่ม ลด ผิดปกติหรือไม่ อย่างไร
3. เชิญบุคคล หรือบริษัทที่นำซากสุกรมาฝากในสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น มาให้ข้อมูล เพื่อทราบจำนวนซากสุกรที่นำมาฝาก และตรวจสอบการเงินว่ามีความผิดปกติหรือไม่
4. หน่วยที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ร่วมกับศุลกากร ด่านกักกันสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดกั้นและป้องกันการลักลอบนำซากสุกรเข้าในประเทศ
5. กำชับการตั้งด่านตรวจหรือจุดตรวจ หากพบมีการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หรือหากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำความผิดอื่นๆ ที่เป็นการฝ่าฝืน กฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า กรณีห้องเย็นในจังหวัดปริมณฑลที่ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีจำนวน 9 บริษัท ที่อาจเข้าข่ายมีความผิด เนื่องจากไม่มีเอกสารแจ้งการเคลื่อนย้ายซากสุกร และไม่มีการแจ้งปริมาณซากสุกรในความครอบครอง เกิน 5,000 กก. อาศัยอำนาจเจ้าพนักงานปศุสัตว์ อายัดซากสุกร รวมกว่า 895,739.54 กก. ไว้เป็นเวลา 15 วัน หากไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ ต่อไป
สำหรับการตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าแช่แข็งหรือห้องเย็น ตลาดสด ศูนย์การค้า และสถานที่อื่นๆ ที่ใช้เก็บซากสัตว์ ในภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. จนถึงขณะนี้มีการเข้าตรวจสอบแล้ว จำนวน 971 แห่ง พบการกระทำความผิด 9 แห่ง
นอกจากนี้ ที่จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ศุลการกรจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถจับกุมผู้ต้องหาขับขี่รถเทรลเลอร์ลากพ่วง บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ภายในพบเนื้อหมูส่วนใหญ่เป็นหมูสามชั้น บรรจุใส่ถุงแช่แข็งกว่า 21,000 กก. วางทับซ้อนกันจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยไม่มีใบอนุญาตขนย้าย
เมียหลวงคนไทยโพสต์เฟชบุ๊กตามหาเมียน้อยชาวลาว หลังหอบลูกหนีหายไป 9 วัน สามีเป็นห่วง ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
จากกรณีมีการแชร์ภาพเด็ก 2 ขวบหายออกจากบ้าน โดยระบุว่า #ประกาศตามหาเด็กหาย เป็นเด็กชาย อายุ 2 ขวบม.1 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หายไปตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. โดยเด็กได้หายไปขณะยายให้น้องนั่งเล่นอยู่ในสวน กลับมาหาหลานอีกทีพบว่าหลานหายไปแล้ว จนถึงวันนี้ ( 9 วัน) ยังไม่เจอน้อง แม่ของเด็กได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ภูเขียว แล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ม.ค.) ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้โพสต์ พบกับ น.ส.หนึ่งฤทัย อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลผักปัง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และสอบถามข้อมูล
น.ส.หนึ่งฤทัย เล่าว่า ตนและสามีอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว กระทั่งไปรับ นางสิน อายุ 38 ปี ราษฎรชาวลาว มาอยู่ด้วยเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากนั้นนางสินได้มีลูกกับสามีของตน 1 คน ตนเองก็ยอมรับให้สามี นายโมก อายุ 40 ปี มีภรรยาเพิ่มอีก 1 คน เพราะตนนั้นไม่อยากให้นางสินนั้นทำแท้ง ตนเลี้ยงลูกของนางสินมาเกือบ 2 ปี ไม่เคยให้อดอยาก
กระทั่งล่าสุดนางสินได้แอบหนีออกจากบ้านไป ตนเห็นสามีกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่เป็นอันทำงานทำการ ตนจึงโพสต์เฟชบุ๊กตามหาเพื่อไม่อยากให้หนีออกจากบ้าน และอยากให้กลับมาอยู่ที่บ้านตามเดิม พร้อมกับได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อตามหาคนหายไว้อีกทาง
ด้าน นางเขี่ยม อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.จุมพล ก็ได้เดินออกตามหาบริเวณป่าใกล้บ้าน เมื่อ 2 วันก่อน ก็พบสิ่งของของหลานตนเองก็ได้นำกลับมาบ้าน ซึ่งตนก็อยากให้ทั้งแม่และลูกคู่นี้กลับมาอยู่บ้าน และประกาศตามหาเพื่อให้กลับมาอยู่บ้านเกรงจะเกิดอันตรายอีกด้วย
พระครู ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เมียฝรั่ง ถูกฆ่าทิ้งไร่ข้าวโพด เผยสิ่งผิดปกติ ต้องทำพิธีถึง 3 รอบ ด้าน พนักงานสอบสวน เล่าเรื่องแปลก ก่อนวันผู้ต้อ...